วันนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้ยื่นหนังสือถึง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
เพื่อขอตรวจสอบงบการเงินและบัญชีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์
และพร้อมให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินตามที่ยื่นไว้ที่ ป.ป.ช. ของตนเอง
นายเรืองไกร อ้างว่า
ต้องการทราบข้อมูลของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อประกอบคำชี้แจง 7 ประการ ดังนี้
1 ขอทราบรายละเอียดงบการเงินพรรคประชาธิปัตย์ปี 2554
เนื่องจากนับถึงวันที่ในหนังสือนี้ ยังไม่พบว่า
พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเผยงบการเงินปี 2554 ไว้แต่อย่างใด
2 ขอตรวจสอบสมุดบัญชีของพรรคประชาธิปัตย์
เกี่ยวกับเงินบริจาคจากอีสท์วอเตอร์ว่า
มีการลงบัญชีรายวันและแยกประเภทอย่างครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ ทั้งในการรับเงินจำนวน
1,000,000 บาท
เข้ามาฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยกระทรวงการคลัง และในการเบิกถอนเงินไปซื้อแคชชเชียร์เช็คเพื่อส่งต่อให้สำนักนายกฯ
ในเวลาต่อมา และขอตรวจสอบการลงบัญชีเกี่ยวกับการรับบริจาคน้ำดื่มจากอีสท์วอเตอร์
จำนวน 850 โหล มูลค่าหลายหมื่นบาท ว่า
มีการลงบัญชีทั้งการรับและจ่ายถูกต้องหรือไม่
รวมทั้งมีการนำน้ำดื่มไปส่งให้กับสำนักนายกฯ อย่างครบถ้วนเช่นเดียวกับเงิน 1,000,000
บาทหรือไม่ ทั้งนี้เนื่องจากมีข่าวว่า
การรับบริจาคนั้นทำในฐานะคนกลางจึงไม่น่าจะผิดอะไร ซึ่งการรับบริจาคนั้น
ย่อมหมายความรวมถึง เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้รับด้วย ซึ่งประโยชน์อื่นใดนั้น
ข้าพเจ้าย่อมหมายถึง
การใช้รถยนต์ทหารตามที่ปรากฏรูปในภาพกิจกรรมของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อเดือนพฤษจิกายน
2553 ด้วย
3 สมาชิกของพรรคท่าน
ได้เคยแถลงพร้อมโชว์สำเนาใบเสร็จรับเงินของสำนักนายกรัฐมนตรี
กรณีอีสท์วอเตอร์แล้วที่รัฐสภา แต่จากข้อมูลที่ทราบพบว่า
มีการรับบริจาคมาจากบุคคลต่าง ๆ ประมาณ 190 ราย
โดยการรับบริจาคนั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกใบรับชั่วคราวให้อย่างครบถ้วน จึงขอตรวจสอบสำเนาใบรับชั่วคราวทั้งหมด
จะได้หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อเอาเอกสารใบรับชั่วคราวนำไปเทียบกับการลงรายการบัญชีตามกฎหมายพรรคการเมืองว่า
ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
4 เนื่องจากพบข้อมูลในเว็บไซด์พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นรูปกิจกรรมเกี่ยวกับการบรรจุของบริจาคใส่ถุงที่มีโลโก้และชื่อพรรคประชาธิปัตย์เมื่อเดือนพฤศจิกายน
2553 จึงขอตรวจสอบสมุดบัญชีด้วยว่า
ของบริจาคเหล่านั้นได้นำมาลงบัญชีหรือไม่ เช่น บะหมี่ “ซื่อสัตย์”
มูลค่าแปดแสนกว่าบาท เป็นต้น
5 หากผลการตรวจสอบสมุดบัญชีและเอกสารหลักฐานกี่ยวกับของบริจาคที่พรรคได้รับมา
เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย ข้าพเจ้าพร้อมจะขอโทษและขอขมาต่อพรรคประชาธิปัตย์
รวมทั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคทุกคน อย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมทั้งแถลงยอมรับว่าข้าพเจ้ามีการเข้าใจผิดต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างมาก
และพร้อมที่จะถูกฟ้องร้องจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
6 ในทางกลับกัน เนื่องจากข้าพเจ้าเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
คือ สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อ
ป.ป.ช. ซึ่งข้าพเจ้าได้ดำเนินการมาครบถ้วนแล้วจำนวน 3 ครั้ง
กรณีนี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์หรือสมาชิกพรรคคนใด (ข่าวนายสาธิต
จากเว็บไซด์พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 4 ก.ค. 2555) ต้องการจะตรวจสอบหรือซักถามเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้ยื่นไว้
ข้าพเจ้าก็พร้อมที่จะตอบคำถามหรือให้ตรวจสอบได้ในทุก ๆ รายการ และหากพบว่า
ข้าพเจ้ากระทำความผิดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินดังกล่าว เช่น ปกปิดบัญชี
ยื่นบัญชีเป็นเท็จ หรือมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ เป็นต้น ขอให้พรรคประชาธิปัตย์
โปรดร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนเอาความผิดต่อข้าพเจ้าโดยเร็วด้วย
7 การขอเข้าตรวจสอบสมุดบัญชีพร้อมเอกสารประกอบการลงบัญชีของพรรคประชาธิปัตย์
ปี 2553 และปี 2554 นั้น ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
จะได้รับความกรุณาจากท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 9
- 13 กรกฎาคม ศกนี้
เนื่องจากตรวจสอบในเว็บไซด์ตามวันที่ในหนังสือนี้แล้วเห็นว่าในปฏิทินกิจกรรมของพรรคยังว่างอยู่
และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม ข้าพเจ้าขอให้การตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ
ทางบัญชีดังกล่าวกระทำต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนง
8 วิธีการตรวจสอบ
ข้าพเจ้าขอนำสำเนาเอกสารการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบทุกใบที่ได้ยื่นต่อ
ป.ป.ช. รวมทั้ง 3 ครั้ง ไปวางไว้ที่พรรคประชาธิปัตย์
เพื่อให้พรคประชาธิปัตย์และสื่อมวลชนได้ตรวจสอบอย่างเต็มที่และพร้อมชี้แจงทุกคำถามทุกประเด็น
ในทำนองเดียวกับ ข้าพเจ้าขอให้พรรคประชาธิปัตย์นำสมุดบัญชีรายวัน
สมุดบัญชีแยกประเภท เอกสารสำเนาใบรับเงิน
เอกสารประกอบการลงบัญชีของพรรคประชาธิปัตย์ เพียง 2 รอบปีบัญชี
คือ ปี 2553 และปี 2554 มาให้ตรวจสอบต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย
โดยข้าพเจ้าขอสอบถามความถูกต้องโปร่งใสในงบการเงินพรรคประชาธิปัตย์ต่อหน้าสื่อมวลชน
ด้วยตัวเอง ข้อมูล 3 ปีของข้าพเจ้าแลก 2 ปีของพรรคประชาธิปัตย์อย่างนี้ ผมรับได้ แม้จะเสียเปรียบบ้าง โดยมีระยะเวลาการวางเอกสารให้สาธารณะได้ตรวจสอบข้อมูลของทั้งสองฝ่าย
15 วัน
และอนุญาตให้ถ่ายเอกสารที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
9 เนื่องจากสำนักข่าวบางแห่ง อาจไม่รู้วิธีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของข้าพเจ้า เช่น สำนักข่าวอิศรา เป็นต้น แต่กลับเสนอข่าวไปในทางที่ทำให้ผู้อ่านไม่ค่อยได้รับประโยชน์จากวิชาตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงขอให้ผู้บริหารระดับสูงของสำนักข่าวอิศรา มาร่วมเป็นสักขีพยานและซักถามด้วย พร้อมทั้งนำงบการเงินและเอกสารการรับเงินสนับสนุนจาก สสส. หรือ บริษัทมหาชนที่สำนักข่าวอิศราหรือสถาบันอิศราเคยได้รับ มาแสดงให้ทราบด้วย เพื่อพิสูจน์ว่า เป็นการรับการสนับสนุนอย่างโปร่งใสและไม่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น