โดย วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
สุนทรพจน์ของ
"นายกปู" วันนี้ หากไม่ได้บอกว่าพูดที่ 'มองโกเลีย' ก็คงต้องนึกว่าพูดบน 'เวทีหาเสียง'
กลเกมส์การเมืองนี้ หากเป็นดังที่เดา ก็คงต้องบอกว่า ไม่ธรรมดา และอันตราย
รัฐบาลเข็นประเด็นเข้ามาพร้อมกัน ทั้งกู้ 2 ล้านล้าน แก้รัฐธรรมนูญ และนิรโทษกรรม ยังไม่ต้องพูดถึงเจรจาใต้ และอื่นๆ
สอดคล้องกับท่าทีการจัดเวที และออกจดหมายชนศาล สอดคล้องกับการเช็คแถวพรรค สอดคล้องกับท่าที ดร. เฉลิม ที่ขยันทั้งเรื่องลงใต้ และเรื่องคุณทักษิณ สอดคล้องกับกระแสปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ จะพ่วงกระแสผลงานที่ศาลโลกมาหนุนก็ได้ด้วย
การเมืองตอนนี้ หากมีใครหลวมตัวกลายมาเป็น "ข้ออ้าง" ให้รัฐบาลบอกว่าการเมืองเดินต่อไปไม่ได้ ก็อาจมีการชิงจังหวะ "ยุบสภา" แม้ผลวัดกระแสเลือกตั้ง กทม. และเชียงใหม่ อาจไม่โดนใจ แต่ก็ไม่ถือว่าหลุดเป้า
ถ้า "ยุบจริง" ก็สนุกแน่ครับ เพราะจะมี 'โปรเด็ด' ถ้าอยากได้รถไฟความเร็วสูง ถ้าอยากได้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ถ้าอยากได้ความปรองดอง ประชาชนโปรดแสดงจุดยืนโดยการเลือก "เพื่อไทย"
เรียกว่า ยุบทั้งที ขอยุบให้คุ้ม
แต่ 'โปรโมชั่น' เด็ดที่ว่า อาจมาพ่วงแกมบังคับมาเป็นชุด อยากได้รถไฟ แต่ไม่อยากได้นิรโทษกรรม ก็แยกกันไม่ได้ ทั้งที่ความจริง การยุบสภาอย่างจริงใจนั้น หากจะให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นที่ถกเถียงกัน กาไปเลยพร้อมกันในวันเลือกตั้ง ใบแรกเลือก ส.ส. ใบที่สองเรื่องรถไฟ ใบที่สามเรื่อง สสร. ใบที่สี่เรื่องปรองดอง ก็คงสนุกดีไม่น้อย
แต่ถ้าใจร้อน มัดมาสอดไส้ทุกเรื่องไว้บนขบวนเดียวกัน หากไม่ระวัง อาจตกรางได้ทั้งขบวนนะครับ !
ที่ผ่านมาที่ 'พันธมิตร' ยังไม่เคลื่อนไหวอะไรมาก หากมองแบบให้เกียรติ ก็คืออ่านเกมส์ทัน
ด้าน 'ประชาธิปัตย์' ผมก็ขอสวดมนต์ ภาวนา ปฏิรูปให้ทันเขาหน่อยนะครับ
ส่วน 'ศาลรัฐธรรมนูญ' ที่เหมือนจะไม่ทันเกมส์อะไรกับเขาเลย ก็คงไม่มีทางเลือกแล้วครับ ท่านทำตัวท่านเอง ลดตัวมาเล่นการเมือง การเมืองก็จะเล่นท่าน ท่านจะยอมถอยเพื่อคลายสถานการณ์ หรือท่านจะ 'สร้างสถานการณ์' ให้คนนำไปอ้างต่อเอง
ทั้งหมด หากเป็นดังนี้ ก็ต้องถามว่า การเดินหมากแบบกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ มีสักกี่คน ที่คิดได้ครับ ?
ประวัติศาสตร์ มิได้สอนอะไรเราเลยหรือ ?
กลเกมส์การเมืองนี้ หากเป็นดังที่เดา ก็คงต้องบอกว่า ไม่ธรรมดา และอันตราย
รัฐบาลเข็นประเด็นเข้ามาพร้อมกัน ทั้งกู้ 2 ล้านล้าน แก้รัฐธรรมนูญ และนิรโทษกรรม ยังไม่ต้องพูดถึงเจรจาใต้ และอื่นๆ
สอดคล้องกับท่าทีการจัดเวที และออกจดหมายชนศาล สอดคล้องกับการเช็คแถวพรรค สอดคล้องกับท่าที ดร. เฉลิม ที่ขยันทั้งเรื่องลงใต้ และเรื่องคุณทักษิณ สอดคล้องกับกระแสปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ จะพ่วงกระแสผลงานที่ศาลโลกมาหนุนก็ได้ด้วย
การเมืองตอนนี้ หากมีใครหลวมตัวกลายมาเป็น "ข้ออ้าง" ให้รัฐบาลบอกว่าการเมืองเดินต่อไปไม่ได้ ก็อาจมีการชิงจังหวะ "ยุบสภา" แม้ผลวัดกระแสเลือกตั้ง กทม. และเชียงใหม่ อาจไม่โดนใจ แต่ก็ไม่ถือว่าหลุดเป้า
ถ้า "ยุบจริง" ก็สนุกแน่ครับ เพราะจะมี 'โปรเด็ด' ถ้าอยากได้รถไฟความเร็วสูง ถ้าอยากได้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ถ้าอยากได้ความปรองดอง ประชาชนโปรดแสดงจุดยืนโดยการเลือก "เพื่อไทย"
เรียกว่า ยุบทั้งที ขอยุบให้คุ้ม
แต่ 'โปรโมชั่น' เด็ดที่ว่า อาจมาพ่วงแกมบังคับมาเป็นชุด อยากได้รถไฟ แต่ไม่อยากได้นิรโทษกรรม ก็แยกกันไม่ได้ ทั้งที่ความจริง การยุบสภาอย่างจริงใจนั้น หากจะให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นที่ถกเถียงกัน กาไปเลยพร้อมกันในวันเลือกตั้ง ใบแรกเลือก ส.ส. ใบที่สองเรื่องรถไฟ ใบที่สามเรื่อง สสร. ใบที่สี่เรื่องปรองดอง ก็คงสนุกดีไม่น้อย
แต่ถ้าใจร้อน มัดมาสอดไส้ทุกเรื่องไว้บนขบวนเดียวกัน หากไม่ระวัง อาจตกรางได้ทั้งขบวนนะครับ !
ที่ผ่านมาที่ 'พันธมิตร' ยังไม่เคลื่อนไหวอะไรมาก หากมองแบบให้เกียรติ ก็คืออ่านเกมส์ทัน
ด้าน 'ประชาธิปัตย์' ผมก็ขอสวดมนต์ ภาวนา ปฏิรูปให้ทันเขาหน่อยนะครับ
ส่วน 'ศาลรัฐธรรมนูญ' ที่เหมือนจะไม่ทันเกมส์อะไรกับเขาเลย ก็คงไม่มีทางเลือกแล้วครับ ท่านทำตัวท่านเอง ลดตัวมาเล่นการเมือง การเมืองก็จะเล่นท่าน ท่านจะยอมถอยเพื่อคลายสถานการณ์ หรือท่านจะ 'สร้างสถานการณ์' ให้คนนำไปอ้างต่อเอง
ทั้งหมด หากเป็นดังนี้ ก็ต้องถามว่า การเดินหมากแบบกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ มีสักกี่คน ที่คิดได้ครับ ?
ประวัติศาสตร์ มิได้สอนอะไรเราเลยหรือ ?
-------------------------------------------------------
ผมชวนคุยเรื่องนี้ไปแล้วเมื่อวาน พอวันนี้มาเห็นสุนทรพจน์แล้ว สัญญาณมันเลยยิ่งแรง : http://youtu.be/NSbpHj9qBbg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น