แม้ยังไม่ใช่เวทีสุดท้าย แต่ชัดเจนว่าอีก 5 วันที่เหลือพรรคประชาธิปัตย์จะใช้วิธีวาดความกลัว ขายความกลัว กับคนกรุงเทพฯ เพื่อให้หันมาเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 16 แทนการเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 9 พรรคเพื่อไทย
เวทีปราศรัยเมื่อค่ำวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยประโยคเผาบ้านเผาเมืองเพื่อกระตุ้นคนเมืองหลวงให้คิดถึงภาพเก่าๆเมื่อปี 2553 เพื่อผูกโยงไปถึงพรรคเพื่อไทย และกระทบชิ่งไปถึง พล.ต.อ.พงศพัศ แม้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้แต่ลูกพี่ใหญ่อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา ก็เอากับเขาด้วย
นายชวนปราศรัยตอนหนึ่งว่า “...ใครสั่งเผาบ้านเผาเมือง ไม่สามารถนิรโทษกรรมหรือมาสั่งลดโทษตัวเองได้ ดังนั้น ประชาชนต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกพรรคไหน บ้านเมืองต้องมีรอยต่อ อย่าให้ใครกินรวบ ซึ่งรอยต่อหมายถึงระบบการตรวจสอบ คานอำนาจ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้ขอบเขต ไม่ใช้อำนาจข้ามกัน...”
เผาเมืองบ้านเมืองต้องมีรอยต่อเพื่อคานอำนาจ คือมุมมองของนายชวน ซึ่งอาจต่างจากการมีรอยต่อแบบขัดแข้งขัดขาจนงานไม่เดินในมุมมองของประชาชน
ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า “...การที่กลุ่มรัฐบาลไม่ให้พูดเรื่องเผาบ้านเผาเมืองนั้น ก็เพราะเป็นเรื่องที่แทงใจดำ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ฝ่ายรัฐบาลคงคิดว่าคนกรุงเทพฯลืมไปแล้ว ซึ่งอยากจะบอกว่าวันนี้เราลืมไม่ได้ เพราะในอนาคตรัฐบาลจะเอากรุงเทพฯเป็นตัวประกัน และนำกรุงเทพฯมาสู่สมรภูมิอีกครั้ง...
...หากคนของรัฐบาลจริงใจ ทำไมไม่เคยได้ยินคำขอโทษเลย และในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยก็เป็นตำรวจอยู่ จึงอยากถามว่าทำไมไม่ออกมาทำอะไรเพื่อคนกรุงเทพฯบ้าง ซึ่งหากวันนี้ชาวกรุงเทพฯยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกใคร ก็ขอให้ดูว่าใครจริงใจมากกว่ากัน...”
ประโยคที่ว่า หากคนของรัฐบาลจริงใจ ทำไมไม่เคยได้ยินคำขอโทษเลย ก็มีเสียงสะท้อนกลับเหมือนกันว่า
รัฐบาลที่บริหารสถานการณ์จนมีคนตาย 99 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ทำไมไม่คิดขอโทษประชาชนบ้าง
ขณะที่ประโยคที่ว่า ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยก็เป็นตำรวจอยู่ จึงอยากถามว่าทำไมไม่ออกมาทำอะไรเพื่อคนกรุงเทพฯบ้าง
ก็มีคำถามกลับเช่นกันว่า คนพูดไม่รู้หรือว่ารัฐบาลที่ตัวเองร่วมนั่งบริหารอยู่ด้วยนั้นตั้งใจใช้กำลังทหารกับผู้ชุมนุมเป็นหลัก และการเป็นตำรวจก็ใช่ว่าคิดจะทำอะไรก็ได้ เพราะต่างมีบทบาทตามตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง
ข้ามมาถึงหัวหน้าพรรคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังปราศรัยถึงการเผาบ้านเผาเมือง และยกย่อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่กล้าขัดแย้งกับรัฐบาลเพื่อคนกรุงเทพฯในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554
ชัดเจนว่าไม่ได้ไยดีต่อความเดือดร้อนของคนนนทบุรี ปทุมธานี บางส่วนของนครปฐม หรือแม้แต่คนที่อยู่ชายขอบของกรุงเทพฯ อย่างฝั่งธนบุรี หนองจอก ดอนเมือง ที่ต้องจมน้ำนานนับเดือน
คนชายขอบของกรุงเทพฯเหล่านี้ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากความกล้าขัดแย้งกับรัฐบาลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่ทำให้การระบายน้ำไม่สะดวก
บางทีการปราศรัยโดยบิดประเด็นเพื่อเอาดีใส่ตัวโยนชั่วใส่คนอื่นก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะความน่าเชื่อถือขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้พูด
คำพูดของคนในพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่วันนี้ถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับเดียวกันกับ ส.ส.วัชระ เพชรทอง ที่หน้าแหกจากการเอารูป น.ส.อามีนา กูล หรือไอซ์ ดารา มาโมเมแถลงข่าวเป็นลูกสาวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ข้อเท็จจริงของรัฐบาลที่บริหารสถานการณ์จนมีคนตาย 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน
ข้อเท็จจริงในความเดือดร้อนของคนชายขอบกรุงเทพฯจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ เพราะความไม่ร่วมมืออย่างจริงใจในการแก้ปัญหาของผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์
เหล่านี้ต่างหากคือ “ความจริง” ที่คนกรุงเทพฯ...ต้องรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น