Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โรคจิต การเมือง ถวิลหา รัฐประหาร แพร่ลาม ระบาด

ที่มา:มติชนรายวัน 14 พ.ค.2556



ถามว่าเหตุใดเมื่อเริ่มก่อรูปและเคลื่อนไหวในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป้าของการยื่นหนังสือจึงพุ่งไปยัง 2 จุด

จุด 1 คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

จุด 1 คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

เพราะว่าคนที่เข้าร่วมในการเคลื่อนไหว ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และในกาลต่อมาไม่เพียงแต่มี พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ และรวมถึง พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป

หากยังมี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ

คนเหล่านี้ล้วนได้รับการเรียกขานว่าเป็น "เด็กป๋า" ทำงานใกล้ชิดและรับใช้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาอย่างยาวนาน

ขณะเดียวกัน ความพยายามเคลื่อนขบวนไปบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบกกระทั่ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ยอมให้เข้าพบ

นับว่ามี "นัยยะ" สำคัญ

เพราะจากการเคลื่อนไหวนัดแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กระทั่งในที่สุดในเดือนกันยายน 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็ก่อการรัฐประหาร

โค่นรัฐบาล "ทักษิณ"

ปัจจัยที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องทำหนังสือยื่นผ่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และขอเข้าพบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จึงสำคัญ

สำคัญต่อการเมืองไทย

หากใครติดตามการปราศรัยของนักพูดบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในแต่ละคืนก็จะจับทางได้

จับทางในการร้องหา "ทหาร"

เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งได้เกิดบรรยากาศและเสียงกู่ร้องทางการเมืองในลักษณะที่กลายเป็นกระแสในทำนองว่า

"คิดถึงสฤษดิ์จริงโว้ย"

คำว่า "สฤษดิ์" ในที่นี้หมายถึง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อันเป็นปฏิมาของทหารที่ปกครองประเทศด้วยปากกระบอกปืน

ใช้อำนาจเผด็จการอย่างเฉียบขาด

ในที่สุด การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ ที่สามารถระดมคนได้เรือนแสนก็เท่ากับเป็นการปูทางและสร้างเงื่อนไขนำไปสู่สภาพทางการเมืองในแบบ

"คิดถึงสฤษดิ์จริงโว้ย"

อย่าแปลกใจที่เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปแสดงปาฐกถาพิเศษในประชาคมประชาธิปไตยโลก ณ กรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย

จึงนำไปสู่ "ปฏิกิริยา" เป็นอย่างสูง

เพราะว่าปาฐกถาพิเศษนั้นเสนอ "เส้นแบ่ง" อย่างสำคัญต่อประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ของไทยว่าเนื่องแต่

รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

บทบาทของรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 จึงเหมือนกับหินลองทองอันคมแหลมและเหมือนกับสันปันน้ำในทางความคิด

ใครเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วย

ที่ทะเลาะเบาะแว้งอยู่ในขณะนี้ก็ล้วนแต่มีรากที่มาจากการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ทั้งสิ้น ที่คร่ำครวญหวนไห้และสำแดงอาการเหมือนกับเป็นการกวักมือเรียกทหารให้ออกมาอีกครั้ง

ก็เนื่องแต่อาการถวิลหารัฐประหารทั้งสิ้น

การทำความเข้าใจต่อเงื่อนไข มูลเชื้อและผลสะเทือนอันเนื่องแต่รัฐประหารเดือนกันยายน 2549 จึงมีความจำเป็น

ไม่ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

การเคลื่อนไหวทางการเมือง ทุกก้าวย่างจึงเริ่มจากจุดนั้นและทำท่าจะหวนกลับไปสู่จุดนั้นอีก

เพราะว่าฝ่ายที่เคยคิดว่ากำชัยเริ่มตระหนักแล้วว่ามิได้กำชัยอย่างแท้จริง จึงหวังอีกครั้งว่าจะพลิกเวลาให้หวนกลับเพื่อที่จะได้เรียกชัยได้คืนมา

1 ประเทศ 2 อำนาจรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น