จาก หนังสือพิมพ์ RED Power ฉบับที่ 28 เดือน
สิงหาคม 2555
ประเทศไทยมีภาพการปกครองสวยหรูตามแบบฉบับของประเทศที่เจริญแล้ว
นับตั้งแต่มีการปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อปี
พ.ศ.2475 ถึงวันนี้ก็ 80
ปีแล้วหากเปรียบเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และความรู้มากมาย
มีรากฐานข้อมูลแน่นปึกเป็นประโยชน์ให้กับอนุชนคนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดี แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่า 80 ปีที่ผ่านมาเราเห็นแต่ภาพคนแก่สุขภาพไม่แข็งแรงป่วยกระเสาะกระแสะ
ไม่สามารถเป็นที่พึ่งทางใจให้กับลูกหลานได้
คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สร้างคุณอนันต์ก็ช่างน้อยนิดเหลือเกิน จึงไม่น่าแปลกใจที่เห็นประชาชนในชาติไทยต้องล้มลุกคลุกคลานไปกับการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มี ภาพการไร้ซึ่งเสถียรภาพทางด้านการเมือง
เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม ตลอดจนภาพทหารก่อการรัฐประหารเปลี่ยนผ่านอำนาจกันเป็นว่าเล่น สลับกับการยอมคืนอำนาจให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามสิทธิและหน้าที่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเมื่อถูกพลังมวลมหาประชาชนทวงถาม
วัฎจักรพรรคการเมืองใหม่แทรกผ่านกาลเวลาเบียดพรรคการเมืองเก่าให้เห็นเป็นระยะๆ นักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง
หรือถูกวางตัวจากผู้มีอำนาจก็ผลัดเวียนวนกันจัดตั้งรัฐบาลตามจังหวะสถานการณ์แต่ละห้วงเวลา
วันนี้ประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากเสียงประชาชน
ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเดินหน้าทำหน้าที่ไปพร้อมกับพรรคร่วมรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไม่หวั่นไหวต่อแรงเสียดทานจากพรรคฝ่ายค้าน
ที่วันนี้ผู้นำพรรคฝ่ายค้านจงใจเดินสายปราศรัยเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ผู้อื่น
โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่นำเสนอจะเป็นการปลุกระดมมวลชนให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติหรือไม่ ครั้งล่าสุดถึงขนาดลงทุนสวมใส่เสื้อยืดสีแดงขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมกับยกวาทะกรรมอ้างว่าสีแดงไม่ใช่สีของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแต่เป็นสีที่หมายถึงชาติ
ใครใส่สีแดงที่มีอุดมการณ์ต้องไม่เห็นด้วยกับ พรบ.ปรองดอง และอื่น ๆ
อีกมากมาย มองได้ว่าการสร้างวาทะกรรมดังกล่าวเป็นความพยายามสร้างประเด็นสร้างกระแสคล้ายกับต้องการแยกมวลชนคนเสื้อแดงออกจากพรรคเพื่อไทยซะงั้น แต่งานนี้ประชาชนหรือคนเสื้อแดงฟังแล้วจะเห็นด้วยหรือให้ความสำคัญมากน้อยขนาดไหนก็คงต้องติดตามกันต่อไป
แต่หากจะประเมินผลสะท้อนกลับจากการสร้างวาทะกรรมดังกล่าวของผู้นำพรรคฝ่ายค้านกันคร่าว
ๆ ก็น่าเชื่อได้ว่าประชาชนจำนวนมิน้อยคงต้องชั่งใจและกลั่นกรองกันพอสมควรเพราะก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันผู้นำพรรคฝ่ายค้านถูกสื่อหลักจับเป็นประเด็นขึ้นหน้าหนึ่งพาดหัวตัวโต
ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ โด่งดังไปทั่วราชอาณาจักรไทยกันเลยทีเดียว
ในประเด็นเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร เรื่องนี้ถึงขนาดทำให้ผู้นำพรรคฝ่ายค้านออกอาการเต้นและร้อนรุ่มขนาดเอาเรื่องและฟ้องร้องแกนนำคนเสื้อแดงอย่างนายจตุพร
พรหมพันธุ์ ข้อหาหมิ่นประมาทที่กล่าวหานายอภิสิทธิ์ฯว่าหนีการเกณฑ์ทหาร
จะว่าไปถ้านายอภิสิทธิ์ฯ ไม่ฟ้องร้องในประเด็นดังกล่าวก็คงไม่มีใครให้ความสนใจไปขุดคุ้ยอดีตของนายอภิสิทธ์ฯกันอย่างจริงจัง
เหมือนอย่างในวันนี้ และหากนายอภิสิทธิ์จะปล่อยให้เป็นเรื่องของศาลทำหน้าที่ตามกระบวนการไปอย่างเงียบ
ๆ ไม่ออกมาโต้ข่าวรายวันอย่างที่ทำ
หรือเที่ยวท้าทายจะเอาเรื่องกับคนที่กล่าวหาตน โดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมใด ๆ
ทั้งสิ้น เหมือนอย่างวันนี้
เรื่องการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ฯ ก็อาจเป็นแค่คลื่นน้อย ๆ
กระทบฝั่งเท่านั้นเอง
แต่คงเพราะที่ผ่านมาในอดีตถือว่ามีเส้นดี
มีมือที่มองไม่เห็นคอยอุ้ม
หรือเพราะดวงดีแต่กำเนิดหรือไม่ไม่กล้ายืนยัน จึงทำให้นายอภิสิทธิ์กล้าท้าชนคนไปทั่วไม่ว่าหัวหงอกหัวดำชนิดไม่มีลดลาวาศอกให้แก่กันละ ขนาดพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ออกมาแถลงข่าวกรณี นายอภิสิทธิ์ฯ ใช้สด.9 ปลอม
สมัครเข้าร.ร.จปร. และได้สั่งกรมพระธรรมนูญพิจารณาขั้นตอนถอดยศ ร้อยตรี
และเรียกเงินเดือนขึ้น ก็ได้ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องทำอย่างรอบคอบ ไม่มีการเมืองเกี่ยว นายอภิสิทธิ์ฯ ก็ประกาศที่จะเอาเรื่องเหมือนกัน
คนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ขุนพลอยพยักไปด้วยว่า รมต.กลาโหม จะต้องขอขมานายอภิสิทธ์ฯ ถ้าหากผลการพิสูจน์ออกมาว่าไม่มีมูลตามที่กล่าวหา
การดิ้นรนต่อสู้ด้วยการใช้วาทะกรรมให้ดูเสมือนมีหลักการดี มีคุณธรรมและจริยธรรมสูงส่งกลบเกลื่อนปกปิดพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย หรือไม่ถูกต้องไปพร้อม ๆ กับการชี้หน้ากล่าวหาใส่ความผู้อื่นว่าเลวกว่า พบมาโดยตลอดในสังคมไทยในอดีต และยิ่งชัดเจนมากขึ้นในปัจจุบันจากพรรคการเมืองบางพรรคซึ่งพฤติกรรมที่ว่าแสดงออกกันจนแทบจะเป็นพฤติกรรมต้นแบบให้คนในสังคมอีกจำนวนหนึ่งเลียนแบบ จนวันนี้คงไม่ผิดหากจะเรียกพฤติกรรมดังว่าเป็น “อภิสิทธิ์ชนโมเดล” อภิสิทธิ์ชนโมเดลได้แพร่หลายในสังคมฟากฝั่งสมุนลิ่วล้ออำมาตย์ และพรรคการเมืองที่อำมาตย์ให้การสนับสนุนบางพรรค ไม่ว่าพวกนี้ทำอะไรลงไป พูดอะไรออกมา จะเลวจะร้าย ก็ไม่เคยมีความผิด อยู่รอดปลอดภัยมาโดยตลอด กระบวนการยุติธรรมเหมือนจะเอื้อมถึงแตะต้องได้ แต่สุดท้ายก็แทบไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่มีนัยยะสำคัญเอาผิดกับพวกเหล่านี้ให้เห็นสักครา ตัวอย่างง่าย ๆ เหล่าพันธมิตรที่ยึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ วันนี้มีใครบ้างที่ได้รับโทษทัณฑ์จากการกระทำดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมบ้าง จนเป็นเหตุให้ฉงนต่อสังคมว่าการยึดสนามบินไม่มีความผิดหรืออย่างใด ประชาชนคนไทยวันนี้ตาสว่างเบิกโพลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เพราะต่างได้เห็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นอภิสิทธิ์ชนโมเดลจนยากปฎิเสธว่า บ้านนี้เมืองนี้มันมีสองมาตรฐาน มีการเลือกปฎิบัติอย่างชัดเจน หลายเคสหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแผ่นดินเมืองยิ้ม มีการตีความช่วยเหลือผู้ที่กระทำผิดแทนที่จะช่วยกันประนามและลงโทษทางกฎหมาย บางคนตำแหน่งสูงใหญ่แต่ก็บุกรุกที่ป่าสงวน เพียงเพราะอยากมีอยากเป็นเจ้าของครอบครองที่ดินและอยากได้ สัมผัสบรรยากาศทะเลหมอกที่หาชมไม่ได้ในเมืองกรุง ทั้งที่หน้าฉากสุดแสนจะสร้างภาพสำนึกในคุณแผ่นดิน รักชาติยิ่งชีพ คุณธรรมจริยธรรมสูงปรี๊ดให้เห็น พอถูกจับได้ก็แก้เกี้ยวส่งคืน แต่สุดท้ายกฎหมายก็เอื้อมไม่ถึงเพราะผู้คนเหล่านี้ล้วนอยู่ในสังคมและเดินตามกรอบอภิสิทธิ์ชนโมเดล แถมบางคนกลับได้ดียิ่งกว่าเก่าเสียอีก โอน่าตกใจมิน้อยที่เห็นภาพเช่นนั้น ยิ่งวันสองวันนี้เห็นข่าวการรื้อถอนรีสอร์ทของนักธุรกิจบางรายที่รุกที่ป่าสงวนจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และเห็นเจ้าของรีสอร์ทให้ข่าวว่าได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และจะฟ้องเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ที่ไปรื้อถอน น่าประหลาดใจมากว่าคนไทยวันนี้เป็นอะไรไปกันหมดแล้ว แข็งขืนทั้งที่กระทำผิด เมื่อไหร่จะยอมสลัดกรอบอภิสิทธิ์ชนโมเดลเสียที แล้วกลับมาอยู่ในกรอบของกฎหมาย กรอบศีลธรรมอันดีงามอย่างที่คนไทยที่ดีควรมีควรเป็นกันเสียที นอกจากเคสตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นแล้วยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ผู้คนในสังคมบางกลุ่มไม่ยอมสลัดให้หลุดจากอภิสิทธิ์ชนโมเดล นอกจากไม่ยอมสลัดทิ้งแล้วยังจะพยายามโอบอุ้มขยายเครือข่ายโมเดลผิดเพี้ยนให้แพร่หลายมากขึ้น
หลายๆ คนสร้างภาพแสร้งว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมสูงส่ง ทั้งที่มีชนักปักหลังมากมาย แต่ก็กล้าแสดงบทไร้ยางอายด้วยการชี้หน้าด่าคนอื่นว่าเลวกว่าตน ประเทศไทยถ้าหากปล่อยให้อภิสิทธิ์ชนโมเดลคงอยู่ สังคมไทยมีแต่จะทรามเสื่อมถอยลงทุกวัน คุณภาพชีวิตของประชาชนจะไม่มีวันก้าวไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ก้าวไกลก็คงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ วันนี้ส่วนหนึ่งของความไม่สงบทางการเมืองก็เพราะมีพรรคบางพรรคที่มิได้เป็นรัฐบาลทำหน้าที่เกินบทบาทตนเองมากเกินไปชี้นำสั่งรัฐบาลให้ทำโน่นนี่นั่นทุกวัน ทั้งที่การบริหารราชการแผ่นดินเป็นเรื่องของรัฐบาล ถ้าอยากจะพูดน่าจะรอให้เปิดสมัยการเปิดการประชุมรัฐสภาน่าจะดีกว่ามั้ย อยากจะพูดจะติติงการทำงานรัฐบาลจะเสนอแนะอะไรปล่อยเต็มที่ช่วงนั้นจะดีกว่ามั้ย ความไม่สงบสุขและดูวุ่นวายทางการเมืองอยู่เนือง ๆเพราะพรรคฝ่ายค้านแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลผ่านสื่อหลักมากไปมั้ย วันนี้สื่อหลักบ้าจี้ตามพรรคฝ่ายค้านมากเกินระดับจรรยาบรรณที่ดีเกินไปมั้ย ประชาชนหลายภาคส่วนเริ่มตั้งคำถามกันอย่างกว้างขวางแล้ว ถึงขนาดมีเสียงสะท้อนให้ได้ยินว่า ถ้าพรรคฝ่ายค้านและสมุนพรรคหัดหุบปากลงบ้างความสงบสุขของบ้านเมืองและดัชนีชี้วัดความสุขของประชาชนน่าจะสูงปรี๊ดทีเดียว ที่สำคัญช่วยหยุดแพร่กระจาย อภิสิทธิ์ชนโมเดลเสียที และเลิกอ้างเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ผู้อื่นทั้งที่ทำผิดอยู่โทนโท่ ลากเก้าอี้ประธานสภางี้ ฉุดกระชากแขนประธานสภาในสมัยการประชุมฯ งี้ แล้วอ้างว่าทำดีทำถูก โอพระเจ้าจอร์ช น่าตกใจมากนะเนี่ยถ้ายังปล่อยให้อภิสิทธิ์ชนโมเดลยังคงอยู่ต่อไป ไทยแลนด์แดนสมายคงไม่ใช่แล้ว มันจะกลายเป็นเมืองที่ผู้คนหน้าด้าน ไร้ยางอายมากขึ้นสุดท้ายจะกลายเป็นเมืองตอแหลแลนด์ ที่ปกครองโดยระบอบอภิสิทธิ์ชนโมเดล ถ้าไม่ใช่วัวใช่ควาย ไม่น่าจะอึดและทนรับกับโมเดลที่ว่ากันได้นะสิบอกไห่ประชาชนชาวไทยที่รักทั้งหลายเอ๋ย !!!!!
การดิ้นรนต่อสู้ด้วยการใช้วาทะกรรมให้ดูเสมือนมีหลักการดี มีคุณธรรมและจริยธรรมสูงส่งกลบเกลื่อนปกปิดพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย หรือไม่ถูกต้องไปพร้อม ๆ กับการชี้หน้ากล่าวหาใส่ความผู้อื่นว่าเลวกว่า พบมาโดยตลอดในสังคมไทยในอดีต และยิ่งชัดเจนมากขึ้นในปัจจุบันจากพรรคการเมืองบางพรรคซึ่งพฤติกรรมที่ว่าแสดงออกกันจนแทบจะเป็นพฤติกรรมต้นแบบให้คนในสังคมอีกจำนวนหนึ่งเลียนแบบ จนวันนี้คงไม่ผิดหากจะเรียกพฤติกรรมดังว่าเป็น “อภิสิทธิ์ชนโมเดล” อภิสิทธิ์ชนโมเดลได้แพร่หลายในสังคมฟากฝั่งสมุนลิ่วล้ออำมาตย์ และพรรคการเมืองที่อำมาตย์ให้การสนับสนุนบางพรรค ไม่ว่าพวกนี้ทำอะไรลงไป พูดอะไรออกมา จะเลวจะร้าย ก็ไม่เคยมีความผิด อยู่รอดปลอดภัยมาโดยตลอด กระบวนการยุติธรรมเหมือนจะเอื้อมถึงแตะต้องได้ แต่สุดท้ายก็แทบไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่มีนัยยะสำคัญเอาผิดกับพวกเหล่านี้ให้เห็นสักครา ตัวอย่างง่าย ๆ เหล่าพันธมิตรที่ยึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ วันนี้มีใครบ้างที่ได้รับโทษทัณฑ์จากการกระทำดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมบ้าง จนเป็นเหตุให้ฉงนต่อสังคมว่าการยึดสนามบินไม่มีความผิดหรืออย่างใด ประชาชนคนไทยวันนี้ตาสว่างเบิกโพลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เพราะต่างได้เห็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นอภิสิทธิ์ชนโมเดลจนยากปฎิเสธว่า บ้านนี้เมืองนี้มันมีสองมาตรฐาน มีการเลือกปฎิบัติอย่างชัดเจน หลายเคสหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแผ่นดินเมืองยิ้ม มีการตีความช่วยเหลือผู้ที่กระทำผิดแทนที่จะช่วยกันประนามและลงโทษทางกฎหมาย บางคนตำแหน่งสูงใหญ่แต่ก็บุกรุกที่ป่าสงวน เพียงเพราะอยากมีอยากเป็นเจ้าของครอบครองที่ดินและอยากได้ สัมผัสบรรยากาศทะเลหมอกที่หาชมไม่ได้ในเมืองกรุง ทั้งที่หน้าฉากสุดแสนจะสร้างภาพสำนึกในคุณแผ่นดิน รักชาติยิ่งชีพ คุณธรรมจริยธรรมสูงปรี๊ดให้เห็น พอถูกจับได้ก็แก้เกี้ยวส่งคืน แต่สุดท้ายกฎหมายก็เอื้อมไม่ถึงเพราะผู้คนเหล่านี้ล้วนอยู่ในสังคมและเดินตามกรอบอภิสิทธิ์ชนโมเดล แถมบางคนกลับได้ดียิ่งกว่าเก่าเสียอีก โอน่าตกใจมิน้อยที่เห็นภาพเช่นนั้น ยิ่งวันสองวันนี้เห็นข่าวการรื้อถอนรีสอร์ทของนักธุรกิจบางรายที่รุกที่ป่าสงวนจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และเห็นเจ้าของรีสอร์ทให้ข่าวว่าได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และจะฟ้องเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ที่ไปรื้อถอน น่าประหลาดใจมากว่าคนไทยวันนี้เป็นอะไรไปกันหมดแล้ว แข็งขืนทั้งที่กระทำผิด เมื่อไหร่จะยอมสลัดกรอบอภิสิทธิ์ชนโมเดลเสียที แล้วกลับมาอยู่ในกรอบของกฎหมาย กรอบศีลธรรมอันดีงามอย่างที่คนไทยที่ดีควรมีควรเป็นกันเสียที นอกจากเคสตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นแล้วยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ผู้คนในสังคมบางกลุ่มไม่ยอมสลัดให้หลุดจากอภิสิทธิ์ชนโมเดล นอกจากไม่ยอมสลัดทิ้งแล้วยังจะพยายามโอบอุ้มขยายเครือข่ายโมเดลผิดเพี้ยนให้แพร่หลายมากขึ้น
หลายๆ คนสร้างภาพแสร้งว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมสูงส่ง ทั้งที่มีชนักปักหลังมากมาย แต่ก็กล้าแสดงบทไร้ยางอายด้วยการชี้หน้าด่าคนอื่นว่าเลวกว่าตน ประเทศไทยถ้าหากปล่อยให้อภิสิทธิ์ชนโมเดลคงอยู่ สังคมไทยมีแต่จะทรามเสื่อมถอยลงทุกวัน คุณภาพชีวิตของประชาชนจะไม่มีวันก้าวไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ก้าวไกลก็คงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ วันนี้ส่วนหนึ่งของความไม่สงบทางการเมืองก็เพราะมีพรรคบางพรรคที่มิได้เป็นรัฐบาลทำหน้าที่เกินบทบาทตนเองมากเกินไปชี้นำสั่งรัฐบาลให้ทำโน่นนี่นั่นทุกวัน ทั้งที่การบริหารราชการแผ่นดินเป็นเรื่องของรัฐบาล ถ้าอยากจะพูดน่าจะรอให้เปิดสมัยการเปิดการประชุมรัฐสภาน่าจะดีกว่ามั้ย อยากจะพูดจะติติงการทำงานรัฐบาลจะเสนอแนะอะไรปล่อยเต็มที่ช่วงนั้นจะดีกว่ามั้ย ความไม่สงบสุขและดูวุ่นวายทางการเมืองอยู่เนือง ๆเพราะพรรคฝ่ายค้านแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลผ่านสื่อหลักมากไปมั้ย วันนี้สื่อหลักบ้าจี้ตามพรรคฝ่ายค้านมากเกินระดับจรรยาบรรณที่ดีเกินไปมั้ย ประชาชนหลายภาคส่วนเริ่มตั้งคำถามกันอย่างกว้างขวางแล้ว ถึงขนาดมีเสียงสะท้อนให้ได้ยินว่า ถ้าพรรคฝ่ายค้านและสมุนพรรคหัดหุบปากลงบ้างความสงบสุขของบ้านเมืองและดัชนีชี้วัดความสุขของประชาชนน่าจะสูงปรี๊ดทีเดียว ที่สำคัญช่วยหยุดแพร่กระจาย อภิสิทธิ์ชนโมเดลเสียที และเลิกอ้างเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ผู้อื่นทั้งที่ทำผิดอยู่โทนโท่ ลากเก้าอี้ประธานสภางี้ ฉุดกระชากแขนประธานสภาในสมัยการประชุมฯ งี้ แล้วอ้างว่าทำดีทำถูก โอพระเจ้าจอร์ช น่าตกใจมากนะเนี่ยถ้ายังปล่อยให้อภิสิทธิ์ชนโมเดลยังคงอยู่ต่อไป ไทยแลนด์แดนสมายคงไม่ใช่แล้ว มันจะกลายเป็นเมืองที่ผู้คนหน้าด้าน ไร้ยางอายมากขึ้นสุดท้ายจะกลายเป็นเมืองตอแหลแลนด์ ที่ปกครองโดยระบอบอภิสิทธิ์ชนโมเดล ถ้าไม่ใช่วัวใช่ควาย ไม่น่าจะอึดและทนรับกับโมเดลที่ว่ากันได้นะสิบอกไห่ประชาชนชาวไทยที่รักทั้งหลายเอ๋ย !!!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น