จาก ข่าวสดออนไลน์
โดย วงค์ ตาวัน
สัปดาห์ที่ผ่านมามีการรำลึกถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งผ่านมา 37 ปี และในสัปดาห์หน้าจะเป็นการรำลึก 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งครบรอบ 40 ปี
ได้ยินคนเดือนตุลาฯเขาพูดคุยกันว่า อย่าทำให้การรำลึกถึงวีรชน เป็นเพียงแค่พิธีเช็งเม้ง
คือ แค่จัดเซ่นไหว้ผู้จากไป
แต่ควรรำลึกถึงคุณค่าของการต่อสู้ด้วยชีวิต และทำให้เจตนารมณ์ในการจุดประกายประชาธิปไตย สืบเนื่องต่อไป
ต้องไม่แค่รำลึกนึกถึงแบบลอยๆ แต่ต้องปรับเนื้อหาสาระของการเมืองวันนี้ ให้สอดรับกับสิ่งที่วีรชนเขายอมพลีชีวิตอีกด้วย
อย่างเช่น คุณละเมียด บุญมาก ภรรยาของคุณจีระ บุญมาก วีรชนที่ถูกยิงตายในวันที่ 14 ตุลาคม 2516
ขณะเดินถือผลส้มเข้าไปหาทหาร
คุณละเมียดได้เขียนจดหมายเมื่อปลายปี 2555 ในฐานะภรรยาที่สูญเสีย โดยบอกว่า ไม่เคยอยากให้สามีเป็น วีรชนเลย
แต่เพื่อคำว่าเสรีภาพ ต้องกล้ำกลืนหน้าชื่นอกตรม
จดหมายของภรรยาวีรชน ต้องเขียนขึ้นในเวลานั้น เพราะมีม็อบเสธ.อ้ายออกมาเคลื่อนไหว เพื่อให้แช่แข็งประเทศ
เธอจึงต้องออกมาคัดค้าน เพราะเป็นการทำลายเจตนารมณ์ 14 ตุลาฯ ซึ่งสามีของเธอเป็น 1 ใน 71 ชีวิตที่ดับสูญไปในวันนั้น!
นี่จึงเป็นตัวอย่างของการรำลึกถึงวีรชน โดยสืบทอดหลักการและพร้อมจะต่อต้านคนที่คิดจะทำให้ประชาธิปไตยถอยหลังในทุกสถานการณ์
ไม่ใช่เชิดชูอย่างลอยๆ ไม่เกี่ยวพันกับความเป็นจริงในวันนี้!
จะยกย่องผู้ต่อสู้ 6 ตุลาฯและ 14 ตุลาฯ ก็ต้องปกป้องประชาธิปไตยต่อไปด้วย
ไม่ใช่พลิกจุดยืนตลบตะแลง วันนี้กลายเป็นพวกไปร่วมเหยียบย่ำประชาธิปไตยเสียเอง
ถ้าพูดให้ชัด ประเด็นความเลวร้ายในวันที่ 6 ตุลาคม คือการสร้างเรื่องหมิ่นสถาบัน เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการฆ่าหมู่
วันนี้เราได้เห็นคนพลิกตัวเอง จากซ้ายกลายเป็นขวาจัด!
แล้วมีพฤติกรรมเช่นผู้ที่สร้างเรื่องเมื่อ 37 ปีก่อนอย่างไม่ละอาย
กลายเป็นพวกแอบอ้างอุดมการณ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อจะใช้ทำลายคนคิดต่าง
จริงอยู่การเมืองวันนี้ มีความซับซ้อนไม่เหมือนเดิม
แต่อย่าสนับสนุนวิธีการเลวร้ายที่เมื่อ 14 ตุลาฯและ 6 ตุลาฯ
ต้องไม่ยอมให้รัฐบาลไหนสั่งกองกำลังติดอาวุธ มายิงใส่ประชาชนและต้องไม่ยอมรับการบิดเบือน กุเรื่องเพื่อใส่ร้ายป้ายสีคนคิดต่าง!
ได้ยินคนเดือนตุลาฯเขาพูดคุยกันว่า อย่าทำให้การรำลึกถึงวีรชน เป็นเพียงแค่พิธีเช็งเม้ง
คือ แค่จัดเซ่นไหว้ผู้จากไป
แต่ควรรำลึกถึงคุณค่าของการต่อสู้ด้วยชีวิต และทำให้เจตนารมณ์ในการจุดประกายประชาธิปไตย สืบเนื่องต่อไป
ต้องไม่แค่รำลึกนึกถึงแบบลอยๆ แต่ต้องปรับเนื้อหาสาระของการเมืองวันนี้ ให้สอดรับกับสิ่งที่วีรชนเขายอมพลีชีวิตอีกด้วย
อย่างเช่น คุณละเมียด บุญมาก ภรรยาของคุณจีระ บุญมาก วีรชนที่ถูกยิงตายในวันที่ 14 ตุลาคม 2516
ขณะเดินถือผลส้มเข้าไปหาทหาร
คุณละเมียดได้เขียนจดหมายเมื่อปลายปี 2555 ในฐานะภรรยาที่สูญเสีย โดยบอกว่า ไม่เคยอยากให้สามีเป็น วีรชนเลย
แต่เพื่อคำว่าเสรีภาพ ต้องกล้ำกลืนหน้าชื่นอกตรม
จดหมายของภรรยาวีรชน ต้องเขียนขึ้นในเวลานั้น เพราะมีม็อบเสธ.อ้ายออกมาเคลื่อนไหว เพื่อให้แช่แข็งประเทศ
เธอจึงต้องออกมาคัดค้าน เพราะเป็นการทำลายเจตนารมณ์ 14 ตุลาฯ ซึ่งสามีของเธอเป็น 1 ใน 71 ชีวิตที่ดับสูญไปในวันนั้น!
นี่จึงเป็นตัวอย่างของการรำลึกถึงวีรชน โดยสืบทอดหลักการและพร้อมจะต่อต้านคนที่คิดจะทำให้ประชาธิปไตยถอยหลังในทุกสถานการณ์
ไม่ใช่เชิดชูอย่างลอยๆ ไม่เกี่ยวพันกับความเป็นจริงในวันนี้!
จะยกย่องผู้ต่อสู้ 6 ตุลาฯและ 14 ตุลาฯ ก็ต้องปกป้องประชาธิปไตยต่อไปด้วย
ไม่ใช่พลิกจุดยืนตลบตะแลง วันนี้กลายเป็นพวกไปร่วมเหยียบย่ำประชาธิปไตยเสียเอง
ถ้าพูดให้ชัด ประเด็นความเลวร้ายในวันที่ 6 ตุลาคม คือการสร้างเรื่องหมิ่นสถาบัน เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการฆ่าหมู่
วันนี้เราได้เห็นคนพลิกตัวเอง จากซ้ายกลายเป็นขวาจัด!
แล้วมีพฤติกรรมเช่นผู้ที่สร้างเรื่องเมื่อ 37 ปีก่อนอย่างไม่ละอาย
กลายเป็นพวกแอบอ้างอุดมการณ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อจะใช้ทำลายคนคิดต่าง
จริงอยู่การเมืองวันนี้ มีความซับซ้อนไม่เหมือนเดิม
แต่อย่าสนับสนุนวิธีการเลวร้ายที่เมื่อ 14 ตุลาฯและ 6 ตุลาฯ
ต้องไม่ยอมให้รัฐบาลไหนสั่งกองกำลังติดอาวุธ มายิงใส่ประชาชนและต้องไม่ยอมรับการบิดเบือน กุเรื่องเพื่อใส่ร้ายป้ายสีคนคิดต่าง!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น