ข้อมูลจาก www.facebook.com/oakpanthongtae
พานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบะข้อความดังนี้
โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ผู้สมัครฯแต่ละท่าน มักจะ "โชว์จุดขาย" ที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดครับ
ผู้ที่คิดไปว่า สิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้นั้น เป็นที่ประทับใจคนกรุงเทพฯอย่างหามิได้ และยืนยันที่จะยึดแนวทางการทำงานแบบเดิมๆของตน แคมเปญก็จะออกมาเป็น.........."ทำแล้ว ขอทำต่อ"
ผู้ที่เห็นว่า การบริหารงานของกทม.ที่ผ่านมายังไม่ได้เรื่อง ตนเองน่าจะเป็นนักบริหารที่สามารถทำในสิ่งที่ดีกว่าเดิม ให้กับชาวกทม.ได้ แคมเปญก็จะออกเชิญชวนให้.........."ร่วมกันเปลี่ยนกรุงเทพฯ"
หรือบางแคมเปญก็เป็น........... "เชื่อแบบเดิม เลือกแบบเดิม ได้กรุงเทพฯแบบเดิม"
ผู้ที่เห็นว่า กทม.กับรัฐบาล ควรร่วมมือกันทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชน อย่างแท้จริงเสียที เลิกโยนความผิดให้กับพรรคฯอื่นได้แล้ว ก็จะเสนอแคมเปญเป็น............. "หยุดขัดแย้งการเมือง มุ่งเรื่องปากท้องคนกรุง"
สำหรับผม แน่นอนว่าแคมเปญ........... "ทำงานร่วมกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ" ของพล.ต.อ.พงศพัศฯ เบอร์9 โดนใจสุดๆครับ เพราะผมเชื่อว่า หากผู้ว่าฯกทม.ทำงานแบบ One Man Show หรือสามารถประสานได้แต่ฝ่ายค้าน ไม่ยอมประสานกันรัฐบาลแบบกลมเกลียวกันแล้ว ไม่มีทางที่กทม.จะเจริญก้าวหน้าได้อย่างเต็มที่เพราะ
"ไร้รอยต่อ = ไร้เงื่อนไขทางการเมือง = ไร้ความขัดแย้ง" ครับ
การหาเสียงในเชิงสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่เราควรสนับสนุนครับ ก็หวังว่าในโค้งสุดท้าย จะไม่มีการหาเสียงสไตล์การเมืองน้ำเน่าในอดีต ประเภทส่งคนไปตะโกนในโรงหนังว่าปรีดีฆ่าในหลวง หรือออกแคมเปญประเภท จำลองพาคนไปตาย, ไม่เลือกเราเขามาแน่ หรือขโมยคะแนนเสียงผู้สมัครฯท่านอื่น ที่อุตส่าห์เดินหาเสียงมาเป็นเดือนๆ มาเป็นของตัวเองหน้าตาเฉย ด้วยข้ออ้าง "ไม่ให้เสียงแตก"
หาเสียงในสไตล์คุ้นๆ แบบที่ผมว่าไว้ในตอนท้ายนี้แหละ ที่เป็นตัวถ่วงความเจริญของการเมืองไทยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น