ที่มา:มติชนรายวัน 22 ก.ค.2556
หมายเหตุ - พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ประเมินทางการเมืองก่อนเปิดการประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 1 สิงหาคม ขณะที่ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตรอง ผบ.สส. ในฐานะประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) แถลงเปิดตัว "คณะเสนาธิการร่วมและกำหนดจังหวะก้าวโค่นระบอบทักษิณ" เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร
"การชุมนุมคงไม่กระทบกับรัฐบาลจนถึงขั้นยุบสภา"
สถานการณ์ทางการเมืองก่อนเปิดการประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ การชุมนุมกลุ่มต่างๆ ยังเป็นการบ่มเพาะเพื่อเลี้ยงกระแสและนำไปสู่การยกระดับการชุมนุม อย่างไรก็ตามความวุ่นวายก็ยังคงอยู่ภายนอกสภาเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงกับขั้นรุนแรงเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่เกิดความเป็นเอกภาพ ซึ่งรัฐบาลจะต้องพยายามชี้แจงประชาชนเพื่อทำความเข้าใจในประเด็นที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะนำประเด็นมายกระดับการชุมนุมให้เกิดความรุนแรงให้ได้
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมขณะนี้ควรจะนำกฎหมายขึ้นมาพิจารณาก่อนหลังก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกันของสภา กฎหมายทั้งหมดที่อยู่ในสภาทั้งหมดไม่น่าจะเป็นประเด็นให้เกิดการชุมนุมที่รุนแรงถึงขั้นปิดล้อมสภา เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่มีเอกภาพมากนัก อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะนำร่างกฎหมายใดมาพิจารณาก็ต้องตอบประชาชน รวมทั้งคนเสื้อแดงให้ได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ การชุมนุมคงไม่กระทบกับรัฐบาลจนถึงขั้นยุบสภา เพราะรัฐบาลก็ตั้งใจที่จะบริหารประเทศให้ครบวาระ 4 ปี
"ส่วนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่เสนอโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาทำให้เหตุการณ์ทั้งในและนอกสภาเกิดความรุนแรงได้ คงจะยังไม่มีปัญหา เพราะสภายังไม่มีการนำขึ้นมาพิจารณา อย่างไรก็ตามหากนำขึ้นมาพิจารณาก็ไม่น่าจะกังวลเพราะเป็นการดำเนินการตามกลไกของสภาและพรรคฝ่ายค้านคงไม่กล้าที่จะกระทำอะไรที่อยู่นอกเหนือกติกา เช่น การปาแฟ้ม หรือดึงเก้าอี้ประธานสภา ให้เกิดความวุ่นวาย เหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ เพราะมีบทเรียนมาแล้วให้เกิดความเสียหายแก่พรรคตนเอง"
พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ
"สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤต อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน"
สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤต อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ถูกครอบงำด้วยระบอบทักษิณ รัฐบาลนี้ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นโกงกินบ้านเมือง ทำให้ประเทศสูญเงินไปกับนโยบายประชานิยมในโครงการจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท เมื่อข้าราชการผู้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติได้ตรวจพบการทุจริต รัฐบาลกลับใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน กระทำการข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรม
ดังนั้น ประชาชนทุกสาขาอาชีพ จากองค์กร กลุ่ม เครือข่ายต่างๆ จึงได้รวมตัวกันจัดตั้ง "กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ" ขึ้น โดยมีภารกิจคือ 1.เป็นศูนย์กลางการประสานงาน องค์กร กลุ่ม เครือข่าย พรรคการเมืองต่างๆ ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการโค่นระบอบทักษิณให้สิ้นซากไปจากแผ่นดินไทย 2.จัดตั้งและขยายมวลชนผู้รักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ รักประชาธิปไตย หวงแหนแผ่นดิน ให้สามัคคีรวมตัวกันมากขึ้น เป็นมวลมหาประชาชนในทุกจังหวัด 3.จัดตั้งกองกำลังปกป้องประชาชนในทุกจังหวัด
"นอกจากนี้ยังกำหนดให้มีคณะเสนาธิการร่วม ซึ่งประกอบด้วย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัฒน์ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคณี นายพิเชษฎ พัฒนโชติ และนายไทกร พลสุวรรณ ทำหน้าที่ประสานองค์กร กลุ่ม เครือข่าย และพรรคการเมืองต่างๆ กำหนดแผนและแนวทางการเคลื่อนไหวมวลชน เพื่อให้บ้านเมืองพ้นจากวิกฤต"
ทางกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ดำเนินการ คือ 1.ให้รัฐบาลแสดงจุดยืนในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม โดยทันที 3.ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ด้วยการยุติการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม และลดราคาน้ำมันทุกประเภท ด้วยการดำเนินการให้ ปตท.หยุดค้ากำไรเกินควรเอาเปรียบประชาชน และปฏิรูป ปตท.ให้กลับมาเป็นของประชาชน โดยทันที 4.ให้รัฐบาลยุติโครงการกู้เงินบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และร่าง พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเห็นชัดแล้วว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 5.ให้รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทุกฉบับที่เสนอเพื่อล้างผิดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ 6.ให้รัฐบาลดำเนินการเอาผิดกับผู้ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในทุกขั้นตอน ยกเลิกการตั้งกรรมการสอบสวน น.ส.สุภา ปิยะจิต รองปลัดกระทรวงการคลัง รวมทั้งคืนตำแหน่งให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ตามคำสั่งศาล โดยทันที
ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการใดๆ หรือบ่ายเบี่ยง ซื้อเวลา กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณจะดำเนินการนัดชุมนุมโดยสันติ แสดงสิทธิตามรัฐธรรมนูญและแสดงพลังในวันที่ 4 สิงหาคม เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 6 ข้อต่อไป ส่วนเวลาและสถานที่จะแจ้งให้ทราบต่อไป
นครบาลประเมินสถานการณ์ม็อบ
กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้รวบรวมการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ในการต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไว้ดังนี้ 1.กลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนไทย ชุมนุมต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ปักหลักเป็นวันที่ 75 โดยนายสุชาติ ศรีสังข์ และนายทองดี นามแสงโคตร ยังคงชุมนุมบริเวณทางเดินสนามหลวง ตรงข้ามศาลฎีกา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลถอนตัวออกจากศาลโลก ปกป้องศาลรัฐธรรมนูญ และขับไล่รัฐบาล ยอดผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน
2.กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ทำกิจกรรมวันอาทิตย์สีดำ รวมตัวกันที่บริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้ชื่อ "พร้อมเดินทางสู่กิจกรรมสร้างสรรค์อิสระ" ทำกิจกรรมเขียนป้ายผ้าเนื้อหาโจมตีรัฐบาล
3.กลุ่มหน้ากากขาว (V For Thailand) ไม่ปรากฏแกนนำที่ชัดเจน จะนัดรวมตัวกันในทุกวันอาทิตย์ของทุกสัปดาห์ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ การเคลื่อนไหวจะเดินขบวนไปยังย่านสยามสแควร์เพื่อหาแนวร่วมต่อต้านรัฐบาล มีผู้เข้าร่วมชุมนุมต่อครั้งประมาณ 2-3 พันคน
4.กลุ่มนักรบนิรนาม นำโดย ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม จัดกิจกรรม "สลายสีเสื้อ" ประกาศทำกิจกรรมต่อต้านระบอบทักษิณ ยอดผู้ชุมนุมอยู่ประมาณ 500 คน
5.กลุ่มไทยสปริงได้นัดชุมนุมออนไลน์ โดยนัดให้ทุกคนมาดูคลิปวิดีโอการปราศรัยผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบ ภายใต้การนำของนายแก้วสรร อติโพธิ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร และนายขวัญสรวง อติโพธิ พร้อมระบุว่า กลุ่มไทยสปริงไม่ใช่กลุ่มเดียวกับหน้ากากขาว กลุ่มที่สนามหลวง หรือพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีภารกิจต่อต้านระบอบทักษิณ พร้อมทั้งมีการขยายเครือข่ายกลุ่มไทยสปริงผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น