การขว้างระเบิดประทัดและเปตอง บริเวณหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มาพร้อมกับการประโคมในเรื่อง
หึ่ง! ปลด ผบ.ทบ.
พร้อมกับการฟันธงด้วยความเชื่อมั่นจาก นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนโพลิติก
"มีความเป็นไปได้"
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายสุริยะใส กตะศิลา นอกจากเคยเป็นเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ร่วมกับ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
ยังเคยเป็น โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าชนวนอันทำให้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ร่วมกับ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล ในการยึดอำนาจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534
คือ ข่าวลือการปลดย้ายทหาร
เมื่อข่าวปล่อย "หึ่ง! ปลด ผบ.ทบ." ดังกระหึ่มประสานเข้ากับการขว้างระเบิดประทัดถล่มใส่หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่
ยิ่งเป็นความละเอียดอ่อน
ถึงแม้ยังไม่มี "ท่าที" ใดๆ จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จาก นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
แต่ "บางคน" ที่ออกมาพูดมากด้วยความระมัดระวัง
"ขอให้ระลึกไว้เลยว่ารัฐบาลนี้ไม่วอแวกับทหารเป็นที่สุด" เป็นคำยืนยันจาก นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย
ยิ่ง พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร ยิ่งมากด้วยความมั่นใจ
"น่าจะเป็นข่าวที่ออกมาจากทางสื่อที่ได้รับมาจากขบวนการปล่อยข่าวมากกว่า อาจจะเป็นข่าวลือของฝ่ายการเมืองตรงข้ามรัฐบาลท่มีการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหว เพราะเท่าที่ประเมินฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้
"ดังนั้น กระบวนการที่จะล้มรัฐบาลได้ก็ต้องให้กองทัพออกมา เพื่อจุดชนวนให้ทหารออกมา นี่คือเงื่อนไขของเขาที่มีช่องทางเดียว"
เป็นการสรุปจากความจัดเจน
เป็นความจัดเจนของทหารที่ผ่านกระบวนการยึดอำนาจเมื่อปี 2534 เป็นความจัดเจนที่ติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมืองนับแต่ก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา เป็นความจัดเจนในฐานะเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ยิ่งเป็นเรื่อง "ไทยรัฐ" ยิ่งละเอียดอ่อน
คล้อยหลังกัมปนาทแห่งระเบิด พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ก็ปรากฏเงาร่าง
"นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงและมอบหมายให้ผมมาดู เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการคุกคามสื่อรูปแบบหนึ่ง นายกรัฐมนตรีไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกในสังคม"
เป็นการสื่อถึง "ไทยรัฐ" เป็นการสื่อถึง "สื่อ"
"คนเสื้อแดงไม่ทำเช่นนั้นแน่" เป็นคำยืนยันจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ "แต่ในสถานการณ์แบบนี้มักมีลูกผสม มือที่ 3 เท้าที่ 4 เพื่อให้ดูแล้วเหมือนเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยรัฐ คนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย"
เช่นเดียวกับ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
"แม้พรรคเพื่อไทยและกลุ่มผู้สนับสนุนจะไม่พอใจท่าทีและพฤติกรรมของ ชัย ราชวัตร แต่เราก็เคารพและเชื่อมั่นในการเป็นสถาบันสื่อมวลชนที่เก่าแก่ของประเทศของไทยรัฐ"
สะท้อนการมองปัญหาอย่างแยกจำแนก
เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล "เจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักไปในการสร้างสถานการณ์ของมือที่ 3 มากกว่า"
เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. "พฤติกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะมีความชำนาญในการสร้างสถานการณ์มาก่อน"
เป้าหมายย่อมเป็นการ "เสี้ยม"
ในสถานการณ์ที่ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ การเมือง ทวีความร้อนแรง แหลมคม เช่นนี้
จังหวะก้าวของรัฐบาลต้องรอบคอบ สุขุม จังหวะก้าวของพรรคการเมืองต้องจำกัดกรอบของความขัดแย้งให้มีพื้นที่ที่แน่นอน ไม่เปิดและสร้างแนวรบมากมายจนผิดปกติ
ใครที่จงใจเช่นนั้นย่อมได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น