บทวิเคราะห์ จาก RED POWER ฉบับที่ 18 ปักหลัง สิงหาคม 2554
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำท่าขึงขังไม่ยอมให้ ยิ่งลักษณ์ เข้าพบแต่เมื่ออำนาจเริ่มลงตัวบิ๊กเหล่ก็ทำท่าหลบวูบเมื่อเจอเพียงแค่เงาของ ยิ่งลักษณ์ ด้วยถ้อยคำลิ้นกระดาษทรายน้ำลายแลคเก้อ เพราะทุกครั้งที่ตวัดลิ้นถูกตัว ยิ่งลักษณ์ จะเกิดภาวะชักเงามันแพล็บเช่นคำว่า “ท่านพูดก็ดูดี พูดจาอะไรก็เป็นหลักฐาน ต้องรอให้ท่านทำงานและท่านคงเรียกตนไปชี้แจง” (ไทยรัฐออนไลน์ 9 ส.ค. 54 )
ทำไมคุณเหล่ต้องเลี้ยวหักมุมคารวะ ยิ่งลักษณ์ มากขนาดนั้นจะบอกว่าเป็นเรื่องอำนาจอย่างเดียวคงไม่ได้ เมื่อมาดูการวางตัวรัฐมนตรีสายอำนาจในแวดวงบู๊ลิ้มก็รู้ว่ามีการประนีประนอมอำนาจเบื้องบนในระดับหนึ่งที่ทำให้บิ๊กเหล่ต้องปรับตัว เช่น รัฐมนตรีกลาโหมที่ชื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ก็รู้ทันทีว่าได้รับสัญญาณจากใคร และยิ่งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงที่ชื่อ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่รับใช้ใกล้ชิดสมเด็จย่าเมื่อครั้งยังทรงมีพระชนม์ชีพ ซึ่งในแวดวงบู๊ลิ้มรู้กันว่าหมายถึงอะไร เพราะเมื่อครั้ง ทักษิณ แต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทักษิณ ก็เคยได้รับคำขอบใจจากใครบางคนที่ทำให้ ทักษิณ เกิดกำลังใจและปลาบปลื้ม ซึ่งเป็นคนที่บิ๊กเหล่พร่ำสรรเสริญอยู่ทุกวัน
เมื่อเจ้านายใหญ่ยังเป็นอย่างนี้แล้วมีหรือที่พันเอกไก่อูผู้ที่หาคนสรรเสริญยากจะไม่ลู่ตามลมบ้าง ล่าสุดข่าวเจาะลึกในวงการทหารได้รับทราบมาว่า ท่าทีของไก่อูต่อสถานการณ์การเมืองในยุค ยิ่งลักษณ์ ไก่อูกำลังจะแปลงกายเป็นไม้เลื้อยเพราะทันทีที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ได้พบกับทหารคนสนิทของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็รีบทักทายแสดงตัวทันทีว่า “เจอนายบ้างหรือเปล่า ผมเคยเป็นหน้าห้องท่านปลอดประสพตั้ง 3 ปี ฝากความคิดถึงท่านด้วยนะ”
คนแวดวงที่รู้จัก พ.อ.สรรเสริญ ต่างแปลกใจโดยเฉพาะคนที่ถูกทักทาย เพราะ พ.อ.สรรเสริญ มีพฤติกรรมคอแข็งกับทหารทุกคนที่รู้จักใกล้ชิดกับสายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
สายผู้ถือปืนคุมอำนาจยังขนาดนี้ แล้วสายตำรวจที่รองนายกฯชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้รับมอบหมายให้ไปดูแล และมหาดไทยที่ได้ลูกหม้ออย่าง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ที่ขึ้นเป็นว่าการและรองนายกฯอันดับ 1 จะไม่เกิดโรคหลบวูบกันบ้างหรือ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดบางจังหวัดในภาคเหนือและภาคอีสาน ที่ทำตัวยิ่งกว่าหัวคะแนนพรรคภูมิใจไทยถึงขนาดลงมาพิจารณาตัวผู้สมัคร ส.ส.ให้พรรคเลยว่าใครเป็นคนเหมาะสมที่จะลงสมัคร และช่วยออกตระเวนหาเสียงให้ในรูปของการบริการประชาชน แต่มีผู้สมัครของบางพรรคการเมืองไปขึ้นเวทีด้วย ในภาคเหนือลองถามผู้ว่าฯเชียงรายชื่อ นายสมชัย หทยะตันติ และถามผู้การ ทรงธรรม อัลภาชน์ ก็พอจะรู้ได้ว่ารายชื่อใครบ้างที่ทำอย่างนั้น,ส่วนภาคอีสานมีใครบ้างก็ลองถามผู้ว่าฯโคราช นายระพี ผ่องบุพกิจ และ พ.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม บ้างก็จะกระจ่างชัด
หรือ ถ้าใครรู้ตัวว่าที่ผ่านมาทำบาปทางการเมืองไว้จนชัดเจน ก็รีบสารภาพบาป พระเจ้าจะได้ยกโทษให้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น