คอลัมน์ การเมือง มติชน 20 พ.ย.2555
ปรากฏการณ์ต้านข้อเสนอ "แช่แข็ง" ประเทศไทย ลุกลามไปทั่ว
เป็นข้อเสนอของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ที่กำลังจะจัดการชุมนุมประชาชน 1 ล้านคน ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
ปรากฏการณ์ต้าน นอกจากมาจากนักวิชาการ ปัญญาชนแล้ว
ยังมาจาก "แฟลชม็อบ" ที่นำโดย บ.ก.ลายจุด นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ไปแล้ว ที่รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม
จากการชุมนุมของ คนเสื้อแดง ที่ขอนแก่นไปแล้ว ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมนับหมื่น
จากการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่ อบต. บางปลา จ.สมุทรปราการ มีผู้เข้าร่วมนับหมื่นเช่นกัน
ยังจะมีการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงภาคอีสานที่อุดรธานี และเสื้อแดงภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ ในปลายสัปดาห์
การปฏิเสธจากนักวิชาการ ปัญญาชนนั้น เข้าใจได้ว่า กำหนดโดยหลักการทางวิชาการ
ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นชัดเจนว่า สนับสนุนรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ที่นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แล้วฝ่ายอื่นๆ เล่า ?!
ความเห็นทั่วไปของประชาชนในภาพรวม แม้จะยากสัมผัส แต่อาจเข้าถึงได้ผ่านการสำรวจของโพลต่างๆ
สวนดุสิตโพลนำเสนออย่างระมัด ระวังว่า 42.69% ของผู้ให้ความเห็นทั่ว ประเทศ ต้องการให้ใช้วิธีเจรจา มากกว่าออกมาชุมนุม
30.43% เห็นว่า เป็นเกมการเมืองเพื่อหวังกดดันรัฐบาลให้ทำตามข้อเรียกร้อง ส่งผลกระทบต่อประเทศ
39.09% เกรงจะเกิดความรุนแรง, 44.24% แนะทุกฝ่ายมีสติ ใช้เหตุผล
41.07% ขอให้ องค์การพิทักษ์สยาม ชุมนุมอย่างสงบ ใช้สันติวิธี และไม่ใช้ความรุนแรง
ขณะที่เอแบคโพลล์ สำรวจ 17 จังหวัดใหญ่ ฟันเปรี้ยงๆ ว่า 94.5% ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่จะนำประเทศไปสู่การปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
84% อยากให้การชุมนุมเป็นไปโดย สงบ
แต่ก็นั่นแหละ โพลเหล่านี้ อาจเบี่ยงเบนด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง
"คำตอบ" ที่ถูกต้องแม่นยำ อาจจะต้องรอสรุป จากวันชุมนุม 24 พฤศจิกายน
มองจากฝ่ายผู้สนับสนุน อาจจะเห็นความคึกคักได้จากเครือข่ายโซเชียลมีเดียของพรรคการเมืองบางพรรค กับสื่อบริวาร
เป็นกลุ่มคนอ่านออกเขียนได้ใช้อินเตอร์เน็ตเป็น วางตนเองว่าเป็นผู้รู้ และเข้าใจประชาธิปไตยยิ่งกว่า "รากหญ้า" เสื้อแดง
เป็น "พลเมืองฉลาด" ผู้โชคร้าย ที่ดันมาเกิดในประเทศที่มีนายกฯโง่ !
มุมมองของคนกลุ่มนี้ ต่อการชุมนุม 24 พฤศจิกายน ของ องค์การพิทักษ์สยาม จึงเป็นบวก
เป็น "ความหวัง" อันเรืองรอง ในการทวงคืนประเทศไทย
ให้กลับไปสู่อ้อมอกของคนดี คืนสู่ระบบที่บริหารงานโดยคนดี
ซึ่งยังพร่าเลือนว่า หน้าตาของระบบดังกล่าวเป็นอย่างไร
คําถามที่ยังไม่มีใครตอบ ก็คือ ภายใต้แนวทาง "คนดี" นั้น "ใคร" จะมาเป็นผู้นำรัฐบาล และเป็นรัฐมนตรี
ใครจะเข้าไปอยู่ในสภาคนดี และใครจะเป็นคนเลือกคนดี
จะนำพาประเทศมุ่งหน้าไปในทิศทางดีๆ ทิศทางใด
การแช่แข็งประเทศ, การปิดประเทศ จะดำเนินการในลักษณะใด และคนไทยจะได้อะไรจากระบบนี้
จะทำอย่างไรกับการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การนำเข้าและ ส่งออก การไปมาหาสู่ การแลกเปลี่ยนในด้านต่างๆ กับมิตรประเทศ
สนธิสัญญา ข้อผูกพันระหว่างประเทศต่างๆ จะยกเลิกทิ้งทั้งหมดหรือไม่ ฯลฯ
ถือเป็น "เรื่องใหญ่" ที่จะต้องมีคำตอบ
เมื่อนำเสนอเรื่องของ "คนดี" ในทางตรงกันข้าม ก็ต้องมี "คนไม่ดี"
คำถามไม่สำคัญ แต่น่าจะต้องตอบก็คือ
แล้วจะเอา "คนไม่ดี" ไปโยนทิ้งไว้ที่ไหน !?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น