“ไพร่สร้างชาติ”
มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนนักโทษการเมืองคดี 112 คือ คุณธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล(หนุ่ม เรดนนท์) คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข
และคุณสุรชัย(แซ่ด่าน) ด่านวัฒนานุสรณ์ เมื่อ 20 ธันวาคม 2555 หรือเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ศาลอาญารัชดาภิเษกนัดอ่านคำพิพากษาคดีคุณสมยศ(แต่ศาลเลื่อนพิพากษาไปอีกเป็นครั้งที่
2 ในวันที่ 23 มกราคม 2556) ทั้งสามคนถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายอาญามาตรา 112 “ไพร่สร้างชาติ”
เห็นว่าการพูดคุยกับนักโทษการเมืองในวันนั้นน่าจะเป็นประโยชน์กับขบวนการประชาธิปไตย
อีกทั้งยังเป็นการระลึกถึงความเสียสละและให้กำลังใจพวกเขาว่าเรายังไม่ลืมกัน ขอเชิญพบกับมุมมองและความคิดเห็นบางช่วงบางตอนจากใจของนักโทษการเมืองทั้งสามคนได้
ณ บัดนี้
คุณสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์
เรด พาวเวอร์ : สภาพความเป็นอยู่ตอนนี้
เป็นยังไงบ้าง
สุรชัย : ก็อยู่ได้ตามอัตภาพ
แต่คุกก็คือคุก ยังไงอยู่นอกคุกก็ดีกว่า ถ้าเป็นตอนหนุ่มๆ ล่ะก็สบาย
ถึงจะเคยติดคุกมาแล้วแต่ตอนนี้แก่แล้วไม่แข็งแรงเหมือนเก่า มีโรคประจำตัวหลายโรค
ตอนแรกๆก็ต้องปรับตัวหน่อย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงผม ผมยังไหวใจยังสู้(หัวเราะ) ความเป็นอยู่ของผมยังดีกว่าผู้ต้องขังและนักโทษทั่วประเทศอีกแปดหมื่นกว่าคน
พวกนั้นน่าสงสารกว่า ส่วนใหญ่เป็นคนจนทั้งนั้น ติดคุกเพราะจน
ไม่ได้ประกันตัวเพราะจน ผมไปขึ้นศาลพัทยาเมื่อเดือนก่อน
ต้องไปอยู่เรือนจำพิเศษพัทยา สภาพเหมือน “คุกนรก” น้ำก็ไม่ค่อยพอใช้ เป็นโรคผิวหนังกันทั่ว
แถมยังอยู่กันอย่างแออัด เรือนจำจุได้ 600 คน แต่มีคนติดคุกอยู่ 3000 คน
เวลานอนต้องสลับหัวสลับเท้า ช่วงไหล่ต้องไปอยู่ช่วงเท้าของอีกคน
ใบหน้าอยู่ตรงฝ่าเท้าของอีกคน บางคนต้องนอนบนโถส้วม จะถ่ายทีนึงต้องปลุกให้ลุกขึ้น
แน่นขนาดต้องสลับกันยืน สลับกันนอน
เรด พาวเวอร์ : มองภาพรวมการเมืองไทยในปีที่ผ่านมาอย่างไร
สุรชัย :
ในทางยุทธศาสตร์ฝ่ายอำมาตย์หมดสภาพการรุก จะล้มรัฐบาล ยุบพรรค แทบเป็นไปไม่ได้
แม้แต่นายอภิสิทธิ์ก็โดนคดี กว่าคดีจะจบอาจใช้เวลาเป็นสิบปี ถือว่าอภิสิทธิ์จบแล้ว
การที่อภิสิทธิ์จะรอดจากคดีได้มีทางเดียวคือนิรโทษกรรม
แต่เกิดขึ้นได้ยากเพราะฝ่ายเขาก็ไม่เอา ฝ่ายแดงก็ไม่เอา ฝ่ายประชาธิปไตยทั้งเพื่อไทยและเสื้อแดงเป็นต่อในทางยุทธศาสตร์แต่เป็นฝ่ายตั้งรับในทางยุทธวิธี
ไม่ว่าจะเป็นยุทธวิธีปรองดอง หรือการดำเนินคดีการเมืองที่มีตุลาการเป็นหัวขบวน
เรด พาวเวอร์ : คิดว่าทิศทางการเมืองไทยปี 56 จะเป็นอย่างไร
สุรชัย :
แนวโน้มการเมืองต่อไป คือ สถานการณ์ “รอการเปลี่ยนแปลง”
ไม่ใช่เปลี่ยนรัฐบาล แต่เป็น “การเปลี่ยนผ่าน” ซึ่งอยากให้เป็นการเปลี่ยนผ่านโดยสันติ
พม่ามีบทสรุปของตัวเองว่าไม่สามารถขัดขืนการเปลี่ยนแปลงได้จึงยอมเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ
ไทยต้องดูบทเรียนจากพม่า ดูจากอาหรับสปริง(Arab Spring) ตลอด
6-7 ปี มานี้ฝ่ายอำมาตย์ควรจะได้บทเรียนและยอมกลับมาเป็นประชาธิปไตยเสียที ยอมรับเสียทีว่าการรัฐประหาร
ยุบพรรค แช่แข็ง ไม่ใช่ทางออกอีกต่อไป ฝ่ายประชาธิปไตยไม่กลัวอีกแล้ว
เรด พาวเวอร์ : ขบวนการประชาธิปไตยควรจะเดินอย่างไรในปี 56
สุรชัย :
เดินสองแนวทาง ไม่ใช่สองขา แนวทางปฏิรูปหรือแนวทางสภาเป็นเรื่องของพรรค
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การชนะเลือกตั้งและเป็นรัฐบาล แต่ก็มีอำนาจไม่เต็มที่
ส่วนแนวทางนอกสภาเป็นของมวลชน คนเสื้อแดงต้องเล่นนอกสภา เป็นรถคนละคัน
แต่ต้องประสานนอกและในสภา ถ้ามีการเลือกตั้งก็ต้องหนุน
ถ้ามีการรัฐประหารก็ต้องต้าน มีสภาก็สู้ในสภา ไม่มีสภาก็สู้นอกสภา
เรด พาวเวอร์ : คิดอย่างไรเรื่องประชามติรัฐธรรมนูญ
สุรชัย :
การแก้รัฐธรรมนูญจะถือเป็นยุทธศาสตร์ไม่ได้ เป็นได้แค่ยุทธวิธี อย่าไปฝากความหวังมากเกินไปว่าจะแก้ปัญหาได้
รัฐบาลควรประกาศว่าถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะยุบสภา นายกฯและพรรคเพื่อไทยอย่าไปกลัว
เลือกตั้งเมื่อไหร่ประชาธิปัตย์ก็แพ้อีก
เลือกตั้งครั้งหน้าก็ประกาศเป็นนโยบายอีกครั้งว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ก้าวหน้า
โดยเสนอทางเลือกให้ประชาชนเลือกระหว่าง “แก้รัฐธรรมนูญ” กับ “แช่แข็งประเทศไทย”
สมยศ พฤกษาเกษมสุข
เรด พาวเวอร์ : มองภาพรวมการเมืองไทยในปีที่ผ่านมาอย่างไร
สมยศ :
รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยล้มเหลวในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เช่น กรณี 112
รัฐบาลติดกับดักฝ่ายอำมาตย์ ติดหลุมพรางประชาธิปัตย์
เรื่องนักโทษการเมืองก็ล้มเหลวในการปล่อยตัว พวกเราสู้เพื่อขอสิทธิประกันตัว
รัฐบาลกลับไม่ผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง กลัวมากไป ส่วนเรื่องสิทธิของผู้ต้องขังและนักโทษทั่วไปที่มีเกือบหนึ่งแสนคนทั่วประเทศ
ส่วนใหญ่คือคนจน รัฐบาลละเลยไม่สนใจ ควรเข้ามาผลักดัน
ดูแลสิทธิตลอดจนความยุติธรรมต่อคนเหล่านี้อย่างจริงจัง
เรื่องนำทักษินกลับไทย
รัฐบาลต้องยืนยันให้จริงจังหนักแน่นกว่านี้ว่าทักษินต้องกลับไทย
เพราะหกปีแล้วที่ทักษิณต้องอยู่ต่างประเทศ รัฐบาลต้องทำเรื่องนี้ทันที
เรื่องรัฐธรรมนูญ
รัฐบาลผิดพลาดที่ไม่เสนอให้ทำประชามติเลือกระหว่าง รธน. 40 กับ 50
แต่มาติดกับดักประชามติตามคำสั่งอำมาตย์ทำให้ต้องทำประชามติ 2 ครั้ง
รัฐบาลไม่แน่วแน่เพียงพอ
เรื่องการปรองดอง
ร่าง พรบ.ปรองดองที่ณัฐวุฒิเสนอไว้ถูกต้องที่สุดที่ให้เว้นไม่นิรโทษกรรมคดีฆ่าคนตายและก่อการร้าย
ต้องยืนยันทำเรื่องนี้ต่อไปไม่ใช่แค่เสนอแล้วปล่อยให้ค้างไว้อย่างนี้
ต้องเป็นภารกิจเร่งด่วน
ณัฐวุฒิควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่เสนอด้วยการเร่งผลักดันให้เดินหน้าต่อไปโดยเร็ว
โดยสรุปรวมๆแล้ว
รัฐบาลล้มเหลวทั้งในแง่ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ส่วนนายกยิ่งลักษณ์ก็ไม่กล้าหาญเพียงพอที่จะเป็นผู้นำของขบวนการประชาธิปไตย
เพราะยังเกรงใจอำมาตย์มากไปหน่อย
เรด พาวเวอร์ : มองการเมืองปี 56 อย่างไร
สมยศ : ปี 56
ควรจะเป็นปีที่คนเสื้อแดงต้องขับเคลื่อนประชาธิปไตยและนโยบายสาธารณะให้มากขึ้น
ต้องพร้อมจะตำหนิรัฐบาล แม้แต่ ส.ส. ถ้าคนไหนทำผิด คุกคามทางเพศก็ต้องตำหนิกันเองด้วย
คนเสื้อแดงอย่าเล่นบทหางเครื่องมากเกินไป แต่ให้เล่นบทประชาธิปไตยจริงๆ
เป็นหางเครื่องเพื่อไทยมากเสียจนไม่สามารถผลักดันนโยบายสาธารณะที่สำคัญได้
ในระยะยาวต้องทำให้ได้ ส่วนรัฐบาลควรเอาข้อเสนอของ ครก.112 มาพิจารณา และ ครก.112
ก็ควรยื่นเสนอใหม่ ประธานรัฐสภาควรพิจารณาตัวเองที่ทำให้การเสนอแก้ไข 112
ของประชาชนต้องตกไป นายกยิ่งลักษณ์ต้องกล้าหาญที่จะเป็นผู้นำประชาธิปไตยมากกว่านี้
ธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล(หนุ่ม
เรดนนท์)
เรด พาวเวอร์ :
ในโอกาสปีใหม่และวันเด็กที่กำลังจะมาถึง มีอะไรที่อยากพูดจาก “ลูกกรง” ถึง “ลูกชาย”
บ้าง
หนุ่ม :
ผมเสียดายเวลาที่ผ่านไป ไม่มีโอกาสเห็นพัฒนาการของลูก ผมไม่โทษใครนอกจากโทษตัวเอง
ขณะนี้ผมยุติการสู้คดีแล้ว อยากให้รัฐบาลช่วยดำเนินการเรื่องขออภัยโทษโดยเร็ว
ผมอยากออกไปใช้ชีวิตกับลูกให้เร็วที่สุด ลูกผมไม่มีแม่ ผมคิดถึงลูก
อยากกลับไปใช้ชีวิตกับลูกโดยสงบ หวังว่าผู้มีอำนาจจะเห็นใจ(น้ำตาไหล)
เรด พาวเวอร์ : ในฐานะที่พี่หนุ่มมีบทบาทอย่างเข้มแข็งในการช่วยเหลือและให้กำลังใจเพื่อนนักโทษการเมืองด้วยกันมาตลอด
ขอให้ช่วยส่งผ่านความเข้มแข็งนี้ไปยังคนรักประชาธิปไตยด้วยการอวยพรปีใหม่ด้วยครับ
หนุ่ม : ผมเชื่อมั่นเสมอว่าประชาชนเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ
และประชาชนจะนำพาพวกเราออกจากการจองจำ ประชาชนจะนำพาพวกเราไปสู่อิสระภาพ
ขอให้พี่น้องประชาชนจงต่อสู้อย่างอดทน ขอให้มองต่อไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง
ขอบคุณคนข้างนอกที่ไม่ทอดทิ้ง ไม่ลืมพวกเรา คุกหลักสี่กับคุกที่นี่ไม่แตกต่างกันเพราะเราต่างก็ไร้อิสรภาพ
แม้จะอยู่กันคนละที่แต่พวกเรามีจิตใจที่สื่อถึงกัน
เรายังระลึกถึงพี่น้องเราที่นั่นเสมอ
เรายังมีความหวังร่วมกับพี่น้องประชาชนว่าสักวันเราจะได้รับอิสรภาพออกไปสู่สังคมใหม่คือประชาธิปไตยที่เราใฝ่ฝัน
หมายเหตุ : สำหรับคุณหนุ่ม เราได้คุยกันไม่กี่คำถามก็หมดเวลาเยี่ยมเสียก่อน
................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น