Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

'ควีนเบียทริกซ์' แห่งฮอลแลนด์ สละราชสมบัติ มอบบังลังก์แก่พระราชโอรส

โดย ประชาไท
เรียบเรียงจาก CBS News, กรุงเทพธุรกิจ



สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์วัย 75 พรรษา มีกำหนดสละราชสมบัติ 30 เม.ย.นี้ แก่เจ้าฟ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์ ตรัสภาระรับผิดชอบต่อประเทศควรถูกส่งต่อแก่คนรุ่นใหม่
สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ ทรงมีพระราชดำรัสเผยแพร่ทางโทรทัศน์ทั่วประเทศวานนี้ว่า ในวโรกาสที่พระองค์จะทรงมีพระชนมายุครบ 75 พรรษาในวันพฤหัสบดีนี้ และในปลายปีนี้เนเธอร์แลนด์จะฉลองครบรอบการสถาปนาประเทศนาน 200 ปีซึ่งจะเป็นการก้าวสู่ศักราชใหม่ของประวัติศาสตร์ประเทศ จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสละราชสมบัติในฐานะสมเด็จพระราชินีนาถ องค์พระประมุขแห่งเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 30 เมษายนนี้ พร้อมกับตรัสว่า ภาระรับผิดชอบต่อประเทศชาติควรถูกส่งต่อให้กับคนรุ่นใหม่
พระองค์จะทรงมอบราชบัลลังก์ให้พระราชโอรสองค์โต เจ้าฟ้าชายวิลเล็ม อเล็กซานเดอร์ องค์มกุฎราชกุมาร ที่มีพระชนมายุ 45 ชันษา เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีในวันเดียวกัน ซึ่งจะทรงเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์แรกในรอบ 122 ปี นับตั้งแต่การสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม ที่ 3 เมื่อปี 2433
 
พระราชวงศ์แห่งเนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในพระราชวงศ์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในทวีปยุโรป สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2523 เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถยูเลียนา พระมารดาทรงสละราชสมบัติ แม้การปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระองค์ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแค่ในพระราชพิธี แต่พระองค์ก็ทรงเป็นที่รักของผสกนิกรชาวดัทช์
 
สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ได้เผชิญความเศร้าโศกเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว หลังจากที่เจ้าชายฟรีโซ พระราชโอรสองค์ที่สองของพระองค์ประสบอุบัติเหตุจากการเล่นสกีในออสเตรีย ทำให้อยู่ในอาการโคม่า หลายฝ่ายจึงคาดว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระองค์ตัดสินใจสละราชสมบัติในช่วงนี้ 
 
ถึงแม้พระองค์จะอยู่ในตำแหน่งที่เป็นพระราชพิธีส่วนใหญ่ แต่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ชุดที่แล้วก็ได้ปลดอำนาจของพระองค์ที่มีอยู่ไม่กี่อย่างออกไป นั่นคือการเสนอชื่อผู้ตั้งคณะรัฐมนตรีหลังจากการเลือกตั้งรัฐสภา 
 
ทั้งนี้ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง พระราชินีเบียทริกซ์ทรงลี้ภัยไปอยู่แคนาดากับสมาชิกในราชวงศ์ และเข้าเรียนที่โรงเรียนประถมของรัฐในเมืองออตตาวา ก่อนที่จะกลับมาสู่ฮอนแลนด์หลังสงครามสิ้นสุดลง 
 
พระราชสวามีของพระองค์ เจ้าชายเคลาส์ ได้เสียชีวิตลงเมื่อปี 2545 พร้อมกับความโศกเศร้าเสียใจของประชาชนทั้งประเทศ ทั้งๆ ที่การเสกสมรสของพระองค์ได้รับการต่อต้านในช่วงแรก เนื่องจากเจ้าชายคลาวส์เคยเป็นทหารของนาซีเยอรมนี และการเข้ายึดครองเนเธอร์แลนด์ของกองทัพนาซีก็ยังคงเป็นแผลใจของประชาชนส่วนใหญ่ 
 
เจ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์ ทรงเสกสมรสกับสาวสามัญชน แมกซิมา ที่มีถิ่นกำเนิดในอาร์เจนตินาเมื่อปี 2545 และทรงมีพระธิดาด้วยกัน 3 พระองค์ เจ้าชายทรงเป็นองค์ปาฐกในการประชุมเกี่ยวกับเรื่องน้ำบ่อยครั้งเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของประเทศที่ประสบภัยภัยแล้ง
 
ขณะที่เจ้าหญิงแมกซิมา ทรงเคยเป็นนักการธนาคารฝ่ายการลงทุน และสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ ตรัสแสดงความเชื่อมั่นว่า ทั้งเจ้าชายวิลเลมอเล็กซานเดอร์และเจ้าหญิงแมกซิม่าทรงมีความพร้อมสำหรับพระราชกรณียกิจในอนาคต และจะทรงปกครองประเทศด้วยความทุ่มเทเสียสละ
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น