สาเหตุที่สมุนอำมาตย์ต่อต้าน 3G ,IT มีวัตถุประสงค์หลักคือต้องการให้คนไทยล้าสมัย(หรือเปล่า)???

โดย Woodykai HI-TEC

นำเสนอโดย ทีมข่าว Dr. Sunai Fan Club

โลกปัจจุบันเป็นโลกไร้พรมแดน ซึ่งเป็นโลกของการสื่อสาร(คลื่นลูกที่3)

คลื่นลูกที่ 1 คือคลื่นแห่งการปฏิวัติเกษตรกรรม
คลื่นลูกที่ 2 คือคลื่นแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม
คลื่นลูกที่ 3 คือคลื่นแห่งการปฏิวัติข่าวสาร IT. (Information Technology)

โลกทั้งโลกถูกห่อหุ้มคลุมไว้ด้วยเครือข่ายของข่าวสาร ประดุจดังหนังกำพร้าห่อหุ้มร่างกายทั้งหมด ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่เมืองไทย สายตาของคนซึ่งอยู่คนละซีกโลกก็มองเห็นได้เกือบจะพร้อมๆกันในทันทีด้วยระบบเครือข่าย เมื่อมีเหตุการณ์ใดบนโลกนี้ เพียงกระพริบตาข่าวสารก็ไหลบ่าไปทั่วโลก

กระแสอันเชี่ยวกรากของคลื่นข่าวสาร ไหลรุนแรงและรวดเร็วกว่ายุคสมัยใดๆในโลกที่เคยมีมา ความลับหลายอย่างทุกประเทศทั่วโลก ที่ถูกปกปิดมาช้านานถูกกระแสคลื่นข่าวสารสาดซัดจนเปิดเผยออกมาหลายอย่างหลายเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ในหลายๆเรื่องด้วยกันที่ถูกกระแสคลื่นลูกที่ 3 แบไต๋ออกมาเหมือนจับกะลาที่คว่ำอยู่มาหงายดูจนรู้ความจริงแบบหมดเปลือกชนิดติดเรทXเลยที่เดียว

ความรวดเร็วและรุนแรงของระบบข่าวสารนี่เอง ที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออำมาตย์และลูกสมุนอย่างแท้จริง ความหนาวเหน็บพุ่งเข้าสู่ขั้วหัวใจเมื่ออินเตอร์เน็ตพื้นฐาน มีความเร็วอยู่ที่ 6 M ด้วยความเร็วระดับนี้ สามารถรับ-ส่ง ข่าวสารได้เป็นปริมาณมหาศาลจนน่ากลัว(เฉพาะฝ่ายอำมาตย์) แต่ขอบอกเลยว่าถ้าเจอความเร็วสูงแบบ K-POP (เกาหลี) ยิ่งหนาวกว่าเพราะของเค้าอยู่ที่ 100 M (ของเค้าแรงจริงๆ ) และยังไม่พอยังมีโครงข่าย 4G เรียบร้อย เต็มพื้นที่ไม่ว่าบนดินหรือใต้ดินก็สื่อสารกันได้ด้วยความเร็วสูงเท่ากันหมด

สิ่งที่ปกปิดหมกเม็ดอยู่ จะสามารถทานทนต่อกระแสอันเชี่ยวกรากได้ขนาดไหนเชียว!!! ในไม่ช้า “น้ำลดตอก็ผุด ”  เป็นเรื่องธรรมดาแน่นอนอยู่แล้ว!!!

เมื่อมีประเด็นใดๆขึ้นมา ผู้คนทั่วโลกสามารถระดมสมองเข้ามาคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ได้พร้อมๆกัน โดยไม่ถูกจำกัดด้วยระยะทางและความต่างของภาษาเหมือนสมัยเก่าอีกต่อไป เพราะไม่ว่าภาษาไหนก็แปลได้โดย Google Toolbar การพูดคุยไม่จำเป็นต้องไปนั่งนินทาที่ร้านกาแฟเหมือนสมัยก่อน เพราะเรามีทั้ง Camfrog , Skype, MSN, FaceTime ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็น Notebook หรือ Laptop (คอมพิวเตอร์วางตัก), Smart Phone (โทรศัพท์อัจฉริยะ) ล่าสุดกำลังมาแรงเป็นกระแสนิยมคือ Tablet PC (แท็บเล็ต พีซี)(ไม่รู้ว่าจะเรียกเป็นภาษาไทยอย่างไงดีต้องขอไปให้ที่ราชบัณฑิตฯ ช่วยแปล) ล้วนแล้วแต่สามารถใส่โปรแกรมสื่อสารเหล่านี้ได้ทั้งสิ้น สามารถค้นหาข้อมูลความลับต่างๆได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแม่นยำกว่าการพูดคุยในร้านกาแฟเป็นล้านๆเท่าเลยทีเดียวชนิดว่า “วินาทีต่อวินาที” เลยครับ ความรู้ทุกสาขาทุกเรื่อง หาได้จากเครือข่ายใยแมงมุมที่เรียกว่า Internet (อินเตอร์เน็ต)ได้อย่างละเอียดยิบ

"คนโง่ปกครองง่าย" (ใช่หรือไม่ครับท่าน)

คำคำนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้อีกครั้ง ผ่านการกระทำหลายอย่างที่เป็นการต้านทาน IT. ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้าน 3G , การต่อต้าน แท็บเล็ตโรงเรียน ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน
นั่นก็คือไม่อยากให้พลเมืองไทย สื่อสารติดต่อกับโลกภายนอก ไม่อยากให้รู้สภาพความเจริญของชาติอื่นๆ พยายามจับกะลามาครอบพลเมืองไว้ ให้อยู่แต่ในกะลาเหมือนเดิมๆแบบโบราณที่พวกเขาชอบทำกัน ใครที่โผล่หัวจากกะลาที่เคยครอบไว้ จะถูกหมายหัวว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นโจร เป็นคนไม่รักชาติ คนไม่จงรักภักดี สุดจะสันหามาอ้างไล่ให้ไปอยู่เขมร ฯลฯ

แต่ผมเชื่อว่า ความเจริญด้านเทคโนโลยีนั้น กระแสไหลบ่ามันรุนแรงเกินกว่าที่อำมาตย์จะต้านทานได้ต่อไป มีทางเดียวคือยอมรับความจริงว่าโลกเรานั้นก้าวมาไกลเกินกว่าที่จะให้เรากลับไปอยู่ในถ้ำ ออกล่าสัตว์กินมื้อต่อมื้อปลูกผักทำไร่ไถนาแบบพอมีพอกินไปวันวัน อีกต่อไป และเราก็จะไม่ยอมให้ลูกหลานของเราล้าหลังกว่าชาวโลกอยู่แล้ว (คงไม่มีใครคนไหนที่อยากให้ลูกหลานโง่)

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น 3G, แท็ปเล็ต หรือความเจริญก้าวหน้าทางการสื่อสารอย่างอื่น ผมจะยอมรับและเชิดชูมัน ให้สมกับเป็นแสงสว่างทางปัญญาของคนยุคใหม่ จะไม่ให้ “ไดโนเสาร์เต่าล้านปี” มาขัดขวางได้อย่างแน่นอน !!