Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

กรณี อู่ตะเภา เฉาะลึก สังคมไทย ไทยฆ่าไทย

คอลัมน์ มติชน 30 มิถุนายน 2555

ไม่ใช่เรื่องอันสร้างความหวาดระแวงให้กับจีน หากไทยยินยอมให้

นาซาเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อสำรวจภูมิอากาศ

ไม่ใช่

ที่ว่าไม่ใช่ เพราะจีนก็มีประสบการณ์เรื่องนี้อยู่แล้วเป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่ยิน ยอมให้ไมโครซอฟท์ไปจัดตั้งสถาบันเพื่อทำงานวิจัยและสร้างนวัตกรรม

หากแต่ในปี 2547 ก็ยินยอมให้นาซาใช้ฮ่องกงเป็นฐานในการบิน

ไม่เพียงแต่บินบริเวณชั้นบรรยากาศเหนือฮ่องกง หากแต่ยังครอบคลุมไปไกลถึงน่านน้ำและน่านฟ้าของญี่ปุ่น

จีนมีประสบการณ์เรื่องนี้อยู่แล้ว

และไม่ใช่เรื่องที่หวั่นเกรงว่านาซาจะเข้าล่วงล้ำน่านน้ำ น่านฟ้า กัมพูชาและสิงคโปร์ อย่างที่ยกมาเอ่ยอ้าง เพราะความหวั่นเกรงอันมาจากหน่วยงานความมั่นคงไม่ว่ากองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เช่นนี้ ก็กำชับผ่านสหรัฐและนาซาไปแล้ว

และได้รับคำยืนยันจากกัมพูชา สิงคโปร์ ว่าไม่ขัดข้อง

ปัญหาจากจีนจึงเสมอเป็นเพียงการยกขึ้นมาแสดงความวิตก เหมือนกับการยกปัญหาจากสิงคโปร์และกัมพูชาอันเป็นปัญหาที่ไม่ได้มีอยู่ในทางเป็นจริง

เรื่องจริงคือปัญหาไทย



ที่ออกมาประสานเสียงต่อต้าน คัด ค้านอย่างแข็งขัน ยกจีน ยกกัมพูชา ยกสิงคโปร์ ขึ้นมาก็เสมอ
เป็นเพียงน้ำยาบ้วนปาก

แท้จริงก็คือจะค้านรัฐบาล

ทั้งๆ ที่รู้อยู่เป็นอย่างดีว่าปัญหาความมั่นคงเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้น้อยมากภายใต้การสำรวจชั้นบรรยากาศ

ยิ่งเรื่องขีปนาวุธยิ่งเลอะเทอะ

เพราะว่าความร่วมมือระหว่างนาซากับองค์กรทางวิชาการของไทยในเรื่องภูมิอากาศทำกันมานานแล้ว

อย่างน้อยความร่วมมือระหว่างศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สตาร์ท) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับนาซาก็ทำร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2506

หากมีเจตนาจะล้วงตับก็ไม่เหลืออะไรให้ล้วงแล้ว

น่าเสียดายก็เพียงแต่การประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อ่อนด้อย น่าเสียดายก็เพียงแต่การประชา สัมพันธ์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อ่อนด้อย

จึงกลายเป็นเหยื่อ


ปัญหาทั้งหมดอันทำให้โครงการ การศึกษาเมฆและฝุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ประสบความสำเร็จเพราะว่าดำเนินการโดยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เรื่องของเมฆจึงกลายเป็นเรื่องการเมือง

เรื่องของชั้นบรรยากาศจึงกลายเป็นการส่งเครื่องบิน ER2 บินสูงกว่า 21 กิโลเมตร เพื่อสำรวจแหล่งพลังงานธรรมชาติให้เชฟรอน

ดึงเชฟรอนสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ดึงโครงการซึ่งมีจุดเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 ในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้กลายเป็นการต่อรองเรื่องวีซ่าเข้าสหรัฐของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

น่ายินดีที่กองทัพไม่เล่นกับพรรคประชาธิปัตย์

น่ายินดีที่นักวิชาการ ไม่ว่าจะเป็นที่ จิสดา ไม่ว่าจะเป็นที่จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ไม่ประสานเสียงร้องทำนองเดียวกันกับพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตร

แม้จะได้เสียงหนุนอบอุ่นเพียงนี้ แต่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไปไม่เป็น ไปไม่ถูก

ไปไม่เป็น ไปไม่ถูก เพราะติดฝันร้ายจากพรรคไทยรักไทย ฝันร้ายจากพรรคพลังประชาชน เมื่อเห็นพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรดาหน้ากันออกมาต้าน

ฝันร้ายว่าจะถูกสอย (อีกแล้ว)


คล้ายกับกรณีสนามบินอู่ตะเภาเป็นเรื่องเก่าๆ เป็นเรื่องคนหน้าเดิม เป็นเหตุผลเดิมๆ ตั้งแต่ปี 2549

กระนั้น กรณีสนามบินอู่ตะเภาก็ทำให้นึกถึงปราสาทพระวิหาร ทำให้มองทะลุไปยังรากเหง้าอันเป็นต้นตอของปัญหาที่สะสมและหมักหมมอยู่อย่างยาวนาน

ไทยฆ่าไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น