คอลัมน์ ที่เห็นและเป็นไป
(มติชนรายวัน 1 ก.ย.2556)
มีการประเมินกันว่า ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ประเทศชาติจะวุ่นวาย
เพราะการเมืองจะเล่นกันรุนแรงถึงขั้นแตกหัก
บางคนคิดจากคำทำนายของหมอดู
เป็นเรื่องของโหราศาสตร์การอ่านดวงเมือง
อ่านดวงดาว
บางคนประเมินจากประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ที่มักจะเข้าสู่ความยุ่งยากในช่วงเดือนกันยาฯ-ตุลาฯ
หลายเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงเดือนนี้
บางคนประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เกมต่างๆ
เริ่มเขม็งเกรียว เข้าถึงจุดแตกหักมากขึ้น
ไม่ว่าจะประเมินด้วยมิติไหน
ล้วนแล้วออกมาในทางที่เห็นว่าการเมืองจะวุ่นวาย
รุนแรงทั้งนั้น
ลงไปในรายละเอียดในส่วนของสถานการณ์ปัจจุบันคือ
เมื่อทำงานมาได้ระยะหนึ่ง ตามประสาของฝ่ายรัฐบาลที่จะต้องมีช่องโหว่ จุดอ่อน
ความผิดพลาดให้ฝ่ายค้านและฝ่ายต่อต้านหยิบขึ้นมาโจมตี
ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเตรียมทำคือ
สร้างความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งใหม่
หมายถึงการสร้างกลไกทางการเมืองให้สนับสนุน
สร้างผลงานให้ประทับใจประชาชน
สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันกลับไปสมัครรับเลือกตั้งใหม่ได้เมื่อหมดวาระ
ซึ่งฝ่ายค้านมองว่าเป็นเกมของรัฐบาลที่จะทำหาการสนับสนุนจากฐานเสียงของวุฒิสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้ง
และล้มเลิกสมาชิกวุฒิสมาชิกที่มาจากการแต่งตั้งเสีย
เพื่อตัดกำลังของฝ่ายต่อต้าน
เป็นการสร้างฐานสนับสนุนในรัฐสภา
ขณะเดียวกันรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่ในการผลักดันโครงการเงินกู้
2 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างผลงานให้ประชาชนได้เห็น
เป็นการสร้างความเจริญกับหัวเมืองต่างจังหวัดชนิดม้วนเดียวเห็นผลในพริบตา
จึงมองกันว่า
หากฝ่ายค้านปล่อยให้รัฐบาลบรรลุในเรื่องราวเหล่านี้
ความเสียเปรียบจะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า
จำเป็นต้องหาทางสกัดให้อยู่
ไม่เพียงเท่านั้น
เมื่อฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐบาลเล่มเกมรุกเพื่อเตรียมตัวเลือกตั้ง
ฝ่ายค้านจำเป็นต้องรุกตอบ
โดยเฉพาะการรักษาฐานเสียงเดิมของตัวเองไว้
จึงไม่เพียงต่อต้านอย่างเต็มที่ไม่ให้รัฐบาลสร้างผลงานขึ้นมาง่ายๆเท่านั้น
แต่ยังจะสร้างผลงานของตัวเองให้ฐานเสียงได้เห็นว่าพยายามต่อสู้ให้เต็มที่
"ม็อบสวนยาง"
แน่นอนเริ่มจากราคายางที่ตกต่ำ และเกษตรกรไม่พอใจ
"สวนยาง"
ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ภาคใต้
พรรคประชาธิปัตย์จึงยืนอยู่ข้างม็อบเต็มที่
เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าดูแลความเดือดร้อนของฐานเสียงตัวเอง
การประกาศปิดประเทศวันที่
3 กันยายน
ซึ่งด้วยม็อบจึงเกิดขึ้น
นี่คือสถานการณ์ที่นำสู่ความรุนแรง
สอดคล้องกับคำทำนายของโหราจารย์
และประวัติศาสตร์ความรุนแรงในประเทศ
หลายคนเชื่ออย่างนั้น
หลายคนพยายามทำให้ความเชื่อนั้นเป็นจริง
ซึ่งในที่สุดแล้วน่าเสียดายตรงที่
คนเหล่านั้นทั้งที่เป็นนักการเมือง ต้องรับผิดชอบต่อความสงบสุขของประชาชน
ความรุ่งเรืองของประเทศ กลับกลายเป็นผู้ที่เห็นแก่โอกาส
เห็นแก่ประโยชน์ที่ตัวเองจะสูญเสีย หรือได้รับ
มากกว่าที่จะคำนึงถึงชะตากรรมของประเทศชาติ ความเดือดร้อนของประชาชน
อันเกิดจากความคิดคับแคบแค่อยากจะช่วงชิงอำนาจทางการเมืองเท่านั้น
ประเทศที่มีนักการเมืองไร้จิตสำนึกเพื่อส่วนรวมแบบนี้
ประชาชนจึงมีแต่ความเดือดร้อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น