ที่มา:มติชนรายวัน 29 พ.ค.2556
หากการปล่อยข่าว หึ่ง ! ปลด ผบ.ทบ.เป็นเรื่องครึกโครมอย่างมาก การพบระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ ผบ.เหล่าทัพ
ก็เป็นเรื่อง "ใหญ่"
เป็น ผบ.เหล่าทัพที่เรียงตั้งแต่ ผบ.ทหารบก ผบ.ทหารเรือ ผบ.ทหารอากาศ ครบถ้วนและคึกคักอย่างยิ่ง
ที่สำคัญ ยังมีคำยืนยันจาก พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
"บรรยากาศดี คุยกันสนุกสนาน มีการหยอกเย้ากันบ้าง ทาง ผบ.ทบ.ก็รับปากในที่ประชุมว่าจะไม่มีการทำรัฐประหารเพราะทหารทำตามหน้าที่ในระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ท่านนายกฯได้ยินแบบนี้ก็ชื่นใจ"
แม้ ณ วันนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะอยู่ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แต่ก่อนหน้านี้คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ก่อนเกษียณจากราชการก็เป็น "ปลัดกระทรวงกลาโหม"
จึงไม่เพียงแต่การปล่อยข่าวในลักษณะ หึ่ง ! ปลด ผบ.ทบ.จะสะท้อนอุณหภูมิจากบางด้านของสังคมไทย หากแต่การพบและหารือนอกรอบระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ ผบ.เหล่าทัพก็สำคัญ
สำคัญต่อการเมือง "ไทย"
ไม่สงสัยกันบ้างหรือต่อการเคลื่อนขบวนของ "ม็อบ" แนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดินในนามกลุ่ม "ธรรมาธิปไตย"
ม็อบนี้ย้ายจากลำตะคองมายัง กทม.
คล้ายกับเป้าหมายจะอยู่ที่สนามไชยใกล้กับวังสราญรมย์ แต่พอถึงวันที่ 7 พฤษภาคม ก็เข้ายึดท้องสนามหลวง
ไม่สนใจต่อคำสั่งของ กทม.
ไม่สนใจต่องานพระราชพิธีแรกนาขวัญจรดพระนังคัล ไม่สนใจต่อการจัดนิทรรศการเนื่องในวันวิสาขบูชา
กำลังหลักของม็อบสวมหมวก "ดาวแดง"
เมื่อแรกที่เคลื่อนจากหาดวังมัจฉา ลำตะคอง ก็เดินทางไปโบกธงบริเวณทำเนียบองคมนตรีแล้วจึงเข้าไปยังสนามไชย
แล้วปักหลัก "ท้องสนามหลวง"
จากวันที่ 7 พฤษภาคม เรื่อยมาจนถึงปลายเดือนและมีแนวโน้มว่าจะต่อยาวไปถึงเดือนมิถุนายน โดยที่ กทม.ไม่สามารถดำเนินการได้ตามคำสั่งอันเคยขึงขังในกาลอดีต ถามว่ากำลังหลักที่หนุนเสริมม็อบเหล่านี้มาอย่างไร
กำลังใจและกำลัง "เงิน"
การดำรงอยู่ของม็อบท้องสนามหลวงคล้ายกับจะรอคอยผลการวินิจฉัยของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในเดือนตุลาคม
เป็นเช่นนั้นจริงหรือ
นี่เหมือนกับเป็นการย้อนกลับไปยังการชุมนุมในลักษณะเดียวกันในห้วงเดือนตุลาคมของปี 2548
เพียงแต่ข้อเรียกร้องตอนนั้นคือ "ถวายคืนพระราชอำนาจ"
หลังจากชุมนุมแล้วจุดไม่ติดแกนนำการชุมนุมส่วนหนึ่งเดินทางไปสนทนาธรรมกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์
นั่นเป็นสถานการณ์หลังการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์
การหวนคืนท้องสนามหลวงอีกครั้งภายใต้นามแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดินประสานเข้ากับกลุ่มธรรมาธิปไตย สวมหมวก "ดาวแดง" จึงดำเนินไปในลักษณะของการรอคอยสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
สถานการณ์การปล่อยข่าว หึ่ง ! ปลด ผบ.ทบ.
สถานการณ์การขับเคลื่อนต่อต้านทุกเรื่อง ขวางทุกเม็ด ทุกประเด็น มิให้รัฐบาลสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ตามปกติ
หวังปาฏิหาริย์เหมือนปี 2549 และปี 2551
การนัดหารือนอกรอบระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ ผบ.เหล่าทัพจึงเป็นความจำเป็นและเหมาะสม
1 เพื่อสยบข่าวลือในลักษณะ "เสี้ยม" 1 เพื่อร่วมกันติดตามกับการสร้างสถานการณ์ในแบบขว้างระเบิด โยนลูกเปตองเข้าใส่ "ไทยรัฐ"
เสริมแกน "ความมั่นคง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น