คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน โดย การ์ตอง มติชน 27 มกราคม 56
การเคลื่อนไหวให้ "นิรโทษกรรม" ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมมีอยู่ตลอดเวลา
ด้วยความคิดที่ว่า ผู้ถูกกล่าวหาหรือบางคนถูกตัดสินให้เป็นนักโทษไปแล้วนั้น
ไม่ใช่ผู้มีสำนึกอาชญากรรม เป็นเพียงผู้มีความคิดแตกต่างทางการเมือง
และเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อความคิดของตัวเอง
ความคิดที่แตกต่างนั้นไม่ควรจะต้องเป็นผู้ถูกกุมขัง
เพราะลึกลงไปในความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด
ล้วนเกิดจากความหวังดีต่อประเทศชาติ
อยากเห็นประโยชน์พัฒนาไปสู่ความดีงามตามความคิดของตัวเอง
ความเคลื่อนไหวนี้
ไม่ได้รับการขานรับมากนัก เพราะผู้มีอำนาจไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดตระหนักว่า
ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน
โดยเฉพาะรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ
เสี่ยงที่จะถูกโจมตีว่าออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อ "ทักษิณ ชินวัตร"
ซึ่งถูกศาลตัดสินให้มีความผิดต้องติดคุก
การถูกโจมตีว่าออกกฎหมายช่วยทักษิณเป็นเรื่องอ่อนไหว
เพราะง่ายต่อการถูกใช้เป็นประเด็นปลุกระดมก่อม็อบล้มล้างรัฐบาลได้
ดังนั้น
แม้คนบางส่วนในรัฐบาลจะเห็นด้วยกับการคลี่คลายความแตกแยก
ซึ่งเป็นวิกฤตของชาติด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม
ทว่าในทางปฏิบัติยากจะตัดสินใจทำ
เนื่องจากเสี่ยงกับการสร้างสถานการณ์รุนแรงขึ้นมาอีกในประเทศ
สิ่งที่รัฐบาลทำได้จึงแค่รับเรื่องไว้และหาทางชลอออกไปก่อน
โดยทำความเข้าใจกับมวลชนให้รับรู้ถึงความอ่อนไหว
ซึ่งการยื้อเวลาเป็นการแก้ปัญหามาระยะหนึ่ง
ถึงวันนี้ดูเหมือนแรงกดดันต่อรัฐบาลจะแรงขึ้น
หลังศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี "สมยศ พฤกษาเกษมสุข"
หนึ่งในกลุ่มเสื้อแดง
การนัดชุมนุมใหญ่มวลชนเสื้อแดงในวันที่ 29
มกราคมนี้ที่ลานพระรูปทรงม้า ซึ่งก่อนหน้านั้นประเมินว่าแค่ปล่อยให้แสดงออกไป
และรับฟังเหมือนที่ผ่านมาคงลดแรงเสียดทานนั้นได้
ทว่ายิ่งนานวัน
การแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ โดยเริ่มจากกรณีของ "สมยศ"
เริ่มแรงและขยายวงกว้างขึ้น
ความไม่พอใจนั้นขยายมาสู่รัฐบาล
ถ้อยคำแบบได้ดิบได้ดีแล้วลืมมวลชนที่เสียสละต่อสู้
ซึ่งก่อนหน้านั้นจะมีผู้พยายามทำความเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องระมัดระวัง
ซึ่งพอจะเข้าใจได้
มาถึงวันนี้
ข้ออ้างถึงความจำเป็นดังกล่าวเริ่มถูกสวนกลับ
"สมยศ
พฤกษาเกษมสุข"
กำลังเป็นกรณีจุดกระแสให้เกิดแรงกดดันที่หนักขึ้น
ในความเป็นจริง
คดีในลักษณะเดียวกันนี้กำลังเข้าสู่วาระที่จะต้องพิพากษาอีกหลายเรื่อง
ซึ่งหมายถึงแรงกดดันจะมากขึ้นเรื่อยๆ
น่าสนใจตรงที่รัฐบาลจะรับมือแรงกดดันจากพวกเดียวกันเอง
ที่เริ่มน้อยอกน้อยใจนี้อย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น