Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

ประวิช รัตนเพียร เปี๊ยนไป๋..ประกาศตั้ง 10 อรเหี้ย


ข่าวเจาะลึก
จาก REDPOWER ฉบับ 25 เดือน เมษายน 55


ประวิช รัตนเพียร ด๊อกเตอร์หนุ่มมาดนิ่มที่มีอดีตงดงาม แต่อนาคตยืนยันได้ว่าน่าจะอยู่ได้ไม่งามและตายก็จะไม่มีใครประกาศนามให้ จากอดีตเป็นเพื่อนสนิท เรียนเซนต์คาเบรียลห้องเดียวกับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ (หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาดั้งเดิมตัวจริงศิษย์น้าชาติ) เคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวงและล่าสุดก่อนที่จะเปี๊ยนไป๋ พ.ต.ท.ทักษิณแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนทางการค้าแต่อยู่ๆคนในแวดวงการเมืองก็มาเห็นชื่อเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาในฐานะหัวหอกออกมาต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เส้นทางของกระทาชายนายนี้เป็นอย่างไรให้ลองตามมาดู

นายประวิช รัตนเพียร เป็นลูกชายคนโตของนักการเมืองคนสำคัญคือ นายประชุม รัตนเพียร เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในปี 2526 และเป็นอดีตสมาชิกพรรคประชากรไทยลูกพรรคนายสมัคร สุนทรเวช และเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯนายประวิช ก็มีฐานะทางการเมืองใหญ่โตในฐานะผู้แทนการค้าของไทยเพราะเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์มาก่อนและเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณถูกยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 แต่เมื่อกลับมาใหม่ในนามพรรคพลังประชาชนมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ดร.ประวิช ก็ยังดูดีอยู่คู่คี่กับนายสมัครนายเก่า โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่พอเกิดการรัฐประหารเงียบด้วยคณะตุลาการภิวัฒน์ยึดอำนาจจากนายกฯสมัครและนายกฯสมชายแล้ว อำมาตย์ก็ทำการสถาปนาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ณ กองทหารราบที่ 11  โดยนายเนวิน ชิดชอบ เจ้าของวลีแสบที่ทักษิณลืมไม่ลงว่า นายครับมันจบแล้วครับ ดร.ประวิชก็หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามชายปากห้อยไปอยู่กับฝ่ายอำมาตย์ด้วย โดยอาศัยสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับป๋าและอนุทิน(เสี่ยหนู)อดีตลูกพรรคชาติพัฒนาและเป็นคนหัวอกเดียวกันที่ไม่กินเส้นกับเสี่ยสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในระยะหลังตัวเขาจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบอร์ดการบินไทย ในฐานะที่นายเนวินคุมกระทรวงคมนาคม แต่เมื่อการเมืองผันเปลี่ยน ผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยชนะอย่างท่วมท้น นางสาวยิ่งลักษณ์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ดร.ประวิชจึงศึกษาวลีแสบของเนวินทำความเข้าใจใหม่ในฐานะด๊อกเตอร์แล้วกล่าวว่า นายครับผมยังไม่ยอมจบครับ จึงต่อสายตรงเข้าบ้านสี่เสาและด้วยสายสัมพันธ์เก่าประกอบกับเป็นคนเรียบร้อยตรงสเป๊กป๋าจึงได้รับรางวัลอย่างงดงาม โดยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาและแถมรางวัลพิเศษให้น้องสาวสุดที่รักชื่อ ดร.วิชุดา รัตนเพียร เป็นสว.แต่งตั้งด้วยอีกคนหนึ่งและด้วยเหตุนี้เมื่อสถานการณ์การเมืองเคลื่อนตัวเข้าสู่สมรภูมิสงครามแก้ไขรัฐธรรมนูญอันเป็นมหาภารตะยุทธ ดร.ประวิชจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงจำต้องสวมเสื้อเกราะทองเหลืองออกทำการยุทธ เพื่อทดแทนบุญคุณด้วยการประกาศตัวเปิดเผยออกมาแถลงข่าวตั้ง 10 อรหันต์ ที่เป็นนักวิชาการออกมาควบคุมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อ่านรายชื่อแล้วชาวเสื้อแดงจะเกิดอาการต่อมจี๊ดแตกและเปลี่ยนนามให้ทันทีว่าเป็น 10 อรเหี้ย เพราะล้วนแล้วแต่เป็นผู้สนับสนุนทั้งแบกทั้งหามการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ให้สำเร็จลุล่วงด้วยข้อกฎหมายและหลอกลวงประชาชนรวมตลอดทั้งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ 2550 ให้เสวยอำนาจกันอย่างอิ่มหมีพีมันสะดวกโยธินจนบ้านเมืองป่นปี้มาร่วม 6 ปี ยังไม่มีทีท่าจะฟื้นง่ายๆ

ดร.ประวิชได้บัญชาการรบเป็นฉากๆที่อภิมหาเสนาบดีใหญ่เห็นแล้วต้องลูบหัวขาวด้วยความพึงพอใจ เริ่มจากให้ สว.น้องสาวลงคะแนนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกับ สว.แต่งตั้งกลุ่ม 40 อย่างแข็งขันและหลังจากต้องพ่ายแพ้ศึกลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาแล้ว ดร.ประวิชก็เตรียมม้าศึก 10 อรเหี้ยเข้าพันตูต่อสู้เพื่อโค่นล้มการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการนี้ให้ได้ แล้วตามด้วยตรวจสอบการแต่งตั้งรัฐมนตรีนางสาวนลินี ทวีสิน กับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยเอาผิดไม่ได้จึงตัดสินเลียนแบบคำพิพากษาประหลาดๆแบบตุลาการภิวัฒน์ว่า ไม่ผิดแต่ไม่เหมาะสม นายกฯต้องชี้แจง

เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้แล้วจะไม่ให้กล่าวว่าดร.ประวิช รัตนเพียร เปี๊ยนไป๊ได้อย่างไร

ดูเถอะจากด๊อกเตอร์มาดนิ่มกลายเป็นมาดทิ่มได้อย่างไร แค่ป๋าให้กินยาอำนาจ   2 ช้อนเล็กๆเท่านั้นก็ลืมหลักการประชาธิปไตยที่ อำนาจเป็นของราษฎรทั้งหลายไปได้ในทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น