Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เปิดแฟ้มลับ…..องค์กร (ลับ) ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ตามเหตุการณ์ ทันกระแสโลก
จาก RED POWER ฉบับที่ 33 เดือนกุมภาพันธ์  2556
โดย ทนงศักดิ์ ปิ่นถาวร e-mail: tanongsak.pinthaworn@gmail.com



“ ในค่ำคืนที่มืดมิดและหนาวเย็นของปี 1995 ในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อ นาปาร์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ผู้คนกำลังหลับใหล ได้ปรากฏฝูงบินฮอริคอปเตอร์ ลำเลียงขนาดใหญ่ สีดำทะมึนกว่า 10 ลำ แผดเสียงก้องทำลายความเงียบไปอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหน้าไปสู่เทือกเขาทางทิศใต้ของเมือง ซึ่งฮอริคอปเตอร์ทั้งหมดไม่ได้ติดสังกัด หรือแสดงสัญลักษณ์ว่ามาจากหน่วยงานใด กองทัพ หรือเหล่าไหน …….สิ่งที่เห็นมีเพียงสีดำที่กลืนไปกับความมืดในยามราตรี” นี่คือคำบอกเล่าของชาวเมืองนาปาร์ แคลิฟอร์เนีย ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในช่วงไม่ถึง 1 นาที ที่ได้เห็นบนฝากฟ้าบ้านเกิดของตัวเอง…..


 
ตามเหตุการณ์ ทันกระแสโลก ฉบับนี้ขอรับใช้ท่านผู้อ่านด้วยเรื่องราวขององค์กรลับแต่ทรงอิทธิพล ที่มีอำนาจจัดการอย่างเบ็ดเสร็จ ที่น้อยคนจะรู้จัก ในดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่แบบการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยนั่นคือสหรัฐอเมริกา
 

ครับท่านผู้อ่าน ฉบับนี้ขอรับใช้ท่านด้วย องค์กรลับที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสหรัฐอเมริกา ที่แม้แต่อำนาจประธานาธิบดี และกองทัพอันเกรียงไกรก็ยังไม่อาจเทียบได้ น่านคือองค์กรที่ชื่อว่า ฟีม่า หรือ FEMA ซึ่งย่อมาจากคำว่า Federal Emergency Management Agency หรือแปลเป็นไทยให้เข้าใจได้ง่ายว่า สำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ แต่ไม่ได้มีหน้าที่หรือทำงานเหมือนกับ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. บ้านเรา ที่ประกาศพื้นที่ใช้กระสุนจริง ยิงชาวบ้านนะครับ   ชื่อของ FEMA ก็บอกแล้วว่า เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อ จัดการ บริหารงาน และรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นความฉุกเฉินทุกรูปแบบ ไม่เพียงแต่เหตุการณ์ที่เป็นความฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกาทุกประเภทด้วย โดยมีอำนาจในการบริหาร สั่งการ ดำเนินการ สกัดกั้น และฟื้นฟูต่อภัยพิบัติทุกประเภท ตั้งแต่การจลาจล การก่อการร้าย ไปจนถึงการวางแผนลอบสังหารต่อตัวผู้นำ และเหนือสิ่งอื่นใด ที่ถือว่าเป็นภารกิจและหน้าที่หลักก็คือ การรักษาไว้ซึ่งความต่อเนื่องและคงอยู่ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะกาล ภายใต้สถานการณ์ใดๆ ก็ตาม บางคนได้พูดถึงหน่วย FEMA นี้ว่าเป็น Secret Government หรือรัฐบาลลับ ของสหรัฐอเมริกา ที่ไม่มีการเลือกตั้ง ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่มีงบประมาณเป็นของตัวเองปีละกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ โดยขึ้นตรงต่อ “คำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี” โดยมีอำนาจพิเศษที่สูงกว่าสภาคองเกรส และรัฐธรรมนูญของอเมริกา มีอำนาจในการยับยั้งกฎหมาย มีอำนาจในการโยกย้ายประชากรทั้งหมดจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง มีสิทธิ์ที่จะจับกุม หรือกักขังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการไต่สวน สามารถปิดล้อมพื้นที่ ควบคุมการส่งเสบียง ควบคุมระบบการจราจร และมีอำนาจในการยับยั้งรัฐธรรมนูญหากฟีม่าพิจารณาเห็นแล้วว่าไม่สามารถอำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงาน

        เมื่อได้ทราบกันแบบนี้แล้วว่า ฟีม่า หรือ FEMA  มีอำนาจล้นฟ้า บารมีคับแผ่นดิน ทีนี้เราลองมาดูกันว่า องค์กร หรือหน่วยงานนี้เค้าทำงานกันยังไง มีกฎหมายใดมารองรับ หากเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “ฉุกเฉิน” ขึ้นมา
 



ฟีม่า (FEMA - Federal Emergency Management Agency) เป็นหน่วยงานภายรัฐของสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นสำหรับปฏิบัติการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อ 1 เมษายน 2522  ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาโดย “คำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี” ที่ 12127 ในปี ค.ศ. 1979  (Presidential Executive Order No. 12127 ) โดยก่อตั้งครั้งแรกในสมัยของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ปรับปรุงโครงสร้างในสมัย ประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) และถูกเพิ่มอำนาจและบทบาทมากขึ้นในสมัยประธานาธิบดี โรนัล เรแกน (Ronald Reagan) และประธานาธิบดี จอร์จ บุช (George Bush) ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ ฟีม่า ตั้งอยู่ในกรุงแอตแลนต้า จอร์เจีย โดยมีสำนักงานย่อยกระจายอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกา แต่กองบัญชาการด้านยุทธศาสตร์ของฟีม่า ตั้งอยู่ที่ฐานที่มั่นลับใต้ดินซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขา เมาท์ เวเธอร์ (Mt. Weather) หรือที่รู้จักกันในนาม ศูนย์ควบคุมปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินเวอร์จิเนียตะวันตก (the Western Virginia Office of Controlled Conflict Operations) โดยถูกซ่อนเร้นโดยสิ่งปลูกสร้างที่ดูแสนจะธรรมดา ทุ่งหญ้าเขียวขจี และสภาพแวดล้อมที่ดูสวยสบายตา แต่ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ครับว่า สิ่งที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินนั้นคือกองบัญชาการทางยุทธศาสตร์ที่มีความสลับซับซ้อน มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่เจ้าหน้าที่กว่า 1,000 คนสามารถปฏิบัติงาน โดยได้รวมเอาเจ้าหน้าที่และฝ่ายบริหารของกระทรวงทุกกระทรวง ทบวงกรมซึ่งสามารทำงาน อยู่กินและนอนได้เป็นแรมปี โดยไม่ต้องโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน โดยมีโรงพยาบาล มีร้านค้า เครื่องผลิตน้ำจืด โรงบำบัดน้ำเสีย และอุปกรณ์สื่อสาร เครื่องตรวจจับสัญญาณที่ทันสมัยและครอบคลุมการสื่อสารแบบทันทีทันใด (real time) ทั่วโลก โดยน้อยคนที่จะรู้จักสถานที่แห่งนี้ แม้แต่วุฒิสมาชิกบางคนก็ยังไม่ทราบว่าสถานที่นี้จะมีอยู่จริง หรืออยู่แห่งหนตำบลใดโดยจุดประสงค์ของตั้งกองบัญชาการนี้อยู่บนสมมุติฐานว่า หากเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นบนโลก และได้กวาดทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นดินของสหรัฐอเมริกา เมาท์ เวเธอร์ นี้ก็จะกลายเป็นที่พักพิงและปฏิบัติงานชั้นยอดที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ทุกอย่างสำหรับผู้นำประเทศและเจ้าหน้าที่ระดับสูงทุกคน


จริงอยู่แม้ว่าฟีม่าจะเป็นที่รู้จักกันในนามของ หน่วยงานบริหารความเสี่ยงและสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีภารกิจในการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย ตามการร้องขอจากรัฐบาลท้องถิ่น แต่นั้นเป็นเพียงภารกิจหนึ่งที่ปกปิดหน้าที่ที่แท้จริงของฟีม่าเอาไว้จากภารกิจลับอีกมากมาย อย่างที่ผมได้เรียนท่านผู้อ่านให้ทราบแล้วตอนต้นว่า จุดประสงค์หลักและถือว่าเป็นความสำคัญสูงสุดของฟีม่าก็คือ การรักษาความอยู่รอด และความต่อเนื่องของรัฐบาลกลางสหรัฐ ไม่ว่าประเทศจะอยู่ในภายใต้ภาวะและสถานการณ์ใด รัฐบาลจะต้องมีตัวแทนและมีสายบังคับบัญชาที่ต่อเนื่องและดำเนินต่อไป ดังนั้นภารกิจหลักของฟีม่าส่วนใหญ่ (ในทางลับ) จะเกี่ยวข้องกับกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคง โดยมีการปฏิบัติเตรียมความพร้อมของ หน่วยทหารต่างๆ เช่น การรบในเมือง การรบในภูเขาและชนบทห่างไกล การควบคุมฝูงชนในเมือง การต่อต้านการก่อการร้าย งานข่าวกรอง การควบคุมการอพยพขนย้ายประชากร การจัดตั้งชุมชนเคลื่อนที่ การเข้าควบคุมโรงไฟฟ้า ควบคุมการจราจร การสัญจรทางทะเล และสั่งการอากาศยาน เอาล่ะครับผมได้รับใช้ท่านผู้อ่านเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และหน้าที่ของฟีม่ามากันพอสมควรแล้ว คราวนี้เราลองมาดูกันว่าอำนาจหน้าที่ของฟีม่าภายใต้การสะบัดปากกาของประธานาธิบดีสหรัฐ ที่รู้จักกันในนามของ “คำสั่งพิเศษประธานาธิบดีสหรัฐ” หรือ Presidential Executive Order จะมีอำนาจสั่งการเฉพาะกาลอย่างไร จากคำสั่งพิเศษดังกล่าวได้ให้อำนาจ ฟีม่า อย่างมากมายล้นหลามในการปฏิบัติการต่างๆ ในภาวะฉุกเฉิน เราลองมาดูตัวอย่างของ คำสั่งพิเศษเหล่านั้นกันบ้างว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ

 คำสั่งพิเศษ ที่10990 (EXECUTIVE ORDER 10990) : อนุญาตให้รัฐบาลกลางจัดการควบคุมการขนส่งทุกประเภท ทั้งทางบก และทางทะเล


คำสั่งพิเศษ ที่  10995  (EXECUTIVE ORDER 10995) : อนุญาตให้รัฐบาลกลางเข้าทำการควบคุมการสื่อสารทุกประเภท


คำสั่งพิเศษ ที่  10997  (EXECUTIVE ORDER 10997):  อนุญาตให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมโรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน และเหมืองแร่ต่างๆ


คำสั่งพิเศษ ที่  10997  (EXECUTIVE ORDER 10998)  : อนุญาตให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมแหล่งอาหาร และฟาร์มต่างๆ ได้


คำสั่งพิเศษ ที่  11000  (EXECUTIVE ORDER 11000) : อนุญาตให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมประชากร และเกณฑ์ไปเพื่อใช้แรงงานตามคำสั่งของรัฐบาลได้


คำสั่งพิเศษ ที่ 11001 (EXECUTIVE ORDER 11001) : อนุญาตให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมสวัสดิการด้านสุขภาพอนามัย การศึกษา และระบบสวัสดิการอื่นๆ


คำสั่งพิเศษ ที่ 11003 (EXECUTIVE ORDER 11003) : อนุญาตให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมสนามบิน อากาศยาน รวมถึงเครื่องบินพาณิชย์ทุกประเภท

คำสั่งพิเศษ ที่ 11004 (EXECUTIVE ORDER 11004) : อนุญาตให้การเคหะแห่งชาติ และสถาบันการเงินเข้าจัดตั้งชุมชนใหม่ สร้างอาคารหลังใหม่ด้วยงบประมาณแผ่นดิน ละทิ้งพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เพื่อก่อสร้างชุมชนใหม่



โดยทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างของคำสั่งพิเศษบางข้อที่ผมได้ยกตัวอย่างมาให้ท่านผู้อ่านได้ทราบ ซึ่งยังมีคำสั่งพิเศษอีกหลายข้อที่ครอบคลุมการปฏิบัติงาน อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานกลางต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ฟีม่า สามารถออกคำสั่งและขอให้ทำการโอนกำลังทหารทุกหมู่ ทุกเหล่า ทุกสังกัด และระดับบังคับบัญชาร่วมของกองทัพ โดยแต่งตั้งให้นายทหารเข้ามารับผิดชอบเพื่อให้เข้ามาปฏิบัติภารกิจภายใต้คำสั่งของฟีม่าได้ สามารถที่จะสั่งปิดพรมแดนทั้งหมดของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นน่านฟ้า พรมแดนทางทะเล และทางบก และมีสิทธิ์เข้าตรวจสอบเอกสาร ธุรกรรมการเงิน ตลอดจนจดหมายของทุกคนได้ และแม้แต่เอกสารที่เราๆ ทั่วไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน บ้าน และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ซึ่งถ้าหากอยู่ในบนทางผ่านเส้นทางน้ำ เส้นทางสัญจร หรือในแผนอพยพหรือแผนบริหารความเสี่ยง ทางฟีม่าก็มีสิทธิ์ที่จะยึดคืนเพื่อนำมาเป็นพื้นที่ภายใต้การบริหารและจัดการได้ทันที หากเกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น  

ขั้นตอนการทำงานของ ฟีม่า จะเริ่มจากจะเข้าไปช่วยจัดการเมื่อทางผู้ว่าการรัฐได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและได้แจ้งเรื่องไปยังประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาให้ทาง ฟีม่า ช่วยจัดการกับภัยพิบัติดังกล่าวการประสานงานของ ฟีม่านอกเหนือจากการจัดการและบรรเทาภัยพิบัติแล้วทางฟีม่ายังมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสายวิชาชีพ ครอบคลุมทุกๆ ด้าน ช่วยในการจัดการทั้งทางด้านบูรณะโครงสร้างพื้นฐาน ประสานงานและช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ฟีม่ายังคงมีการจัดอบรมให้กับทางประชาชนเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาเพื่อไหร่ ทางฟีม่า มีสิทธิ์และกฎหมายรองรับให้เข้ามาจัดการบริหาร และควบคุมได้ทุกอย่าง ไม่เว้นแต่การจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน การดำเนินชีวิตประจำวัน แต่เหตุการณ์และการปฏิบัติแบบนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อเกิหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นเท่านั้น

เมื่อได้ทราบที่ไปที่มา ตลอดจนขอบข่ายอำนาจหน้าที่ที่ล้นฟ้าเหนือดินแดนพญาอินทรีแล้ว ผมก็จะขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ ฟีม่า ได้เคยปฏิบัติการณ์ หรือถึงขั้นอยู่ในระดับเฝ้าระวังขั้นสูงสุดมาแล้วให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกัน ดังเช่นในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1984 ประธานาธิบดี โรนัล เรแกน ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษที่ 54 อนุญาตใฟ้ฟีม่าจัดการซ้อมปฏิบัติการลับ เพื่อเตรียมความพร้อม ภายใต้รหัส REX 84 โดยทดสอบความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เช่นการจัดเตรียมกองกำลังทหาร ตลอดจนกองกำลังรักษาดินแดนเพื่อเข้าทำการควบคุมและจัดตั้งสถานกักกันประชากรที่อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายกว่า 400,000 คน โดยจะควบคุมในศูนย์กักกันมากกว่า 10 แห่งในฐานทัพต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และเมื่อปี ค.ศ. 1990 เมื่อสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่สงครามอิรักในปฏิบัติการ “พายุทะเลทราย”  โดยก่อนหน้าที่ประธานาธิบดี จอร์จ บุช จะตัดสินใจบุกอิรักนั้น ทางฟีม่า ได้เริ่มวางแผนการรับมือต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นไว้แล้วโดยไม่จำเป็นที่จะต้องรอคำสั่งหรือการอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่น ที่ปกติแล้วจะมีขั้นตอนการปฏิบัติงานตามสายบังคับบัญชาที่เข้มงวดมากในอดีต โดยได้มีการจัดทำแผนรับมือและประเมินสถานการณ์หากเกิดผลกระทบขึ้นมา เช่น เศรษฐกิจตกต่ำ เงินเฟ้อ หรือการเดินขบวนและอาจลุกลามไปสู้การจลาจลและสงครามกลางเมือง อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วยุโรปอันเป็นผลมาจากสงครามอ่าวเปอร์เซีย


สำหรับประเทศไทย เมื่อคราวที่เกิดอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์ในช่วงที่ผ่านมา  กระทรวงการต่างประเทศของไทยก็เคยร้องขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้ความช่วยเหลือประเทศไทยโดยการจัดส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบริหารจัดการ สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติของสหรัฐฯ (Federal Emergency Management Agency : FEMA) หรือหน่วย "ฟีม่า" มาช่วยทางการไทยรับมือกับเหตุน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ  ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของไทยหลังจากก่อนหน้านี้ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินใจส่งทีมผู้เชี่ยวชาญมาช่วยให้คำแนะนำกับไทยในการ วางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศหลาย สำนักระบุว่า  กระทรวงการต่างประเทศของไทย มีความคาดหวังว่า  ประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่จาก "ฟีม่า" ในการรับมือกับภัยพิบัตินานาชนิดในสหรัฐฯ  รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของฟีม่า  จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยเหลือรัฐบาลไทยภายใต้การนำของน.ส.ยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร ในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตคนไทยไปแล้วอย่างน้อย 283 ราย ขณะที่ประชาชนอีกมากกว่า 2 ล้านคนในเกือบ 30 จังหวัดได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ แม้ในขณะนี้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า  นางเจเน็ต นาโปลิตาโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ  ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของ "ฟีม่า" จะตอบรับคำร้องขอของรัฐบาลไทยหรือไม่อย่างไร




ครับ และนี่ก็คือทั้งหมดเกี่ยวกับองค์กรฟีม่า ที่ภายนอกดูหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่จริงๆ แล้วมีภารกิจและอำนาจที่ซ่อนเร้น เป็นความลับ โดยมีอำนาจและงบประมาณมากมายเป็นฉากหลัง ซึ่งรัฐบาลสหรัฐก็มีหน่วยงานลักษณะนี้ที่ใช้ชื่อแสนจะธรรมดา ดูไม่เป็นพิษเป็นภัยไม่ว่าจะเป็น องค์การนาซ่า (NASA) ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (CDC) และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า หน่วยงานทั้งหมดนี้เป็นเครือข่ายการปฏิบัติงานภายใต้ ฟีม่า หมด ดังนั้นเมื่อเรามามองเรื่องใกล้ตัวเราโดยเฉพาะรัฐบาลไทย การที่จะขอความช่วยเหลืออะไรจากประเทศสหรัฐอเมริกา และหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งของเขา เราก็ควรที่จะได้มีคณะทำงานวิเคราะห์และพิจารณาการเข้ามาปฏิบัติงานของหน่วยงานเหล่านี้ เพราะสิ่งที่เราๆ ท่านๆ เห็นและได้อ่านตามบทความและฟังการวิเคราะห์ของนักวิชาการนั้น อาจจะเป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งที่เขาต้องการให้เราเห็น แต่สิ่งที่อยู่ใต้น้ำที่ฐานของภูเขาน้ำแข็งล่ะ เราอาจจะไม่เคยได้เห็นและได้รับรู้ ……..ฉะนั้นแล้วผมก็ขอลาท่านผู้อ่าน และจบงานเขียนแนวไซไฟของผมในครั้งนี้แต่เพียงแค่นี้ครับ พบกันใน Red Power ฉบับหน้ากับเรื่องราวในต่างแดนที่ท่านไม่เคยทราบ ไม่ว่าจะลึกลับ เล่นหนซ้อนกลขนาดไหน ผมก็จะไปขุดมารับใช้ทุกท่านครับ สวัสดีครับ

2 ความคิดเห็น: