คำถามจาก"ขุนค้อน" รัฐสภาจะลงมติ ให้ศาลชะลอตัดสินบ้างได้ไหม ? (ชมคลิป)

สัมภาษณ์พิเศษ โดย พนัสชัย คงศิริขันต์, ขจรศักดิ์ สิริพัฒนกรชัย 
ที่มา:มติชนรายวัน 30 ก.ย.2556

 

 

หมายเหตุ - นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์พิเศษ "มติชน" ถึงภาพรวมการทำหน้าที่ประธานการประชุมเมื่อครั้งการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่มาของ ส.ว. ภายหลังผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในวาระที่สาม พร้อมให้ความเห็นถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และกลุ่ม 40 ส.ว.ให้วินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มาของ ส.ว.อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68

 

@มองการคุมเกมในวันแรกของการประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่มา ส.ว.อย่างไร เมื่อถูกฝ่ายค้านประท้วงทั้งวันจนถูกเรียกว่า "สภาอัปยศ"

ต้องเข้าใจสถานการณ์การเมือง เพราะในปัจจุบันมีความแตกต่างจากในอดีตที่การประชุมสภาแต่ละครั้งจะยึดถือข้อบังคับ แต่การเมืองในขณะนี้มีความขัดแย้งรุนแรง แบ่งขั้วชัดเจน แต่ละขั้วยังมีธงเป็นของตัวเองอีก การเมืองจึงเป็นเรื่องที่ไม่มีกฎกติกาและไม่ยึดถือข้อบังคับด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเอาชนะคะคานอย่างเดียว ดังนั้น ใครมาเป็นประธานสภาในช่วงนี้ก็จะเจอปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะตีรวน ไม่ให้เกียรติประธาน ทั้งที่ข้อบังคับสมาชิกเป็นผู้ร่างกันมาเอง บอกว่า เมื่อประธานวินิจฉัยแล้วก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด เหมือนกับการแข่งขันฟุตบอล เมื่อกรรมการให้ใบแดงแล้วก็ต้องออกอย่างเดียว เถียงไม่ได้ ผิดถูกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากนำเทปมาดูพบว่า กรรมการตัดสินผิด ถ้าผิดบ่อยๆ ก็ไม่มีทางได้เป็นกรรมการบอลโลก ประธานสภาก็เหมือนกัน ถ้าวินิจฉัยผิดบ่อย ประชาชนที่ดูอยู่ทั่วประเทศก็จะกดดันให้ประธานต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว 

@ท่านถึงขั้นยกค้อนขึ้นมาทุบและลุกขึ้นยืนแต่ที่ประชุมก็ยังไม่สงบ ถือว่าสั่นคลอนต่อฉายาขุนค้อนหรือไม่

คนละส่วน ไม่ใช่เรื่องกระทบหรือสั่นคลอนใดๆ ต่อตัวผม เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายค้าน ทำไมเด็กนักเรียนดื้อครูถึงไม่ผิด ประเด็นปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ว่าครูไม่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะอยู่ที่เด็กมันดื้อต่างหาก หากจะโทษก็ต้องโทษที่เด็กไม่ใช่มาโทษครู

@เคยน้อยใจจนอยากลาออกจากประธานรัฐสภาหรือไม่

ผมอาสาเข้ามา จะไปออกทำไม ผมโชคดี พรรคเลือกผมมาฝึกจิต จบคอร์สนี้แล้ว ผมเจ๋งเลย ไม่มีใครในพรรคเพื่อไทยโชคดีเท่าผมแล้ว ถามว่าคอร์สนี้ ผมจะทำได้หรือไม่ ตอบได้เลยว่าสบายมาก มาเกินครึ่งทางแล้ว

@แต่มีกระแสข่าวที่ผ่านมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เปลี่ยนตัวประธานสภา

ถ้าเป็นหมากรุก ก็ต้องบอกว่า กระดานหมากนี้ผมคุม ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ดื้อ ผมก็ต้องใช้ศิลปะในการอะลุ้มอล่วย เพื่อปั่นกระแสคนข้างนอก ประชาชนทั้งประเทศที่ดูอยู่ทางบ้าน เขาเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยยึดถือข้อบังคับเอาแต่ความถูกใจตัวเอง ดื้อตลอด และประธานก็ยอมมาโดยตลอดแล้ว นี่คือกระแสที่ผมตั้งใจให้มันเกิด ผมเป็นคนกำหนดเกมผมต้องการให้เป็นแบบนี้ คนทั่วประเทศก็จะเบื่อประชาธิปัตย์แล้วก็ค่อยรำคาญประธานไปด้วย

@จะอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระสภาใช่หรือไม่

ไม่มีปัญหา

@ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งได้รับคำร้องที่กลุ่ม 40 ส.ว.และ ปชป.ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขที่มาของ ส.ว.จะขัดมาตรา 68 

เขาก็อ้าง มาตรา 68 เขียนไว้ว่าเป็นเรื่องบุคคลหมายถึงประชาชน เป็นเรื่องสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ดังนั้น มาตรา 68 เขาเขียนไว้กำหนดกรอบไม่ให้ประชาชนทำเกินอำนาจ ในกรอบรัฐธรรมนูญ อำนาจของความเป็นพลเมือง มาตรา 68 ต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุด แต่นี่กลับยื่นตรง ผมไม่เห็นด้วย ไม่ใช่ขัดรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ขัดหลักความเป็นจริง คือ หลักการคานอำนาจ แต่นี่ศาลรัฐธรรมนูญ เล่นเป็นทั้งตำรวจ เป็นทั้งอัยการ เป็นทั้งศาลเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เป็นไปไม่ได้ บนหลักความเป็นธรรมของกฎหมายแล้วอยู่ดีคืนดี ศาลเอาอำนาจอะไรมาก้าวล่วงฝ่ายนิติบัญญัติให้ระงับยับยั้งการออกกฎหมายรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจอะไร กฎหมายไม่มีกฎหมายฉบับไหนให้อำนาจ ไม่มีอำนาจมาก้าวล่วง เสร็จแล้ว ทำนองเดียวกัน ในเมื่อศาลไม่มีอำนาจไม่มีข้อกฎหมายรองรับ ผมในฐานะประธานรัฐสภา ครั้งแรกตอนแก้ไขมาตรา 291 จะลงมติวาระสาม ศาลให้ระงับไว้ก่อน ผมออกมาแถลงข่าวไม่เห็นด้วย แต่ผมจะให้เกียรติแล้วจะไปให้ปากคำ นั่นคือให้เกียรติ พอให้เกียรติแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินว่าอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของรัฐสภา แต่การจะแก้ทั้งฉบับควรขอประชามติก่อน แต่แนะนำว่าให้แก้เป็นรายมาตรา ดังนั้น คำว่าแก้ทั้งฉบับ ต้องผ่านประชามติก่อน 

ประชามติต้องใช้เสียงผู้มาใช้สิทธิ 50% ของผู้มีสิทธิ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ประชาสัมพันธ์ให้คนไม่มาใช้สิทธิอย่างน้อย 10% ขึ้น ต่อให้แก้ทั้งฉบับ ศาลบอกประชามติก่อน แปลว่า ไม่มีทางผ่านประชามติอยู่แล้ว แก้ทั้งฉบับไม่ได้อยู่แล้ว มันเป็นคำวินิจฉัยอาจมองในทางเป็นลบ คือไม่บริสุทธิ์ใจ คือ ขุดหลุมพรางไว้แล้ว แต่ศาลไม่น่าวินิจฉัยต้องขอประชามติก่อน น่าวินิจฉัยว่าอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของรัฐสภาอยู่แล้ว การจะแก้ทั้งฉบับก็แก้ได้เลย น่าจะเขียนอย่างนี้ จะฉลาดกว่า ถ้าฉลาดไม่ต้องมีหัวหรอกให้เป็นอำนาจรัฐสภา เดี๋ยวก็ตกม้าตายเอง โหวตวาระสาม ร่างเป็นปี ร่างกลับเข้ามาก็ขอประชามติ ก็ตกม้าตายอยู่แล้ว ก็เขาดีไซน์ไว้เพื่อแก้ไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น ศาลไม่มาขุดหลุมพรางอีก ไม่ขุดหลุมพรางมันก็ตายอยู่แล้ว 

@ครั้งนี้จะทำอย่างไรเมื่อศาลรับคำร้องตีความการแก้ไขเป็นรายมาตราแล้ว

คราวนั้นให้เกียรติ คราวนี้ไม่ให้เกียรติแล้ว คราวนี้ผมทำได้อย่างเดียวเดินตามกรอบรัฐธรรมนูญเท่านั้น คุณใช้อำนาจอะไร ผมใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญสั่งผม รัฐธรรมนูญบอกว่าใครพ้น 15 วันต้องลงมติวาระที่สาม รัฐธรรมนูญสั่ง แล้วคุณเอาอะไรมาสั่ง ทำไมผมต้องฟังคุณ จริงเปล่า ถ้าสมมุติว่าประธานรัฐสภาเดินหน้าโหวตวาระสามหาว่าท้าชน แล้วถ้าทำนองกลับกัน ศาลจะพิพากษาคดีเพื่อนผม ผมก็เรียกประชุมรัฐสภาขอมติของรัฐสภา ชะลอการพิพากษาของศาลไว้ก่อนได้ไหม ทำไมศาลทำได้ ผมก็ทำแบบเดียวกับศาล ถอดแบบเลียนแบบศาลเลย มติรัฐสภาให้ศาลชะลอพิพากษาเพื่อนผมไว้ก่อน ทำได้ไหม ทีนี้ศาลจะหาว่าไม่สน กูจะพิพากษาเลย แปลว่า ศาลประกาศท้าชนรัฐสภาหรือไง เหมือนกัน ผมเดินหน้าหาว่ารัฐสภาประกาศท้าชนศาล มันเป็นเรื่องของศาลมาแทรกแซงรัฐสภาโดยไม่มีอำนาจต่างหาก แล้วผมไม่ได้ท้าชนอะไร ผมเพียงเดินตามกรอบรัฐธรรมนูญเท่านั้น เรื่องของคุณมาแทรกแซงฉันทำไม ผมไปประกาศตอนไหนท้าชนศาล 

 

 

@ศาลรับคำร้องแล้วกระบวนการหลังจากนี้ต้องไปชี้แจงศาลหรือไม่

ในเมื่อไม่มีกฎหมายรองรับ มันก็เหมือนไม่มีตัวตนเรามีรัฐธรรมนูญรองรับก็เดินตามรัฐธรรมนูญอย่างเดียวอย่างอื่นไม่เกี่ยว กติกามันชัด ของคุณกติกาอะไร แล้วทำไมฉันต้องไปเดินตามคุณ

@เหตุการณ์ซ้ำรอยก่อนลงมติวาระสามร่างแก้ไขมาตรา 291 จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

ถือว่าให้เกียรติทั้งที่ไม่เห็นด้วย คราวนี้ไม่เห็นด้วยและไม่รับรู้แล้ว ฉันเดินหน้าตามกรอบรัฐธรรมนูญอย่างเดียว

@แม้ศาลจะออกคำสั่งเรียกให้สมาชิกรัฐสภามาไต่สวนในศาล

ไม่เกี่ยว ก็ไม่ไป ก่อนหน้านั้นก็ไม่ไปแล้วไง ฉันเดินตามกรอบรัฐธรรมนูญอย่างเดียว เรื่องอื่นไม่เกี่ยว ถ้าผมต้องไปอีก ถ้าผมมีมติให้รัฐสภา ให้ศาลชะลอการพิพากษาเพื่อนผมไว้ก่อน แล้วผมมีคำสั่งให้ประธานศาลมาชี้แจงกับผมได้ไหม ทำไมผมต้องไป

@ประเมินผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในทางที่เป็นผลดีและผลร้ายไว้หรือไม่

ไม่ประเมินแล้ว เพราะไม่เกี่ยวแล้ว เราจะเดินไปข้างหน้าของเราอย่างเดียว คุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณ

@ถึงขั้นประเมินภายในพรรคเพื่อไทยว่าการวินิจฉัยของศาลครั้งนี้คาดการณ์อะไรไม่ได้แล้ว

ก็ฉันเดินตามกรอบของฉันไง คุณจะยังไงก็เรื่องของคุณไม่สนแล้ว

@ถ้าเกิดเลวร้ายศาลสั่งว่าแก้รายมาตราไม่ได้ รัฐสภาต้องรับผิดชอบหรือไม่

เราไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด เราผิดอะไร คนผิดต้องรับผิดชอบสิ เราเดินตามกรอบรัฐธรรมนูญอย่างเดียว แล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไร จะไปสิ้นตรงไหนเรื่องของมัน ถ้าจะเอาผิดก็ต้องเอาผิดกับคนที่ผิด

@หากคำวินิจฉัยศาลออกมาในทางลบมีเสียงในพรรคเพื่อไทยขอให้ลงมติร่างแก้ไขมาตรา 291 ที่ค้างการพิจารณาในวาระที่สามทันที

เป็นไปได้ กรอบรัฐธรรมนูญ ถ้าบอกว่าประกาศชน หรือผมบอกว่าทำไม่ได้อีก ต้องตอบผม ถ้าอย่างนั้นผมจะขอมติรัฐสภาชะลอการพิพากษาของศาลไว้ก่อน แล้วผมจะเรียกศาลมาชี้แจงตอบให้ได้ ผมทำได้ไหม ผมก็ถามกลับ ถ้าบอกว่าไม่ได้เขาก็ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าบอกว่าได้ผมจะเอามั่งก็คงสนุกดี

@การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การแก้ทั้งฉบับจะเกิดได้ในสมัยรัฐบาลนี้หรือไม่

มี เราต้องพยายามทำสิ่งที่เป็นไปได้ให้เป็นไปได้ เราต้องบอกประชาชนว่าเราถูกสกัดกั้น ประชาชนทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน มาใช้สิทธิประชามติให้ถึงครึ่งให้ได้ ถ้าไม่ถึงครึ่งตกไป หาเสียงคราวหน้าก็จะชูเรื่องนี้อีกรอบหนึ่ง

@ถึงแม้จะแก้ทั้งฉบับในสมัยของรัฐบาลนี้ไม่ได้

ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งก็ต้องชูอีกครั้ง ทำความเข้าใจประชาชนมากขึ้น เพื่อระดมให้มาลงประชามติให้เกิน 50% ยังไงก็ต้องผ่านด่านตรงนี้ให้ได้ ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญ คราวนี้อาจมา 45% หาเสียงคราวหน้าก็ต้องระดมคาถาให้ได้อีก 5%