จาก http://www.siamintelligence.com/
สิ่งที่ "สื่อบางสำนัก" ได้ทำลงไป และเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่เขาไม่เคยคิดจะออกมาแก้ไข คือการสร้างภาพให้ “อาร์เจนติน่า” เป็นประเทศล่มจมฉิบหายด้วยนโยบายประชานิยม เพื่อฝังหัวคนในประเทศไทยว่า ประชานิยมเลวร้ายจนต้องขายทรัพย์สินของชาติ และล้มละลายใช้หนี้ บรรดาผู้รับสารที่รับสารครั้งเดียวแล้วไม่ติดตามต่อเนื่อง ก็จะเห็นภาพอาร์เจนติน่าเป็นประเทศยากจนที่ดีแต่เตะฟุตบอลเก่ง และรู้จักชาวอาร์เจนติน่าเพียงดารานักฟุตบอลไม่กี่คน คือมาราโดนา และเมสซี่ จนถึงทุกวันนี้
จากซากปรักหักพังทางเศรษฐกิจหลังการพ่ายแพ้สงครามเกาะฟอล์กแลนด์กับสหราชอาณาจักรในปี 1982 ค่าใช้จ่ายในกองทัพเพื่อการทำสงครามและค่าปฏิกรรมสงคราม เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาวะหนี้สินของอาร์เจนติน่าเลวร้ายสะสมมาต่อเนื่อง ภาวะเศรษฐกิจเลวร้ายมิใช่เป็นเพียงเพราะนโยบายประชานิยม แต่รวมถึงการครอบงำอำนาจของรัฐบาลเผด็จการทหารที่ทุ่มเงินไปกับการซื้ออาวุธใหม่ๆ มาประจำการอย่างไม่มีจบสิ้น แม้รัฐบาลทหารจะถูกโค่นล้มหลังปราชัยในสงคราม แต่รัฐบาลประชาธิปไตยที่อ่อนแอไม่สามารถจัดการภาวะหนี้ที่คั่งค้างยาวนาน ไม่สามารถจัดการกับเหลือบไรในหมู่หน่วยงานราชการและวิสาหกิจต่างๆ ที่ฝังรากลึกไม่ต้องการการปฏิรูปปรับปรุง และไม่สามารถจัดการกับการแทรกแซงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงจากสหรัฐอเมริกาที่ปล่อยให้บรรษัทข้ามชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ได้ จนหนองที่บวมเป่งแตกออกด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปี 1999 จนกระทั่งอดีตประธานาธิบดีโฆเซ่ โรดริเกซ ประกาศล้มละลายไม่จ่ายหนี้(debt moratorium) ในปี 2001
การขายสินทรัพย์ แปรรูปรัฐวิสาหกิจของอาร์เจนติน่า ที่หลายคนมองว่าเป็นการขายชาติขายแผ่นดิน กลับปลุกให้ประเทศที่ป่วยไข้กลับมามีอำนาจต่อรอง และเศรษฐกิจกลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง หลังการเข้าครองอำนาจของอดีตประธานาธิบดี เนสเตอร์ เกิร์ชเนอร์ ในปี 2003 และการสืบต่ออำนาจของสตรีหมายเลขหนึ่ง คริสติน่า แฟร์นันเดซ เด เกิร์ชเนอร์ ในปี 2007
ด้วยนโยบายประชานิยมที่แทบไม่ต่างจากรัฐบาลก่อนหน้า แต่รัฐบาลเกิร์ชเนอร์รักษาวินัยการคลัง ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเครดิตของอาร์เจนติน่าอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปลดแอกค่าเงินเปโซออกจากการผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ การปฏิรูป ยุบและแปรรูปหน่วยงานที่ไร้ประโยชน์ที่ผลาญภาษีประชาชน ส่งผลให้งบประมาณไม่เสียเปล่าไปกับเงินเดือนของพนักงานของรัฐที่นั่งกินนอนกินไปวันๆ GDP เติบโตมากกว่า 8% ติดต่อกันหกปี เข้าไปร่วมกับกลุ่มมหาอำนาจ G-20 หนี้สินสาธารณะลดลงเหลือ 40% ของ GDP อัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชาชนเพิ่มขึ้นเป็น 98% อายุขัยเฉลี่ยของประชาชนเพิ่มขึ้นเป็น 75 ปี ประชาชนที่อยู่ใต้เส้นความยากจน ลดจาก 60% ของประชากรทั้งหมด เหลือเพียง 30% และมีดัชนีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนสูงที่สุดในเขตละตินอเมริกา
อาร์เจนติน่าในปี 2011 มีประชากร 40.6 ล้านคน เป็นมหาอำนาจคู่ขนานกับบราซิล เป็นเขตเศรษฐกิจอันดับสามของอเมริกาใต้ ในการขับเคลื่อนทวีปอเมริกาใต้ให้พ้นจากแอกของสหรัฐ ด้วยพลังจากไบโอดีเซล สินค้าเกษตรแปรรูป การประมง และเป็นแหล่งค้นคว้าวิจัยด้านชีววิทยาอันดับต้นๆ ในโลกละตินอเมริกาที่ใช้ภาษาสเปน (บราซิลใช้ภาษาโปรตุเกส)
ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็น “นอมินี” ผู้หนึ่ง คือประธานาธิบดี “คริสตินา แฟร์นานเดซ เด เกิร์ชเนอร์” ภริยาของเนสเตอร์ เกิร์ชเนอร์ ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีระหว่างปี 2003-2007 เส้นทางการเมืองของคริสตินา เริ่มจากการเป็น ส.ส. และลงสมัคร ส.ว. ในขณะที่สามีดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ ทำให้เกิดข้อครหาการครอบงำอำนาจแบบผัว-เมีย และเมื่อเธอลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี จนกระทั่งได้รับเลือกตั้ง ก็ถูกกล่าวหาอีกว่า เธอเป็นเพียงนอมินีของสามีเท่านั้น แต่นักวิจารณ์หารู้ไม่ว่า ความจริงแล้ว เนสเตอร์ต่างหากที่อาจเป็นนอมินีของคริสตินาในระหว่างที่เขาเป็นประธานาธิบดี
ความสำเร็จของการฟื้นฟูเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา จากภาวะคนป่วยของละตินอเมริกาที่ต้องขายทรัพย์สินทุกอย่างของประเทศ แม้แต่เงินจะจ่ายให้นักฟุตบอลทีมชาติมาแข่งฟุตบอลโลกยังไม่มีในปี 2002 กลายมาเป็นมหาอำนาจควบคู่กับบราซิล ด้วยฝีมือของสองสามีภรรยาเกิร์ชเนอร์ ทำให้ประชาชนชาวอาร์เจนติน่าไม่สนใจว่าใครจะเป็นนอมินีของใคร ตราบเท่าที่พวกเขากินอิ่ม นอนหลับ ประเทศชาติมีศักดิ์ศรีบนแผนที่โลก คริสตินากล้าหาญถึงขนาดประณาม CIA ในแผนลอบสังหารฮูโก ซาเวช ดักจับเครื่องบินจารกรรมของสหรัฐและจับมือกับประธานาธิบดีหญิง ดิลมา รุสเซฟของบราซิล เพื่อสร้างความมั่นคงรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องการให้สหรัฐมาแทรกแซงในอเมริกาใต้อีกต่อไป
อดีตประธานาธิบดีเนสเตอร์ เกิร์ชเนอร์ ถึงแก่อสัญกรรมในปลายปี 2010 ที่ผ่านมา และประธานาธิบดีคริสตินาประกาศว่าตนเองจะลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ในปีนี้อย่างแน่นอน
แม้ว่าประธานาธิบดีคริสตินา จะประกาศตัวว่าตนเองได้รับแรงบันดาลใจทางการเมืองจากอีวา เปรอง แต่เส้นทางของเธอนั้นมาจากการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ และเธอก็ทำให้อาร์เจนตินาไม่ต้องร้องไห้เพื่อเธอ
ทั้งหมดนี้ “นิติภูมิ นวรัตน์” ยังไม่เคยออกมาแถลงชี้แจงต่อสาธารณชนที่เขาเคยสร้างภาพความล่มสลายของอาร์เจนติน่า เพื่อเนรมิตปีศาจร้ายที่ชื่อ “ประชานิยม” แม้แต่ครั้งเดียว
ข้อมูลอ้างอิงจาก
แต่ทั้งหมดนี้รัฐบาลทักษิณ กำลังดำเนินนโยบายเหมือนอาเจนตินา ของนายเมเนม ขายชาติ
ตอบลบนักการเมืองก้อพูดแบบนี้ทุกครั้ง เพราะหวังผลประโยชน์ กอบโกยแล้วก้อหนีไป นโยบายหลอกลวง ปั่นหัวประชาชน ปิดข่าว ไม่ยอมรับความจริง เหมือนกันกับวิธีการของอาเจนตินาทั้งหมด
ตอบลบ