เรื่องจากปก จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ ปีที่ 14 ฉบับที่ 3423 ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 15 พฤศจิกายน 2012
การเมืองทวีความร้อนแรงสวนทางกับสภาพอากาศที่อยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว
มีความเคลื่อนไหวคึกคักทั้งในสภาและนอกสภา
แม้จะปฏิเสธความเกี่ยวข้องแต่สอดคล้องกันอยู่ในท่าทีของการดำเนินการ
อันมีเป้าหมายใหญ่เดียวกันคือการโค่นล้มรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
การเมืองในสภาก็ว่ากันไปตามกฎกติกาที่มีกำกับอยู่ จะเล่นแรงแค่ไหนหากยังอยู่ในกฎ
ในกรอบกติกาก็ถือว่ารับได้
แต่ที่ไม่อาจยอมรับได้คือ การเมืองนอกสภา
ที่ประกาศเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบบ
มุ่งแช่แข็งประเทศไทยนาน 5 ปี
กันไม่ให้นักการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับภารกิจการบ้านการเมืองทั้งในฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ
เมื่อเป้าหมายชัดก็ต้องมีคำถามย้อนกลับไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม 40 ส.ว.
นักวิชาการ และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ที่ครั้งหนึ่งเคยออกมาร่วมกันเคลื่อนไหวขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291
เพื่อตั้ง ส.ส.ร. ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่
ต้องถามว่าคนเหล่านี้มีจุดยืนกับการชุมนุมโค่นล้มรัฐบาลเพื่อแช่แข็งประเทศนาน 5
ปีอย่างไร และต้องแสดงจุดยืนนั้นออกมา
การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 โดยรัฐบาลที่ทำกันในสภาตามขั้นตอน พรรคประชาธิปัตย์
พันธมิตรฯ กลุ่ม 40 ส.ว.
และนักวิชาการพากันมองว่าเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ
ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เป็นการกระทำเพื่อการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่ใช่วิถีตามรัฐธรรมนูญ
ถือว่าขัดต่อข้อกำหนดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68
พรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรฯ กลุ่ม 40 ส.ว.
พากันยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ระงับยับยั้งการแก้ไขมาตรา 291
ซึ่งศาลรับคดีไว้พิจารณาอย่างทันใจ
แม้ภายหลังจะชี้ว่าการแก้มาตรา 291 ยังไม่เข้าข่ายผิดตามมาตรา 68
แต่ก็ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ได้จากการทำรัฐประหารหยุดชะงักมาถึงปัจจุบัน
ขณะที่การชุมนุมขับไล่รัฐบาลขององค์การพิทักษ์สยามประกาศเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการแช่แข็งประเทศนาน
5 ปี ไม่ให้นักการเมืองมายุ่งเกี่ยวกับกิจการบ้านเมือง
และต้องการกำหนดกติกาการปกครองบ้านเมืองใหม่
แช่แข็งประเทศเพื่อร่างกติกาใหม่เป็นการทำนอกสภา ไม่มีกฎหมายรองรับ
แต่พรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรฯ กลุ่ม 40 ส.ว.
และนักวิชาการที่เคลื่อนไหวคัดค้านการแก้มาตรา 291
อย่างคึกคักเอาเป็นเอาตายกลับเงียบกริบ
นอกจากไม่มีแม้แต่เสียงวิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องแล้ว
ยังมีท่าทีให้กำลังใจและสนับสนุน
ไม่มีใครคิดฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้สั่งระงับการชุมนุมที่มีเป้าหมายล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหาร
ทั้งที่เป็นการกระทำเพื่อการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่ใช่วิถีตามรัฐธรรมนูญ
มีเพียงนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา
ที่ยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ระงับยับยั้งการชุมนุม โดยยื่นเรื่องไปตั้งแต่วันที่ 5
พ.ย. ที่ผ่านมา
แต่ถึงวันนี้ศาลก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่
ขณะที่การชุมนุมจะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.
ต้องตั้งคำถามถึงศาลรัฐธรรมนูญเหมือนกันว่ากรณีนี้สำคัญเร่งด่วนพอที่จะพิจารณาเหมือนกับการรับพิจารณาแก้มาตรา
291 โดยตรงไม่รอคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดก่อนตามขั้นตอนหรือไม่
หากแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 มาตราเดียว ถือเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
แล้วการชุมนุมวันที่ 24 พ.ย. ที่มีเป้าหมายล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหาร
จะเรียกว่าอะไร?
ม็อบองค์การพิทักษ์สยามได้จับผู้ประกาศตัวเป็นนักประชาธิปไตยแก้ผ้าล่อนจ้อนโชว์ต่อหน้าสาธารณชนแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างไร
ใครนักประชาธิปไตยตัวจริง ใครตัวปลอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น