บทชี้นำ
จากนิตยสาร RED
POWER เล่มที่ 26 ประจำเดือน พฤษภาคม 2555
รากเหง้าที่ลึกที่สุดของสถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้ไม่ใช่การต่อต้านการกลับมาของ
พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเท่ห์ๆและไม่ใช่ญัตติการปรองดองแต่เป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
การออกกฎหมายปรองดองเพื่อเปิดทางให้
พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไทยได้เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย แต่เรื่องจับใจและจริงจังยอมไม่ได้ของมหาอำมาตย์ในฐานะประธานเครือข่ายระบอบอำมาตยาธิปไตยคือ
การเลือกตั้ง สสร.โดยตรงเพื่อไปร่างรัฐธรรมนูญ และการลงประชามติรัฐธรรมนูญจริงๆ
เพราะอำนาจของระบอบอำมาตย์อยู่ตรงข้ามกับอำนาจของระบอบประชาชน
กลยุทธ์การครองอำนาจรัฐถาวรของระบอบอำมาตย์คือ
ต้องทำให้รัฐธรรมนูญเป็นเพียงกระดาษชำระพร้อมจะฉีกขาดยัดลงโถชักโครกได้ทุกเมื่อ
แต่กลยุทธ์การครองอำนาจรัฐถาวรของระบอบประชาชน คือ ต้องทำให้รัฐธรรมนูญเป็นแผ่นทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์จะฉีกขาดไม่ได้
เพราะการก่ออำนาจรัฐของระบอบอำมาตย์ใช้บุญญาบารมีแห่งทวยเทพเชิดชูคุณธรรมและจริยธรรมเป็นเครื่องมือ
แต่การก่ออำนาจรัฐของระบอบประชาชนใช้บุญญาบารมีแห่งมหาชนเชิดชูการแบ่งประโยชน์ที่มาจากภาษีอากรอย่างเป็นธรรมแก่มหาชนเป็นเครื่องมือ
อำนาจรัฐของระบอบอำมาตย์จึงต้องอ้างเทพนิยาย
อำนาจรัฐของระบอบประชาชนจึงต้องอ้างรัฐธรรมนูญ
เพราะรัฐธรรมนูญเป็นสัญลักษณ์แห่งเจตนารมณ์ของมหาชน
ด้วยเหตุนี้ 80 ปี
ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์สู่ระบอบประชาธิปไตยแต่ถูกฉวยโอกาสคั่นกลางด้วยระบอบอำมาตย์,ผู้ครองอำนาจตัวจริงที่แอบข้างหลังระบอบประชาธิปไตยจึงพยายามทุกวิถีทางไม่ให้เกิดรัฐธรรมนูญที่มาจากเจตนารมณ์ของประชาชนจริงๆ
โดยอำพรางด้วยการรัฐประหารและร่างรัฐธรรมนูญกระดาษชำระขึ้นมาปกครองประเทศยาวนานโดยไม่มีการเลือก
สสร.หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงและไม่เคยมีการลงประชามติใดๆเลย
การเกิด สสร.40
ก็เกิดจากคนที่ต้องการเป็น สสร.มาเลือกกันเองในแต่ละจังหวัด
การเกิด สสร.50 ก็เกิดจาก
คมช.จัดฉากละครแล้วชี้เอา
การลงประชามติรัฐธรรมนูญ 50
ก็เป็นประชามติภายใต้ปากกระบอกปืน
สสร. ที่จะคลอดใหม่นี้จะคลอดจากประชาชนโดยตรงทั้งเลือกตั้งและมีประชามติจริงๆเป็นครั้งแรก
ดังนั้นหากเกิดรัฐธรรมนูญครบถ้วนตามหลักประชาธิปไตย
รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมิได้บัญญัติไว้ในกระดาษอีกต่อไป
แต่หากบัญญัติลงในแผ่นสุพรรณบัฏ ใครขืนฉีกรัฐธรรมนูญก็จะบาดมือทันที
หากหลุดรอดคลอดเป็นทารกได้ประชาธิปไตยไทยจะไปฉิวยากที่จะหวนกลับ
ด้วยเหตุนี้เองการแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้ทั้งๆที่เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยแต่ไม่เป็นไปตามครรลองหัวใจของหัวหน้าคณะผู้ยึดอำนาจตัวจริงซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตัวจริงด้วยจึงต้องเกิดคลื่นลม
กระแสลมหลักๆก่อตัวที่ไหนก็จะรู้ถึงแหล่งอำนาจรัฐตัวจริงอยู่ที่นั่น
ผู้ยืนหยัดคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาคือประชาธิปัตย์และกลุ่ม
สว.40
ผู้ยืนหยัดคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในโครงสร้างการเมืองคือ
องค์กรอิสระที่ชื่อว่า “ผู้ตรวจการแผ่นดิน”
ผู้ยืนหยัดคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญนอกสภา
คือ กลุ่มพันธมิตรเสื้อเหลืองและเสื้อหลากสี
ประชาธิปัตย์ประกาศเปิดเผยที่จะล้มร่างรัฐธรรมนูญนอกสภานับแต่การประชุมที่หาดใหญ่เมื่อ
27 – 28 กุมภาพันธ์ 2555 จนถึงที่หอประชุมใหญ่ราชภัฎสุราษฏร์ธานี
เมื่อเปิดหน้าเล่นต้านรัฐธรรมนูญกันชัดเจนอย่างนี้
เรื่องการต่อต้านการปรองดองและต่อต้านการกลับบ้านของทักษิณก็เป็นเรื่องเล็กแต่จะถูกทำให้ใหญ่ขึ้น
ป้อมปราการอำมาตย์
คืออำนาจตุลาการยังตรึงกำลังรบครบถ้วน ดูได้จากกรณีปลดชินณิชา วงศ์สวัสดิ์
หลานสาวทักษิณออกจาก ส.ส. และตามมาด้วยปลดจตุพร ออกจาก ส.ส.
อีกและจะปลดจตุพรออกจากรัฐมนตรีหักหน้าทักษิณหากจะตั้งจตุพรเป็นรัฐมนตรี
คำเรียกร้องปรองดองของ พ.ต.ท.ทักษิณ
กลางราชประสงค์ในงานครบรอบ 2 ปี ของการสังหารโหดประชาชน,อำมาตย์ฟังแต่ไม่ได้ยิน
งานล้มร่างรัฐธรรมนูญในระบบด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มขึ้นเร็วๆนี้เป็นการพิสูจน์ว่าอำมาตย์ฟังการเรียกร้องปรองดองแต่ไม่ได้ยิน
จับตาเส้นทางอันตรายก่อนถึงเลือกตั้ง
สสร.และก่อนถึงลงประชามติรัฐธรรมนูญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น