Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ปรากฎการณ์ “ทองลอก”

จาก บล็อก ประทีป คงสิบ VoiceTV



เมื่อสมัยเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ  เพื่อนหนุ่มสาวรุ่นเดียวกับผม  ส่วนใหญ่รายได้ยังไม่มากนัก  หากไม่ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อ   ชีวิตก็ดำรงอยู่ได้  แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม   บางคนก็อยากโชว์ว่า  มีฐานะ”      เครื่องบ่งบอกฐานะประการหนึ่ง  ของคนหนุ่มสาวในยุคเดียวกับผม   ก็คือ การสวมใส่สร้อยคอ /เลสข้อมือ / หรือแหวนที่ทำด้วยทองคำ

บางคนพยามเก็บหอมรอมริบอยู่นานกว่าจะได้เลสทอง(แท้)สักเส้น    แต่บางคนก็ใช้วิธีรวยลัด   ด้วยการใส่สร้อย หรือเลสที่เป็นทองชุบ   งานทองชุบดีๆนี่ดูแทบไม่ออกเลยนะครับ   แค่นี้ก็ทำให้ผู้สวมใส่ดูดีมีฐานะในสายตาคนภายนอก  เป็นที่ชื่นชมและอยากคบค้าสมาคม(สำหรับคนที่ชอบคบคนโดยดูฐานะ)

แต่เมื่อไม่ใช่ทองแท้  เป็นแค่ ทองชุบ”  ต่อให้ใช้กรรมวิธีดีแค่ไหน  ในที่สุดทองมันก็ลอกเข้าสักวัน      ใครที่อยากรวยแบบหลอกๆ  ก็เอากลับไปให้ช่างชุบใหม่  


ผมคิดถึงเรื่อง ทองชุบ”  / “ทองลอก”  เพราะเผอิญช่วงนี้เห็นข่าว     กรณีคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  ถูกกล่าวหาว่า หนีทหารและใช้เอกสารที่มีพิรุธเพื่อสมัครเข้าเป็นอาจารย์ร.ร.นายร้อยจปร.    กลับมาเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้ง

ตอนที่มีการเปิดประเด็นข่าวนี้ครั้งแรกๆเมื่อปี ๒๕๔๒   และอีกหลายปีต่อมาเมื่อคุณจตุพร พรหมพันธุ์  นำมาโจมตีคุณอภิสิทธิ์(และถูกฟ้องร้องเป็นคดีความอยู่ในศาลขณะนี้)  ผมเองยังมองว่าเป็นประเด็นที่ ไม่เข้าท่านัก  

เพราะจากประวัติชีวิตของคุณอภิสิทธิ์  ผู้ที่สังคมวาดหวังว่า นี่คือนักการเมืองในฝัน”(การศึกษาดี/บุคคลิกภาพดี/ชาติตระกูลดี/วาทศิลป์ดี/หน้า ตาดี)      ใครๆก็รู้ว่า  เคยรับราชการเป็นอาจารย์ร.ร.นายร้อยจปร.  มียศร.ต.อีกต่างหาก  แล้วจะมามีปัญหา หนีทหารได้อย่างไร
 

สารภาพผิดเลยว่า   ช่วงนั้นในฐานะบรรณาธิการข่าว  ผมยังบอกกับนักข่าวในสังกัดว่า   อย่าเล่นเรื่องนี้เลย  เพราะนอกจากรู้ว่าคุณอภิสิทธิ์เคยรับราชการทหารแล้ว   ยังมั่นใจกับภาพลักษณ์ส่วนตัวของคุณอภิสิทธิ์ที่ปรากฎ   ว่าคนๆนี้ เป็นนักการเมืองน้ำดีที่ต้องช่วยกันส่งเสริม 

จนเกิดเหตุเมษา-พฤษภา ๕๓  พร้อมความตาย ๙๘ ศพนี่แหละครับ   ที่ทำให้ความเชื่อของผมสั่นคลอนและพังทลาย   “ทองชุบ”   ที่ผมเคยเชื่อว่าเป็น ทองแท้”   เริ่มลอกร่อน   

และเมื่อเรื่องเก่าหลายปีมาแล้ว  ถูกนำมารื้อฟื้น   ผมกลับไปตรวจสอบ อ่านและฟังการลำดับหลักฐานข้อมูล  ของฝั่งผู้กล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหา   เพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องนี้   คำว่า ทองลอก”  ก็ผุดขึ้นมาในมโนสำนึก 

โธ่ ! ไม่ต้องไปไกลถึงขั้นว่าใช้เอกสารปลอมหรือไม่หรอกครับ    เอาแค่ว่ารับราชการหนึ่งปี   แต่ลากิจถึง ๒๐๐ กว่าวัน  แถมตอนที่เริ่มใช้สิทธิ์ลา  ก็เพิ่งบรรจุได้ไม่กี่วันอีก   ถามว่าถ้าเป็นสามัญชนทั่วไป  มีใครทำได้ และมีองค์กรไหนที่อนุญาตให้ทำได้บ้าง(ถึงบางอ้อเลย ว่า ทำไมถึงชื่ออภิสิทธิ์”) 

และถ้าย้อนไปก่อนหน้านี้  ปรากฎการณ์ ทองลอก”  ที่ผมคิดว่าสั่นสะเทือนความรู้สึกสังคมไทย  ในระดับหลายริกเตอร์  ยังมีอีก ๒ กรณี 

กรณีแรกคือ  ผลสอบการถือครองที่ดินเขายายเที่ยง  จังหวัดนครราชสีมา   ของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์  อดีตนายกรัฐมนตรี และองคมนตรีในปัจจุบัน   ซึ่งในที่สุดมีข้อสรุปว่า   เป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ(แต่พล.อ.สุรยุทธ์ กลับไม่มีความผิดใดๆ?)


ภาพลักษณ์ของพล.อ.สุรยุทธ์   ก่อนจะเกิดกรณีรุกเขายายเที่ยง   ก็เหมือนๆกับคุณอภิสิทธิ์นั่นแหละครับ  คือ  มีภาพของความเป็นคนดี มีคุณธรรมและจริยธรรมสูงส่ง  แต่ที่เหนือกว่าคุณอภิสิทธิ์ และย้อนแย้งกับข้อหารุกป่าอย่างมาก  ก็ คือ พล.อ.สุรยุทธ์  มีภาพของความเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ   ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไป   เพราะเคยเป็นประธานมูลนิธิอนุรักษ์ป่าเขาใหญ่   

ทั้งสองคนนี้(คุณอภิสิทธิ์และพล.อ.สุรยุทธ์)  ช่างบังเอิญเหมือนกันอีกอย่าง  คือ  ต่างถูกรับประกันในคุณสมบัติที่เพียบพร้อมของความเป็น คนดี”  จากพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์  ประธานองคมนตรี   ผู้ซึ่งมักเดินสายเรียกร้องให้คนไทยและสังคมไทย   ประพฤติตัวเป็นคนดีมีคุณธรรม  เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน  อยู่เนืองๆ

กล่าวสำหรับพล.อ.สุรยุทธ์   เมื่อครั้งก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี  หลังการรัฐประหาร ๑๙ ก.ย. ๒๕๔๙  พล.อ.เปรม  เคยกล่าวชมในทำนองว่า  เป็นคนที่เสียสละเพื่อบ้านเมือง เหมือนวินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง(๑๕ พ.ย. ๒๕๔๙) 

ขณะที่คุณอภิสิทธิ์  ก็ไม่น้อยหน้า   เพราะพล.อ.เปรม   ก็เคยกล่าวชมเมื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ๆเหมือนกันว่า คนไทยโชคดีที่ได้คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี”(๒๘ ธ.ค. ๒๕๕๑) 

แต่คนไทยและประเทศไทยโชคดีที่เคยมีคุณอภิสิทธิ์ และพล.อ.สุรยุทธ์   เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่  วันนี้หลายคนคงได้คำตอบกันแล้ว 

ปรากฎการณ์ ทองลอกอีกกรณี    ที่วันนี้หลายคนอาจจะลืมเลือนชื่อนี้ไปบ้างแล้ว  คือ กรณีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา  อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน    ที่โดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ชี้มูลความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗  กรณีจัดสัมมนาโครงการ สตง.ในความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภาเป็นเท็จ   โดยข้อเท็จจริงปรากฎว่าเป็นการเบิกงบเพื่อจัดงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน(๖ ก.ย. ๒๕๕๔)


ก่อนหน้าเกิดการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙  ถ้ายังจำกันได้  ชื่อคุณหญิงจารุวรรณ  หอมฟุ้งอย่างมากในฐานะคนดีของแผ่นดิน”   ซื่อสัตย์สุจริต/มีคุณธรรมจริยธรรมสูงส่ง  เป็นแบบอย่างของข้าราชการในอุดมคติ    จึงไม่แปลกที่หลังการรัฐประหาร   คุณหญิงจารุวรรณ  จึงยิ่งมีบทบาทโดดเด่นขึ้นไปอีก   เพราะถูกมอบดาบอาญาสิทธิ์ ในนามคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือ คตส.(ร่วมกับ คนดีอื่นๆ)  ให้เล่นงานนักการเมืองในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  ที่ถูกโค่นล้ม  ด้วยข้อหาหนึ่งคือ การทุจริตคอรัปชั่น 

เพียงสัปดาห์แรกหลังรัฐประหาร  คุณหญิงจารุวรรณ  ให้สัมภาษณ์สื่ออย่างมั่นใจว่า  จะดำเนินคดีกับนักการเมืองเหล่านี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว   โดยเฉพาะกรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์  หลักฐานพร้อมสุด  เอาผิดได้แน่นอนเป็นกรณีแรก(๒๑ ก.ย. ๒๕๔๙) 

แต่จนถึงวันนี้  อย่างที่รู้กัน  คดีซีทีเอ็กซ์เงียบหายไปแล้ว   หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  ที่เป็นผู้เปิดประเด็นทุจริตจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์  ยังต้องลงขอโทษเสียเชนายวรพจน์ ยศะทัตต์   ผู้ขายเครื่องซีทีเอ็กซ์   โดยยอมรับว่าเข้าใจผิด และวิเคราะห์ข่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง(๒๒ ก.ย. ๒๕๕๑) 

เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคุณอภิสิทธิ์ / พล.อ.สุรยุทธ์ และคุณหญิงจารุวรรณ     “คนดีของสังคมไทยที่ผมไล่เรียงมา  จึงถือเป็นปรากฎการณ์ที่สั่นสะเทือน สถาบันคนดีอย่างมาก

น่าจะอนุมานได้กับปรากฎการณ์ทองลอก”. 

ประทีป คงสิบ

๒๕ ก.ค. ๕๕

http://www.voicetv.co.th/blog/1240.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น