Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555

จากนิติราษฎร์สู่อำนาจของราษฎร

โดย ส.ศิวรักษ์



สภาอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสมาคมนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตลอดจนมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์ประนามการทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นับว่าเป็นการแสดงออกอย่างควรแก่การยกย่อง แต่เหตุไฉนสถาบันการศึกษาอื่นๆ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนจึงยังเงียบอยู่เล่า แต่เพียงแถลงการณ์เท่านั้นยังไม่เพียงพอ

ขอให้ถือว่านี่เป็นนิมิตหมายที่สำคัญ อันเราควรปรับวิกฤตให้เป็นโอกาส และที่มีผู้เสนอให้มีการหยุดเคลื่อนไหวล่ารายชื่อเพื่อแก้ไข มาตรา ๑๑๒ ว่า กำลังของเรามีไม่พอจะรณรงค์เรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันฯ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญ คือการที่ นปช เพื่อไทยยังไงก็คงไม่เอาด้วยแสดงว่านี่เป็นการยอมแพ้อย่างง่ายๆ

ก็การแก้ไขมาตรา ๑๑๒ นั้น คณะนิติราษฏร์มุ่งประสงค์ จะดำรงสถาบันกษัตริย์ไว้ภายใต้รัฐธรรมนูญ ตามเจตนารมณ์ของการอภิวัฒน์สยาม เมื่อปี ๒๔๗๕ ซึ่งจะครบ ๘๐ ปีในปีนี้ แต่แล้วเจตนารมณ์ดังกล่าวได้ถูกพลิกผันไปโดยผู้ที่มีจิตสำนึกทางเผด็จการและเสนาอำมาตยาธิปไตย ซึ่งรวมทั้งคึกฤทธิ์ ปราโมช วิจิตรวาทการ และ ส.ธนรัชต์ ฯลฯ จนถึงธานินทร์ กรัยวิเชียร โดยที่ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เห็นคุณค่าของสถาบันกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญเช่นกัน ทั้งนี้ก็ไม่ต่างกันไปเท่าไรนัก กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถ้าเราศึกษาความเป็นมาของพรรคนี้แล้ว ก็จะเข้าใจได้ว่าพรรคดังกล่าวสนับสนุนการรัฐประหารในปี ๒๔๙๐ ซึ่งทำลายสาระแห่งประชาธิปไตย โดยรักษารูปแบบไว้ หาก ส.ธนรัชต์ก็ทำลายแม้รูปแบบของประชาธิปไตย ต้องการยกเอาสถาบันกษัตริย์มาแทนที่ จนเสกสรรให้สถาบันดังกล่าวศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ด้วยประการต่างๆ และที่เป็นไปได้ก็เพราะความเป็นเผด็จการสุดๆ ของทรราชคนนั้น ซึ่งใช้อิทธิพลในทาง กิน กาม เกียรติ อย่างเลวร้ายยิ่งนัก เขามีวิจิตวาทการเป็นมันสมอง และมีคึกฤทธิ์ ปราโมช สยบยอมอยู่ห่างๆ หากใช้ข้อเขียนสนับสนุนเสนาอำมาตยาธิปไตย และโจมตีขบวนการประชาธิปไตยของคณะราษฎรอย่างแนบเนียนให้ผู้คนหลงเชื่อไปตามๆ กัน จนระบอบราชาธิปไตยกลับคืนมา อย่างอยู่นอกเหนือรัฐธรรมนูญทุกฉบับ โดยที่สถาบันกษัตริย์แนบแน่นอยู่กับกองทัพ ซึ่งไม่ได้มีไว้ปกป้องอริราชศัตรู หากมีไว้เพื่อปราบปรามราษฎร และสถาบันนี้ยังมีอิทธิพลเหนือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อย่างไม่โปร่งใส และไม่ให้ตรวจสอบได้อีกด้วย กองทัพเป็นตัวแทนของโทสจริต ในขณะที่สำนักงานที่เอ่ยชื่อมานี้เป็นตัวแทนของโลภจริต โดยมีสถาบันสงฆ์ที่ฝักใฝ่ไปในทางไสยเวทวิทยาและพุทธพาณิชย์เป็นตัวแทนของโมหจริต

ถ้าไม่แก้ไขให้สถาบันกษัตริย์พ้นไปจากอกุศลมูลทั้งสาม สถาบันอันสำคัญของบ้านเมืองจะดำรงคงอยู่ได้ละหรือ ทั้งนี้โดยไม่จำต้องกล่าวถึงตัวบุคคล ซึ่งดำรงสถานะอยู่ในสถาบันนั้น

การแก้ไขมาตรา ๑๑๒ เป็นเพียงประเด็นหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้สถาบันกษัตริย์มีความเป็นกลางทางการเมือง ให้องค์พระประมุขอยู่เหนือความขัดแย้งของฝ่ายต่างๆ จึงจำเป็นที่สถาบันสูงสุดต้องปลอดไปจากแหล่ง แห่งอกุศลมูลทั้งสามยิ่งๆ ขึ้นทุกที แม้คณะสงฆ์ ซึ่งเต็มไปด้วยอลัชชีที่ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์กันเรื่อยๆ นั้น ก็ทำลายสถาบันกษัตริย์ตลอดมา มิใยต้องเอ่ยถึงกองทัพและสำนักงานทรัพย์สินฯ

การตีพิมพ์หนังสือภาษาอังกฤษออกมายกย่องเทิดทูนพระมหากษัตรย์องค์ปัจจุบัน อย่างปราศจากคำวิพากษ์วิจารณ์ถึงพระจริยวัตรด้วยประการใดๆ อย่างเป็นการตอบโต้กับหนังสือภาษาอังกฤษ ๓ เล่มที่ต้องห้ามเอาเข้าประเทศ แม้แปลเป็นไทยออกมา ถ้าจับได้ก็โดนคดีมาตรา ๑๑๒ ย่อมไม่ช่วยสถาบันกษัตริย์เอาเลย

น่าที่นักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา และปัญญาชนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมจะออกมาแสดงจุดยืนยิ่งๆ ขึ้นว่า เราต้องการประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่พอพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากไม่รับข้อเสนอของเรา ด้วยความเขลา หรือความกลัว หรือเพราะเขาไม่ไยไพกับสถาบัน ที่เขาตีฝีปากว่าจงรักภักดี ก็ใช่ที่เราจะต้องก้มหัวให้เขา คำตอบอยู่ที่มวลชน และการปลุกมวลชนที่ดีที่สุด คือวิถีทางของสัจจะและอหิงสา

ถ้าถามต่อไป ว่าจะรักษาสถาบันกษัตริย์ไว้ภายใต้รัฐธรรมนูญทำไม่กัน ก็ขอให้คำตอบเป็นภาษาอังกฤษดังนี้

The function of the King in promoting stability and acting as a sort of keystone in a non-democratic society is, of course, obvious. But he also has, or can have, the function of acting as an escape-valve for dangerous emotions. A French journalist said to me once that the monarchy was one of the things that have saved Britain from fascism. What he meant was that modern people can’t, apparently, get along without drums, flags and loyalty parades, and that it is better that they should tie their leader-worship onto some figure who has no real power. In a dictatorship the power and the glory belong to the same person. In England the real power belongs to unprepossessing men in bowler hats: the creature who rides in a gilded coach behind soldiers in steel breastplates is really a waxwork. It is at any rate possible that while this division of function exists a Hitler or a Stalin cannot come to power. On the whole the European countries which have most successfully avoided fascism have been constitutional monarchies. The conditions seemingly are that the royal family shall be long-established and taken for granted, shall understand its own position and shall not produce strong characters with political ambitions. These have been fulfilled in Britain, the Low Countries and Scandinavia.

อย่างน้อย ยอร์ช ออร์แวล ที่เขียนความข้อนี้ คงมีน้ำหนักพอสำหรับปัญญาชนหัวก้าวหน้า

วรเจตน์ เพียงถูกทำร้ายร่างกายจากคนสองคน ซึ่งอาจเป็นหน้าฉากให้ใครก็ยังได้ ในขณะที่ขบวนการของคานธี และขบวนการผ้ากาสาวพัสตร์ที่คัดค้านเผด็จการทหารในพม่า ได้รับทารุณกรรมมามากกว่าเป็นไหนๆ อย่างน้อยอินเดียก็ได้รับเอกราชและทรราชย์พม่าก็อาจปลาสนาการไปในเร็วๆ นี้ แล้วเรายังต้องการรักษาราชาธิปไตยในแนวทางของเทวราช ที่เปิดโอกาสให้นายทุนขุนศึก ปู้ยี่ปู้ยำราษฎรตาดำๆ ต่อไปอย่างไม่จบสิ้นต่อไปอีกละหรือ

ราษฎรตามท้องถิ่นต่างๆ ตื่นขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเป็นไทของชุมชนเขาและเพื่อพิทักษ์ธรรมชาติอย่างน่าทึ่งด้วยสัจจะและอหิงสา ถ้าปัญญาชนและนักวิชาการจะเรียนรู้จากคนข้างล่าง และร่วมมือกับพหูชน ชัยชนะก็จะเป็นของราษฎรสยามสมดังเจตนารมณ์ของคณะผู้อภิวัฒน์เมื่อ ๘๐ ปีที่ล่วงมานี้

ส.ศิวรักษ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น