โดย ปราบ เลาหะโรจนพันธ์
หมายเหตุ งานเขียนชิ้นนี้เผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊กของ "ปราบ เลาหะโรจนพันธ์" มติชนออนไลน์เห็นว่ามีเนื้อหาน่าสนใจ จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อในเว็บไซต์
เราพูดได้หรือเปล่าครับว่า ThaiPBS เป็นหนึ่งในมรดกจากรัฐประหาร 2549?
หลังจากปิด ITV สำเร็จ แนวคิด พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ก็ถูกดันขึ้น
บริบททางการเมืองในช่วงนั้นรุนแรงเข้มข้น ไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และสังคมแบ่งแยกชัดเจน (เพียงแต่ตอนนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก)
นึกย้อนไปอีกที ในช่วงเวลานั้นเราพร้อมหรือเปล่าครับ
ที่จะมี "ทีวีสาธารณะ" ?
ก็เมื่อที่มาของมัน และกลุ่มผู้บริหาร เลือกข้างอย่างชัดเจนแล้วตั้งแต่ต้น
แล้วมันจะสาธารณะและเป็นกลางได้อย่างไร
วันนี้ได้มีโอกาสดู ThaiPBS ตลอดทั้งวันเลยครับ มีเวลาว่างเลยอยากรู้ว่านอกจาก "ตอบโจทย์" ที่เป็นรายการเดียวที่ผมรู้จักแล้ว
มีรายการไหนที่น่าสนใจบ้าง
ได้ข้อสรุปส่วนตัวออกมาว่า ThaiPBS เป็นช่องทีวีที่น่าเบื่อทีเดียว
เป็นรายการที่พยายามจะทำตัวเป็น "ทีวีสาธารณะ" ของคนไทยทุกคนมาก มีคั่นรายการทำนองว่า "ขณะนี้คุณกำลังดูทีวีสาธารณะ" เป็นภาษาท้องถิ่นต่างๆ
ซึ่งนั่นดู fake สุดๆ เพราะต่อจากนั้นก็ไม่มีรายการที่เป็นภาษาท้องถิ่นแต่อย่างใด นี่คือพื้นที่ทั้งหมดของภาษาท้องถิ่นจริงๆ
ซ้ำร้ายรายการส่วนใหญ่ยังเป็นการพูดถึงทุกข์ชาวบ้านผ่านแง่มุมของชนชั้นกลางในเมือง เชิดชูความเรียบง่ายแบบชนบท ทุกข์ชาวบ้านคือนายทุน คอร์รัปชั่น นักการเมือง ที่เข้ามาโกยทรัพยากรธรรมชาติอันหวงแหน ชาวบ้านในอุดมคติต้องเรียบง่าย พออยู่พอกิน และที่สำคัญต้องทนสุดๆ ยิ่งทนกับความยากจนของตัวเองโดยยิ้มอารมณ์ดีใช้ชีวิตแบบพอเพียงให้เห็นเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น
และถ้าอยากเท่ และดูรักประชาชนเหรอ?
ก็เปิดรายการที่มีคนมาเล่นเพลงคาราบาวให้ฟังบ่อยๆ สิครับ แค่นี้ก็ดูเป็นทีวีสาธารณะที่รักประชาชนทุกคนโดยเฉพาะคนชายขอบแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ThaiPBS จึงไม่มีรายการพูดถึงอีกด้านของทุกข์ชาวบ้าน ที่แก้ด้วยทุน ความเจริญ และเศรษฐกิจแบบทุนนิยมครับ
ช่วงนี้ผมกลับบ้านต่างจังหวัด รู้สึก enjoy กับพิซซ่าซื้อ 1 แถม 1 ที่มาเปิดแถวบ้านเป็นครั้งแรกในระยะห่าง 10 กิโลเมตร ย้อนนึกถึงช่วงเวลาเก่าๆ ที่เรามี 7-11 สาขาแรกของอำเภอ มีธนาคารครบทุกบริษัทเป็นครั้งแรก
สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นกับหัวเมืองในหลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคอีสาน และนักอสังหาริมทรัพย์ก็รู้ดีว่า เมืองหลายแห่งขายคอนโดอย่างเทน้ำเทท่า
บ้านของผมทุกวันนี้ คนทำไร่สับปะรดกำลังปลูกตึกแถวขาย บางคนซื้อตึกแถว เพื่อทำมาค้าขายก็ได้ดิบได้ดีไปหมดตั้งแต่โชว์สวย (ห่วย) ยันร้านหมูกระทะ นักเรียนที่นี่มีงาน Part-time ให้ทำมากกว่านั่งแช่เฝ้าสวนยางที่บ้าน คนท้องถิ่นที่นี่กำลังจะกลายเป็นเศรษฐีและเศรษฐีนี ในขณะที่คนต่างจังหวัดรวมทั้งคนกัมพูชาและเวียดนาม ก็อพยพเข้ามาทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
แต่แน่นอนว่าสิ่งนี้จะไม่ออกจากปากของ "ชาวบ้าน" ในทีวีที่ชื่อว่าทีวีสาธารณะของคนไทย
เพราะสิ่งนี้ขัดต่อภาพจำของ NGOs สายชุมชนจำนวนมากที่กลายเป็นนักจัดรายการในทีวีสาธารณะทุกวันนี้
ทีวีที่บอกว่าตนเองไม่ใช่ทีวีที่แสวงหากำไร
แต่ก็ไร้ประสิทธิภาพในการสื่อสาร
จนบางคนถึงกับกล่าวอย่างรุนแรงว่าเป็นเพียงแหล่งสำเร็จความใคร่ทางอุดมการณ์บางรูปแบบไปแล้วเท่านั้น
จริงๆ แล้วผมไม่ปฏิเสธว่าทีวีสาธารณะเป็นสิ่งที่หลายประเทศมีและตอบโจทย์ในการเป็นพื้นที่ของสาระบางอย่างที่ไม่สามารถสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแต่มีความจำเป็นในสังคม
และการโยงทีวีสาธารณะของไทยในปัจจุบันกับรัฐประหาร หลายคนอาจจะบอกว่าไกลเกินไปหรือไม่เกี่ยวข้องกัน
แต่ถ้ามองย้อนกลับไป แล้วสมมติว่า ThaiPBS เกิดขึ้นในยุคที่ประเทศเรามีประชาธิปไตยแบบเต็มใบ
หรือต่อให้ไม่เต็มใบก็ขอให้มันทำงานได้ในระดับหนึ่งเหมือนทุกวันนี้
การต่อรองเรื่องพื้นที่จัดรายการ เนื้อหาสาระ ระหว่างขั้วทางการเมืองต่างๆ ขั้วทางความเชื่อและอุดมการณ์ต่างๆ ก็จะเกิดขึ้น
ทีวีสาธารณะคงไม่น่าเบื่อ คงไม่เอียงกระเท่เร่แบบนี้
เพราะสิ่งหนึ่งที่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและ ThaiPBS มีเหมือนกันครับ
ทั้งสองคือหน่วยงานที่กินภาษีประชาชน ตัวแทนประชาชน (รัฐบาล) เข้าไปแทรกแซงไม่ได้
แต่ที่อยู่ได้ ก็คือ "ความศรัทธา" ที่ประชาชนมีให้ครับ
แต่ถ้าทำให้ศรัทธาไม่ได้กันเสียแล้ว
... ก็ยุบเถอะครับ
ไม่เป็นภาระของลูกหลาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น