ที่มา:มติชนรายวัน 5 ต.ค.2556
สิ่งที่ ญาง ปอล ซาตร์ สรุปว่า "นรกอยู่ที่คนอื่น"
ไม่เพียงแต่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมจากกรณีที่พรรครีพับลิกันลงโทษรัฐบาล บารัค
โอบามา
ผ่านโครงการ "โอบามา แคร์"
เท่านั้น
หากจากกรณีของสหรัฐได้ส่งผลในเชิงเปรียบเทียบโดยอัตโนมัติไปยังการยื่นร่าง
พ.ร.บ.งบประมาณ ไปยัง "ศาลรัฐธรรมนูญ"
เป็นความพยายามของ
"ประชาธิปัตย์"
เป็นความพยายามของ "กลุ่ม 40 ส.ว."
เจ้าเก่า
ไม่ว่าในที่สุดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร
แต่ความเป็นจริงที่เห็นและเป็นอยู่ก็คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ.2557 ต้องประกาศและบังคับใช้ช้าออกไป
ทั้งๆ ที่วันที่ 1 ตุลาคม
คือจุดเริ่มต้นของ "ปีงบประมาณ"
ฝันร้ายที่จะตามมาอย่างแน่นอนคือ
เค้าลางที่ชะตากรรมของร่าง
พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ
จะต้องเดินไปในทิศทางเดียวกันกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ
นี่คือการเตะ
"สกัดขา"
เหตุใดจึงว่ากระบวนการไม่ว่าต่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ
ไม่ว่าต่อร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท
คือรูปธรรมแห่งบทสรุปที่ว่า
"นรกอยู่ที่คนอื่น"
ทั้งๆ
ที่ในความเป็นจริง การตรวจสอบร่าง
พ.ร.บ.งบประมาณกระทำมาแล้วตามหนทางแห่งระบบรัฐสภา
ผ่านวาระ 3
มาอย่างถูกต้อง
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง โอกาสที่ร่าง
พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศจะต้องผ่านวาระ
3 อย่างแน่นอน
แต่จำเป็นต้องมี "วาระ 4"
กรณีของสหรัฐอเมริกา
ภาพสะท้อนความขัดแย้งจากโครงการโอบามา แคร์
ยังอยู่ในกรอบแห่งระบบรัฐสภา
ไม่มี "ศาล"
เข้ามาเกี่ยวข้อง
ขณะที่ของเราขั้นตอนแห่ง "อำนาจนิติบัญญัติ" อันอยู่ในวาระ
3 ยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีศาลรัฐธรรมนูญอันเป็นส่วนหนึ่งแห่ง
"อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ" เข้ามามีบทบาทเป็น "วาระ 4"
อันเสมือนกับว่าอำนาจตุลาการอยู่ในฐานะเหนือกว่าอำนาจอื่น
เหนือกว่า
"บริหาร" เหนือกว่า
"นิติบัญญัติ"
คําตอบของความสงสัยทั้งหมดรวมศูนย์อยู่ที่บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
เป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550
อันเป็นผลพวงของ
"รัฐประหาร"
อันโยงไปยังอีกคำตอบ 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งก็คือ
เป็นรัฐประหารอันมีพื้นฐานมาจากแนวคิดในเรื่อง
"ตุลาการภิวัฒน์"
พื้นฐานของแก่นแกนในทางความคิดก็คือ
ให้บทบาทของ "ศาลรัฐธรรมนูญ"
เป็นอย่างสูงประหนึ่งจะเป็นป้อมปราการสุดท้าย
ดีกว่าคนอื่น
เหนือกว่าคนอื่น
มูลเชื้ออย่างแท้จริงก็คือ ความหวาดระแวงต่อการเมือง
ความหวาดระแวงต่อคนในแวดวงเศรษฐกิจ
เห็นแต่เพียงคนในศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้นที่ยอดเยี่ยม ล้ำเลิศ
เป็นคนดีเลิศประเสริฐศรียิ่งกว่าใครในโลกหล้า
เป็นที่มาแห่งแนวคิด "นรก"
อยู่ที่ "คนอื่น"
ความขัดแย้ง ความแตกแยก
ความปั่นป่วนวุ่นวายอันก่อรูปในห้วงก่อนและหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549
มีมูลฐานมาจากความคิดเช่นนี้
ความคิดเช่นนี้
การเมืองเช่นนี้
จากเดือนกันยายน 2549 มายังเดือนกันยายน 2556
ยืนยันอย่างเด่นชัดในภาวะปั่นป่วนตลอด 7 ปี
เป็น 7 ปีที่อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
ต้องเผชิญกับความขัดแย้งในทาง
สังคม เป็น 7 ปีที่อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
ต้องปะทะกับกระแสหลายกระแสในทางสังคม การเมือง
ทวีความแหลมคมเป็นลำดับ
ตกเป็น "เป้า" ทาง "การเมือง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น