Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

นิทาน อุปมา เรื่อง ลุงโง่ย้ายภูเขา นิทาน การเมือง

ที่มา:มติชนรายวัน 16 กันยายน 2556





วิวาทะในเรื่อง "อีโง่" ก่อให้เกิดอาการ "ตาสว่าง" ขึ้นอย่างกว้างขวาง

หากใครสนใจในเรื่อง "จีนวิทยา" จะตระหนักในเรื่อง "ความโง่" และ "ความฉลาด" มากเป็นพิเศษ

เป็นวิวาทะยาวนานตั้งแต่ยุคชุนชิว ตั้งแต่ยุคจ้านกั๋ว

ยิ่งหากมีหนังสือ 100 นิทาน คติสอนใจชาวจีน อัน "สิริประภาวรรณ" แปลและเรียบเรียงยิ่งทำให้มีความเข้าใจมากขึ้น

"สิริประภาวรรณ" เรียนภาษาจีนกับ ปกรณ์ ลิมปนุสรณ์

น่ายินดีที่งานแปลและเรียบเรียงของ "สิริประภาวรรณ" ได้ตีพิมพ์เผยแพร่โดยสำนักพิมพ์แสงดาว เมื่อปี พ.ศ.2547

และมีเรื่อง 1 ชื่อ ลุงโง่ย้ายภูเขา

เป็นเรื่องอันสะท้อนมุมมองซึ่งแตกต่างกันระหว่าง หยูกง (ชายชราผู้โง่เขลา) กับ จือโซ่ว (ชายผู้ชาญฉลาด)

แตกต่างอย่างไรจำเป็นต้องอ่าน



มีภูเขา 2 ลูกชื่อว่า ไท่เชียง และ หวังหวู กว้างใหญ่ถึง 700 ตารางลี้ และสูงนับพันเริน เดิมทีภูเขา 2 ลูกนี้ตั้งอยู่ทางใต้เมืองจีโจว และทางตอนเหนือของเหอหยาง

ทางทิศเหนือของภูเขา มีชายชราผู้หนึ่งอาศัยอยู่

นามว่า หยูกง (แปลตามอักษรหมายความว่า ชายชราผู้โง่เขลา) อายุเกือบ 90 ปีแล้ว บ้านของเขาถูกภูเขา 2 ลูกนี้บังทางเข้าอยู่ ทำให้พวกชาวบ้านต้องเดินอ้อมภูเขา เมื่อจะต้องออกไปนอกบ้าน เขารู้สึกเดือดร้อนใจจึงนำมาปรึกษากับคนภายในบ้านให้ร่วมแรงกันตัดภูเขา 2 ลูกนี้ให้ราบเรียบ

เพื่อจะได้ไม่ต้องอ้อมภูเขา

ทุกคนชื่นชมเห็นด้วยกับข้อเสนอ ภรรยาของเขาเกรงว่าเขาเองไม่แข็งแรงพอ อีกทั้งอายุมากจะมีแรงไปตัดภูเขาได้อย่างไร ฝ่าย

หยูกงเองก็กล่าวตอบว่า

"ถ้าทุกคนร่วมใจกันก็ทำสำเร็จได้"

ดังนั้น หยูกงจึงพาบุตรชายและหลานชาย 3 คน ไปช่วยกันขุดหินดินจากภูเขา ทุกคนล้วนมาช่วยในงานครั้งนี้ แม้กระทั่งเด็กเล็กๆ ก็มาช่วยขุดด้วย ชายชราผู้หนึ่งนามว่า จือโซ่ว (หมายความว่าชายผู้ชาญฉลาด) อาศัยอยู่ในเมืองเหอซูได้ยินเรื่องราวนี้เข้าจึงได้มาเยี่ยมหยูกงแล้วไต่ถามว่า

"เหตุใดท่านจึงโง่เขลาเช่นนี้ ต่อไปท่านเองก็จะเหลือเรี่ยวแรงน้อยจะสามารถตัดเขาทั้งลูกได้อย่างไร"

หยูกงถอนหายใจพลางกล่าวว่า

"ถึงแม้จะใช้เวลานานเพียงไร จนถึงแม้ข้าจะตายไปแล้ว แต่ลูก หลาน เหลน โหลนของข้าก็ยังอยู่ และขุดต่อไปอีกโดยไม่หยุดสักวันหนึ่ง พวกเราก็สามารถตัดเขาทั้งลูกได้"

นิทานจีนเรื่องนี้ปรากฏอยู่ในคัมภีร์เลี่ยจื่อ ในตอนจบของเรื่องจึงดำเนินไปในแบบของนิทาน

นั่นก็คือ

เทพยดาได้ยินเช่นนั้นรู้สึกซาบซึ้งถึงความอุตสาหะอดทน ไม่ย่อท้อของหยูกง จึงบันดาลย้ายภูเขา 2 ลูกนี้ไปไว้ทางทิศใต้ของเมืองหยงโจว

นับแต่นั้นมาชาวบ้านก็เดินทางได้สะดวกขึ้น

ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2488 เหมาเจ๋อตุง ได้นำเอานิทานอุปมาเรื่องลุงโง่ย้ายภูเขามากล่าวในที่ประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 7 ด้วยสำนวนแบบเหมา

"เรื่องนี้ทำให้เทวราชเกิดความสะเทือนใจจึงส่งเทวดา 2 องค์ ลงมายังโลกมนุษย์ ยกเอาภูเขา 2 ลูกนี้ไปเสีย"

แล้วก็ตีความในแบบเหมาว่า ลูก 1 คือ เจียงไคเช็ค ลูก 1 คือ อเมริกา

"ทุกวันนี้ก็มีภูเขาใหญ่ 2 ลูกทับหัวประชาชนอยู่ พรรคคอมมิวนิสต์ได้ตัดสินใจมานานแล้ว ที่จะขุดภูเขา 2 ลูกนี้ทิ้งเสีย เราจักต้องยืนหยัดต่อไป จักต้องทำงานต่อไปไม่หยุดยั้ง แล้วเราก็จะสามารถทำให้เทวราชสะเทือนใจได้เหมือนกัน

เทวราชนี้มิใช่ใครอื่น คือประชามหาชนทั่วทั้งประเทศ เมื่อประชามหาชนทั่วทั้งประเทศพร้อมใจกันลุกขึ้นขุดภูเขา 2 ลูกนี้ด้วยกันกับเราแล้ว ยังจะมีอะไรอีกเล่าที่ขุดให้ราบไปไม่ได้"



ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของ "ลุงโง่" กับ "ลุงฉลาด" เบื้องหน้าภูเขา 2 ลูกใหญ่ที่ขวางอยู่เบื้องหน้า

ในเมืองจีน ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2492 ว่า เทวราชสะเทือนใจในความอุตสาหะของ "ลุงโง่" ชัยชนะจึงเป็นของ "ลุงโง่"

แต่ในเมืองไทยการยืนหยัดของ "อีโง่" ยังรอการพิสูจน์อยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น