Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ใครหลุดใครได้เพราะอะไรใน ครม.ปู2

ข่าวเจาะลึก
จาก
REDPOWER ฉบับ 23 เดือน กุมภาพันธ์ 55

ฝุ่นฟุ้งควันโขมงเป็นผลอันเกิดจากการปรับคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 2 จนผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองสำลักฝุ่นควันกันเป็นแถว จากข่าวแซวข่าวสอยของสารพัดสื่อทั้งหวังดีประสงค์ร้ายและหวังร้ายประสงค์ร้ายยิ่งกว่า ทั้งจริงบ้างเท็จบ้างลูกอีช่างติ เริ่มตั้งแต่ทำไมคนนี้จึงได้และทำไมคนไฉไลอย่างป้ารื่น (บุญรื่น ศรีธเรศ) จึงหลุดไป Red Power อยากจะบอกสื่อทั้งหลายที่ไกลพรรคว่าทำนายทายทักอย่างไรก็ทายใจนายใหญ่ไม่ถูก วันนี้แม้จะช้าสักนิดแต่ยังไม่สายลองฟังเกจิสายพรรค (ไม่ประสงค์จะออกนาม) ยืนเขย่งดู ดูไบทำนายทายทักสักหน่อยเป็นไรเพื่อรัฐมนตรีใหม่จะได้ระมัดระวังตัวอย่าไปมัวทะเลาะเวอะแว้งเดี๋ยวจะหาว่าพลังแดงไม่เตือน

 
กลุ่มแรกของรัฐมนตรีที่ถูกปลดออกเพราะดันไม่ยอมลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อนั่งกั๊กทั้งสองทางกางขา จนว่าที่ส.ส.อันดับรองๆร้องไปหานายใหญ่ทำให้วุ่นวายหัวใจ ทั้งๆที่พรรคเพื่อไทยก็มีกติกามาตั้งแต่ก่อนร่อนชะไรเมื่อเป็นพรรคไทยรักไทยและข้อตกลงเพื่อไทยก็มีชัดเจนบรรดารัฐมนตรีที่ไม่ยอมลาออกจากส.ส.จึงหลุดครบชุด (ยกเว้นส.ส.บัญชีรายชื่อตำแหน่งยุทธศาสตร์อย่าง ย.ย.ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ) เป็นต้น ตั้งแต่ กิติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม)
, พรศักดิ์ เจริญประเสริฐ (เสี่ยลาว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) , กฤษณา สีหลักษณ์ (รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) ส่วนบรรดาผู้แสดงสปิริตลาออกจากส.ส.ไม่ให้เกิดเรื่องกวนใจนายใหญ่เริ่มจากนายตำรวจใหญ่ใจนักเลงผู้ลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อคนแรกคือ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตามมาด้วย วิฬุร เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังนั่งว่าการอยู่สบาย แถมยังได้รับคำขอบคุณผ่านสายจากนายใหญ่เป็นกำลังใจอีกต่างหากที่ปฏิบัติตามกติกาไม่ต้องให้นายกฯมาคอยเขี่ยวเข็ญ


รัฐมนตรีที่หลุดด้วยเหตุนี้บางคนพอรู้ข่าวก็หนาวๆร้อนๆเหมือนเป็นไข้จึงกระแอมกระไอเอ่ยคำหวานว่า
แล้วทำไมนายไม่บอกให้ออกเล่า? “เกจิอาจารย์ผู้วิเคราะห์สถานการณ์พรรคนั่งทางในบอกว่า นักบริหารระดับสูงต้องรู้เอง และต้องรู้จักเกรงใจนายใหญ่ที่มีลูกน้องตาเป็นกรอบที่ชอบฟ้องปัญหาบ้านเมืองก็มากมายแต่ยังจะมีปัญหากวนกายกวนใจมาให้ท่านแก้กันทุกวันกับเรื่องเล็กๆน้อยๆได้อย่างไร เป็นถึงระดับรัฐมนตรีแต่ไม่มีวุฒิภาวะกล้าหาญพอที่จะตัดสินใจเอาอย่างใดอย่างหนึ่งจึงถูกปลดไง...เข้าใจไหม?


กลุ่มที่สอง ชอบระหองระแหงเป็นที่รู้กันว่ากว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีก็ยากแสนยาก นายใหญ่เขาลำบากอุตส่าห์ตั้งให้ไปทำงานทั้งๆที่ไม่ค่อยจะเคยแสดงผลงานการเป็นส.ส.เลยในอดีต เรียกว่าบุญหล่นทับ
,นายตั้งให้ไปทำงานแต่ดันไปจัดทัพทะเลาะกันในกระทรวงทำให้ปวงประชาอิดหนาระอาใจ ทำให้นายใหญ่วุ่นวายใจพูดไม่ออก,นายใหญ่ต้องประสานใจลูกน้องที่มากมายไม่อยากตำหนิใครว่าถูกหรือถูกน้อยกว่าเลยผ่าทั้งทรวงยกระบิแบบนักบริหาร C.E.O.คือ ออกยกชุด ตัวอย่างเช่น กระทรวงศึกษาธิการแต่น่าสงสารที่ป้ารื่นต้องหน้าชื่นอกตรมเพราะอยู่ในวังวนน้ำเชี่ยวด้วยเลยซวยไป ส่วนเสี่ยฮะ(สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล) เลยต้องไปนั่งสภาอัดบุหรี่ให้ริมฝีปากดำคล้ำขึ้นไปอีก ส่วน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการ ท่านทำบุญมามากแม้จะตกสวรรค์แต่ยังค้างอยู่ชั้น 555 สำนักนายกฯหักอกจึงไม่หมองไหม้ นับแต่นี้ไปจึงขอให้ท่านทั้งหลายใฝ่ใจทำงานกันให้มากๆ จะได้ไม่ลำบากเป็นรัฐมนตรี 4 เดือนกว่า


กลุ่มที่สาม กลุ่มงานเข้าดันไปขวางนโยบายเช่น ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล นั่งอยู่คลังแต่ยังฝันอยากเป็นผู้ว่าแบงค์ชาติตัดไม่ขาดเพราะเคยเป็นรองผู้ว่าแบงค์ชาติมาก่อน ส่วนลึกในใจจึงยังใฝ่ฝันสูงสุดตามแนวของคนอยู่ตลาดหลักทรัพย์ เช่นประสาร ไตรรัตน์วรกุล พอเจอนโยบายให้นำหนี้กองทุนฟื้นฟูกลับไปอยู่กับธนาคารชาติดังเดิมเลยเดินไม่ถูกจึงจำเป็นต้องกลับไปเลี้ยงลูกที่บ้านชั่วคราวก่อน
,แต่การหลุดจากตำแหน่งของกลุ่มนี้ส่งผลให้เกิดการปรับ ค.ร.ม. กว้างจึงต้องย้ายนายห้างจากกระทรวงพาณิชย์มาแทนคลังบุญเลยหล่นทับบุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่ไม่อาจจะทรงตัวในฐานะรัฐมนตรีช่วยคลังอีกต่อไปได้จึงต้องไปนั่งเสวยบุญในตำแหน่งใหญ่ว่าการแทนที่พาณิชย์ แรงกระเพื่อมไปถึงกลาโหมแต่ยังเกรงใจคนใหญ่อย่างยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ดูท่าเก้ๆกังๆเลยต้องส่ง สุกำพล สุวรรณทัต ไปขึ้นฝั่งกลาโหมแทน
แหล่งข่าวเจาะลึกมีมากกว่านี้แต่เพื่อไม่ให้แฟนคลับจับสายงานปิดลับได้ว่ามาจากทางไหนจึงขอลาไปก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น