ทีมงานพระนครฯ ได้ลงพื้นที่ติดตาม “งานใหญ่”
ของ “พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)” ในภารกิจ “เป่านกหวีดระดมพล ม็อบสามเสน” เมื่อ 31 ต.ค.2556
ซึ่งมี “สุเทพ เทือกสุบรรณ” แกนนำ ปชป.เป็น “แม่งาน” หลัก
และด้วยความที่เป็น “งานใหญ่” ทีมงานพระนครฯ” จึงระดมสรรพกำลังเต็มที่ในการติดตามสถานการณ์ เนื่องเพราะ “ปชป.” ได้โหมโรง ก่อนก่อม็อบเอาไว้ใหญ่โต โดยให้ “4 รองหัวหน้าพรรค 4 ภาค” นำโดย ถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ , กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคภาค กทม. , ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือและ อิสระ สมชัย รองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ลาออกจาก “กรรมการบริหารพรรค ปชป.” เพื่อมานำมวลชนได้อย่างเต็มที่และเต็มกำลัง
แต่กลับปรากฎว่า ผลที่ออกมากลับทำให้ “ทีมงานพระนครฯ” ผิดหวังเล็กน้อย เมื่อจำนวนคนที่มาร่วม “งานใหญ่” ครั้งนี้กลับผิดเป้าหมายที่ ทั้งระดับ “เบอร์ 1” ยันพวกปลายแถว “ไม่มีเบอร์” ใน ปชป. ที่ขู่ตะคอกว่า “มวลชนหลักแสน” จะมายืนเต็ม “สถานีรถไฟสามเสน” เพื่อให้ล้อกับประวัติที่มาของชื่อ “สามเสน” ที่แต่ก่อนคือ “สามแสน”
เพราะ “มวลชน ปชป.” ที่มาร่วมนั้นมีอยู่เพียงประมาณ 3,000 คน
โดย “ทีมงานพระนครฯ” ได้ตรวจสอบเส้นทางการเดินทางมาของทุกกลุ่ม ที่มาร่วมงาน “บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสามเสน” โดยละเอียดว่าแต่ละกลุ่ม นั้นอยู่ภายใต้ “ความรับผิดชอบ” ของ “แกนนำมวลชน 4 ภาค” ของ ปชป. คนไหนอย่างไร ชนิดที่เรียกว่า ใช้ “เครื่องนับจำนวน” ไปนั่งนับ “หัว” กันเลยทีเดียว
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า กลุ่มคนที่มาร่วม “งานใหญ่” เป่านกหวีดระดมพล วันแรก ของ “สุเทพ เทือกสุบรรรณ” ทั้งสิ้นเพียง ประมาณ 3,000 คน ซึ่ง “เสียราคา” พรรคการเมืองใหญ่ อย่าง “ปชป.” ไม่ใช่น้อย
และด้วยความที่เป็น “งานใหญ่” ทีมงานพระนครฯ” จึงระดมสรรพกำลังเต็มที่ในการติดตามสถานการณ์ เนื่องเพราะ “ปชป.” ได้โหมโรง ก่อนก่อม็อบเอาไว้ใหญ่โต โดยให้ “4 รองหัวหน้าพรรค 4 ภาค” นำโดย ถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ , กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคภาค กทม. , ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือและ อิสระ สมชัย รองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ลาออกจาก “กรรมการบริหารพรรค ปชป.” เพื่อมานำมวลชนได้อย่างเต็มที่และเต็มกำลัง
แต่กลับปรากฎว่า ผลที่ออกมากลับทำให้ “ทีมงานพระนครฯ” ผิดหวังเล็กน้อย เมื่อจำนวนคนที่มาร่วม “งานใหญ่” ครั้งนี้กลับผิดเป้าหมายที่ ทั้งระดับ “เบอร์ 1” ยันพวกปลายแถว “ไม่มีเบอร์” ใน ปชป. ที่ขู่ตะคอกว่า “มวลชนหลักแสน” จะมายืนเต็ม “สถานีรถไฟสามเสน” เพื่อให้ล้อกับประวัติที่มาของชื่อ “สามเสน” ที่แต่ก่อนคือ “สามแสน”
เพราะ “มวลชน ปชป.” ที่มาร่วมนั้นมีอยู่เพียงประมาณ 3,000 คน
โดย “ทีมงานพระนครฯ” ได้ตรวจสอบเส้นทางการเดินทางมาของทุกกลุ่ม ที่มาร่วมงาน “บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสามเสน” โดยละเอียดว่าแต่ละกลุ่ม นั้นอยู่ภายใต้ “ความรับผิดชอบ” ของ “แกนนำมวลชน 4 ภาค” ของ ปชป. คนไหนอย่างไร ชนิดที่เรียกว่า ใช้ “เครื่องนับจำนวน” ไปนั่งนับ “หัว” กันเลยทีเดียว
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า กลุ่มคนที่มาร่วม “งานใหญ่” เป่านกหวีดระดมพล วันแรก ของ “สุเทพ เทือกสุบรรรณ” ทั้งสิ้นเพียง ประมาณ 3,000 คน ซึ่ง “เสียราคา” พรรคการเมืองใหญ่ อย่าง “ปชป.” ไม่ใช่น้อย
โดยมาจาก 6 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.มวลชนกลุ่มหลัก
ได้รับการระดมมาจากพื้นที่
กทม.และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมาจากเขต ดอนเมือง
ราชเทวี หลักสี่และจตุจักร ที่แกนนำพรรคได้มอบหมายให้กับ
ส.ก.และ ส.ข.ระดมมาให้ได้อย่างน้อยเขตละ 150-200 คน ซึ่งมีการอำนวยความสะดวกให้เรื่องการเดินทางผ่านรถบัสรับ-ส่ง
รวมไปถึงพื้นที่ใกล้เคียงอย่างปทุมธานี ในเขตที่ ปชป.มี
ส.ส.เจ้าของเขต
2.ภาคใต้ ภายใต้การนำขบวนของ ถาวร
เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคภาคใต้
ที่ระดมมาจากจังหวัดใหญ่อย่าง สงขลาและสุราษฎร์ธานี ที่เรียกพลได้สูงสุด
เพียง 400 คน
3.ภาคกลางถือว่า
ระดมได้พอสมควร แม้ “อลงกรณ์ พลบุตร” รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง
จะไม่ “บ้าจี้” เล่น “ป่าหี่” ลาออกจาก “ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค” เพื่อมา “นำม็อบ” แต่ก็สามารถระดมได้จาก
พื้นที่ “เพชรบุรี” ของ “อภิชาต สุภาแพ่ง” หรือเล็กร้อยศพ ส.ส.เพชรบุรี ปชป.
และพื้นที่ สมุทรสงคราม ของ “รังสิมา รอดรัศมี” ได้ถึง 1,050 คน
4.ภาคเหนือ ภายใต้การนำของ “แม่เลี้ยงติ๊ก”
ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ผู้กว้างขวางในพื้นที่จังหวัดแพร่
อดีตรองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ระดมเต็มที่แล้วจาก
พิษณุโลกของ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ส.ส.พิษณุโลก ปชป. ได้มาถึง 100 คน
5 ภาคอีสานของ “อิสระ สมชัย” อดีตรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ที่ไม่น้อยหน้า ขูดมาเติมได้อีก 50
คน และ
6 กลุ่มชนที่มาร่วมเองโดยไม่มีแกนนำ
ซึ่งมีไม่มากนักและส่วนใหญ่ สัญจรผ่านไปมาบริเวณดังกล่าว
ในแบบผ่านมาแล้วผ่านไปมีอยู่จำนวนหนึ่ง
นอกจากนี้การที่ ปชป.ตั้งเวที่ปราศรัยบริเวณสถานีรถไฟสามเสน ยังส่งผลมวลชนที่ชุมนุมอยู่บริเวณ “แยกอุรุพงษ์” ที่มีอยู่ประจำคืนละ 200-300 คน ลดลงไปกว่าครึ่งหนึ่ง และเหลือเพียง 120 คนเท่านั้นในช่วงค่ำคืนวันที่ 31 ต.ค.2556
นอกจากนี้การที่ ปชป.ตั้งเวที่ปราศรัยบริเวณสถานีรถไฟสามเสน ยังส่งผลมวลชนที่ชุมนุมอยู่บริเวณ “แยกอุรุพงษ์” ที่มีอยู่ประจำคืนละ 200-300 คน ลดลงไปกว่าครึ่งหนึ่ง และเหลือเพียง 120 คนเท่านั้นในช่วงค่ำคืนวันที่ 31 ต.ค.2556
โดยไม่ต้องพูดถึงว่า จะส่งผลให้ “ม็อบสวนลุมฯ”
เหลือกี่สิบคน !!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น