ข่าวเจาะลึก
จาก REDPOWER ฉบับ 24 เดือน มีนาคม 55
ญัตติปรองดองที่บิ๊กบังเสนอเข้าสภานั้นของปลอม
งานฟังเพลงหน้าตึกไทยคู่ฟ้าที่ป๋าเปรมเป็นประธานนั้นเป็นงานปรองดองของจริง,งานปรองดองไหนปลอม
งานปรองดองไหนจริง ขอให้ดูการดิ้นพราดๆของพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรเป็นสำคัญ เพราะทั้งประชาธิปัตย์และพันธมิตรไม่ชอบปรองดอง
เพราะหากประเทศชาติเกิดการปรองดองเมื่อไรก็ไปไม่เป็นเมื่อนั้น
เพียงแค่ป๋าเปรมตอบรับว่าจะไปร่วมงานรักเมืองไทยเดินหน้าประเทศไทยเพียงเท่านั้นทั้งวิทยุ
โทรทัศน์
ASTV สังกัดพันธมิตร ก็เปิดรายการด่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์สารพัดสารพันค่อนขอดว่าบีบบังคับป๋าอย่างนั้นอย่างนี้
ตั้งแต่วันแรกที่คำว่า “รักเมืองไทย” แยงเข้าหูจนถึงวันนี้ป๋าฟังเพลงสบายอารมณ์แล้วแต่กระบอกเสียงพันธมิตรยังระคายอารมณ์อยู่
ส่วนประชาธิปัตย์ยังกระฟัดกระเฟี๊ยดตั้งแต่แต่งชุดดำประท้วงจนเลยเถิดถึงขั้นต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ
ส่วนขบวนการรักชาติราชบัลลังก์สาขาพันธมิตรนำโดย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
และ นายบิณฑ์ บรรลัยฤทธิ์
ก็นำมวลชนมา 10 คันรถบัส ทำการประท้วงการจัดงานรักเมืองไทยก็ต้องกลับไปด้วยใจห่อเหี่ยวเมื่อปรากฏภาพของป๋ายิ้มออก
TV ถ่ายทอดสดเคียงคู่กับนายกฯยิ่งลักษณ์ตลอดงาน
และยิ่งระทดระท้อใจเมื่อ พลเอกพงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษ
แถลงข่าวพาดหัวหน้า 1
หนังสือพิมพ์ข่าวสดว่า “ป๋ายินดีและพร้อมที่จะไปอีกถ้าเชิญ......ซึ่งปกติแล้วท่านไม่ค่อยออกงานกลางคืนสักเท่าไร”(ข่าวสด 15 ก.พ.55)
คำถามในใจไทยทุกคนมีตรงกันว่า“ทำไมป๋าจึงไปฟังเพลงที่ทำเนียบ?”
ยิ่งหากใครติดตามสถานการณ์การเมืองมาอย่างละเอียดตลอด
5 ปีเศษทั้งฝั่งแดงและฝั่งเหลืองก็จะมีคำถามตรงกันว่า “ปู-ป๋า-ป้า ” จะเอายังไงแน่วะ?
ยิ่งเหตุการณ์วันตรุษจีนที่สถานี ASTV ได้เกิด “พันธมิตรมินิเฟสโต้” ประกาศแข่งกับ “คอมมิวนิสต์มินิเฟสโต้” ว่า “ให้ทหารเร่งการปฏิวัติโดยเร็ว
เมื่อยึดอำนาจแล้วให้บริหารรัฐเอง”
หลังจากนั้นบรรดาอดีตผบ.ทบ.และผบ.ทบ.คนปัจจุบันสายบูรพาพยัคฆ์ก็ชุมนุมกันทำพิธีกรรมเตรียมการยึดอำนาจที่วัดอ้อน้อย
กำแพงแสน แล้วอยู่ๆป๋าก็พาลูกๆไปฟังเพลงก็ยิ่งทั้งเง็งทั้งงง
ในความงงงวยทั้งหมดนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของ
Red
Power เจาะข่าวลึกอย่างกล้าหาญเองและขอละเลงข่าวดังนี้
นับ 5 ปีมานี้เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า
ป๋าทั้งเหนื่อยทั้งล้าเพราะต้องเอาใจป้า อุ้มลูกอุ้มหลาน
จนชาวบ้านระอาและทนดูไม่ไหวจึงเทคะแนนให้เพื่อไทยไปสุดๆจนเกินครึ่งสภา “แล้วจะให้ป๋าทำอย่างไร?” และยิ่งหลานปูยิ่งดูก็ยิ่งน่ารัก
มีสัมมาคารวะ ท่าไหว้ก็งาม ส่วนนามก็ไพเราะ ให้เกียรติป๋าทุกอย่าง
ป๋าอยากได้ผ้า
ป้าอยากได้เกลือ มีอะไรขาดเหลือ หลานปูก็ดูให้หมด
ส่วนพี่ชายของหลานปู ดูๆไปก็ไม่มีอะไรให้น่าเกลียด
ส่วนลูกป๋าประชาธิปัตย์พยายามจะเบียดและยัดเยียดความเกลียดชังให้
ป๋านั่งคิดไปคิดมาก็ระอาระอายใจ
ข่าววงในรายงานว่า
ป๋าเริ่มสบายใจคลายความเครียดเมื่อลูกป๋าสายทหารผู้รักสันติจัดงานกองทัพบกจัดให้นายกฯปูได้พบคารวะป๋า
หลังจากนั้นก็เดินหน้าต่อขอให้เป็นประธานงานรักเมืองไทยจึงส่งใจถึงใจกันได้สนิทใจมากขึ้น
เมื่อป๋าเดินหน้าตามแนวทางปรองดองลูกป๋าสายฮาร์ทคอร์จึงเกิดอาการคออักเสบเริ่มพูดไม่ออก
ขบวนการรัฐประหารนิยมก็เกิดอาการขื่นขมไปในฉับพลัน
ข่าวเจาะลึกรายงานว่าที่สนธิลิ้มประกาศ
“พันธมิตรมินิเฟสโต้”
ประสานกับการทำบุญหล่อพระของบรรดา ผบ.ทบ.เก่า – ใหม่
สายบูรพาพยัคฆ์ที่วัดอ้อน้อยนั้น เพราะได้กลิ่นปรับ
ค.ร.ม.ก่อนส.ส.เพื่อไทยและรู้ด้วยว่า บิ๊กอ๊อด “พลเอกยุทธศักดิ์” จะต้องไปไกลจาก รมว.กลาโหม
จึงปลุกระดมหวังว่าป๋าจะหงุดหงิดแต่คาดการณ์เกิดผิด
ป๋าเกิดมีจิตเมตตารู้ว่าอะไรเหมาะอะไรควรในเวลานี้ เมื่อหมากตากลาโหมถูกขยับจับเอารุ่น
10 สุกำพล สุวรรณทัต ลงมาตั้ง ทุกฝ่ายควรจะชั่งใจถ้าอย่างไรก็ขอให้ บิ๊กตู่ อยู่เป็น ผบ.ทบ.ต่อไป
คงจะไปได้สวยด้วยทุกประการดีกว่าที่จะคิดประหัตประหารกัน
เมื่อเงาแห่งผู้ยิ่งใหญ่ทาบไปที่ทำเนียบรัฐบาลเช่นนี้
จึงเกิดอาการร่มเย็นขึ้นในระดับหนึ่งทันที
ด้วยเหตุนี้บรรดาลูกหลานป๋าที่กินจุแต่ไม่รู้จักโตทางการเมืองเสียที
คอยแต่อาศัยโหนเงาป๋าหากิน ก็เลยต้องดิ้นกระแด่วๆกันเป็นแถวไป เพราะป๋าโบกมือบ้ายบายส่งสัญญาณ
ลับ ลวง งง เพราะป๋าก็งงกับตัวเองในวัย 92 ปี เช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น