ขณะนี้ผมอยู่ที่เยอรมันกำลังตระเวนเยี่ยมเยือนและรับฟังความเห็นประชาชนตนไทยในEUในโครงการจากใจถึงใจในยุโรปควบคู่ไปกับการไปพบกับประธานศาลและอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ(ICC) ได้พบว่าคนไทยที่นี่หลายประเทศได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่สถานทูตและสถานกงสุลบางแห่ง ซึ่งกลับไทยแล้วจะนำปัญหารายงานรมว.ต่างประเทศ จากเยอรมันก็จะเดินทางไปต่อเดนมาร์ก นอรเวย์และฟินแลนด์
ผมไปทำงานในหน้าที่ของกรรมาธิการการต่างประเทศด้วยทุนของผมเองเพราะปีนี้น้ำท่วมสภาไม่มีงบแต่เพื่อน ส.ส.ปชป. ก็ไล่ตามกัดผมสกัดหน้าสกัดหลังโดยเฉพาะ"โค"ษกและอดีตโคฯว่าจะตรวจสอบผมเริ่มต้นก็ว่าผมผิดเพราะใช้งบหลวงไปท่องเที่ยว พอรู้ว่าเป็นงบส่วนตัวก็ว่าผิดหาว่าไปในนามประธานกรรมาธิการไม่ได้ขออนุญาต คล้ายกับอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ยื่นถอดถอนพาดพิง ส.ส.จตุพร พอจตุพรจะชี้แจงก็ขัดขวางอ้างว่าการกล่าวหาเป็นความลับ ตกลงเพื่อน ปชป. จะเล่นการเมืองแบบนี้ใช่ไหม? (ชอบตีเขาข้างเดียวไม่เค้าได้ปกป้องตัวเองบ้างเลย) ขอฝากคำถามมาถึงเพื่อน ปชป. ผ่านทาง Facebook ด้วย ส่วนเรื่อง ICC. ปชป.ไม่ต้องตกใจ ผมกำลังจะช่วยคุณอภิสิทธิ์และสุเทพให้มีทางเลือกเพื่อความเป็นธรรม
----------
ข่าวที่เกี่ยวข้องอ้างอิงจาก http://www.thaidragonnews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=11573:2-&catid=48:2&Itemid=87
พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้กรณีนายสุนัย จุลพงศธร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ ในส่วนพรรคเพื่อไทย ที่จะเดินทางไปกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อยื่นฟ้องคดีการเสียชีวิต 91 ศพ จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2553 ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ในวันที่ 9 ธันวาคม
ปชป.โต้91ศพไม่เข้าเกณฑ์ศาลโลก
โดยนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงกรณีดังกล่าวว่า พรรคขอเตือนนายสุนัย อย่าเดินทาง ไปให้เปลืองงบหลวง เพราะประเทศไทยไม่ใช่ภาคีศาลโลก อีกทั้งคดีดังกล่าวไม่อยู่ในสาระที่ศาล โลกจะพิจารณา คือ ไม่ใช่คดีเกี่ยวกับความมั่นคง หรือเป็นภัยต่อมนุษยชาติ ไม่ได้เป็นสงครามระหว่างประเทศ ไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และไม่ใช่การใช้กำลังรุนแรงต่อผู้ไม่มีทางต่อสู้ แต่ถ้านายสุนัยยังดึงดันจะไปขอให้ ไปเบิกงบประมาณจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่าใช้งบของคณะกรรมาธิการในการลวงโลก และถ้าไปจริง ตนจะติดตามเอาผิดคนที่เอาเงินหลวงไปละเลงทิ้งน้ำ
ท้ารบ.เร่งคดีเผาเมืองทุกคดี
นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า ส่วนการที่รัฐบาลเร่งรัดคดีผู้เสียชีวิต 13 ศพ ตนขอให้เร่งรัดในทุกคดีด้วย รวมถึงการตาย 91 ศพ ที่พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิต รวมถึงคดีเผาบ้านเผาเมือง เผาสถานีโทรทัศน์ เผาสถานที่ราชการต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้
อัดสุนัยทำพลการไม่เสนอกมธ.
เช่นเดียวกับ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ กมธ.การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงเรื่องเดียวกันว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ได้หารือกับสมาพันธ์พรรคเสรีประชาธิปไตยอาเซียน ซึ่งเป็นภาคีอาซียน 10 ประเทศ กรณีการดำเนินการของนายสุนัย และมีความเห็นว่า เป็นการดำเนินการต่อเนื่องหลังนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยไป กรุงเฮก และพยายามทำหนังสือไปถึงสมาพันธ์พรรคเสรีนิยมโลก ซึ่งมีภาคีกว่า 140 ประเทศ แต่ถูกยับยั้งจากสมาพันธ์ เพราะประธานสมาพันธ์อยู่ที่รัฐสภาไทย ในวันที่นายสุนัยปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงบุกรัฐสภาเข้ามาพร้อมอาวุธ จึงรู้เห็นทุกอย่าง
แฉแก้เกี้ยวหลังดันกม.นิรโทษเหลว
ผมในฐานะ กมธ.ต่างประเทศ ยืนยันว่า เป็นการดำเนินการโดยพลการ เพราะนายสุนัยไม่เคยเอาเรื่องเข้าหารือในกมธ.เลยแม้แต่ครั้งเดียว และก่อนหน้านี้ นายสุนัยมีความพยายามเดินทางไปสหภาพยุโรปด้วย แต่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ ระงับไว้ เพราะระหว่างสมัยประชุมจะไม่ตั้งงบดูงานต่างประเทศให้ เรื่องนี้เป็นความพยายามผลักดัน หลังจากที่ผลักดันร่างพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษไม่สำเร็จ เพราะถูก จับได้ จึงเปลี่ยนไปเดินทางขับเคลื่อนในเวทีต่างประเทศ นพ.บุรณัชย์ระบุ และย้ำว่า เรื่องที่นายสุนัยจะนำไปฟ้องศาลโลกนั้น ไม่เข้าเงื่อนไขที่ศาลโลกจะรับเรื่องไว้พิจารณา เหตุผลเดียวที่ไปคือ เพื่อบิดเบือนความเสียหายที่เกิดกับทรัพย์สินและเจ้าหน้าที่
จี้สุนัยแจง-ให้ใช้งบส่วนตัว
นพ.บุรณัชย์กล่าวด้วยว่า การประชุม กมธ. วันที่ 30 พฤศจิกายน จะสอบถามนายสุนัยว่า ทำไมไม่นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม แม้เสียงข้างมากยอม แต่มีบันทึกการประชุมเสียงข้างน้อยไม่เห็นด้วยอยู่ และถ้าทำกันเป็นการสอดรับควรเบิกงบส่วนตัวและงบจาก พรรคเพื่อไทยไป รวมทั้งจะถามว่าพฤติกรรมของนายสุนัย นำความเสื่อมเสียมาสู่สถาบันรัฐ และกมธ.หรือไม่ เพราะการอ้างปธ.กมธ.ต่างประเทศเป็นการแอบอ้างฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนการตั้งงบเบิกเงินหลวงไม่สมควร เพราะตั้งงบเพื่อช่วยคนๆเดียว
ผบ.ทบ.ติงพท.ดูความเหมาะสม
มีความเห็นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กรณีนายสุนัยยื่นฟ้องคดีเสียชีวิต 91 ศพ ต่อศาลโลกว่า เรายอมรับในกระบวนการยุติธรรม กระบวนการประชาธิปไตยอยู่แล้ว ตนไม่ขัดข้อง ทำได้ก็ทำ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องในประเทศ กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยใช้ได้และทำได้ดีอยู่แล้ว ส่วนจะสร้างความขัดแย้งเพิ่มหรือไม่ ทุกคนทราบดีแยู่แล้ว นายสุนัยเป็นสส.ย่อมรู้ว่า อะไรควรหรือไม่ ถ้าเห็นสมควรนำออกไป ก็เป็นสิทธิ ผมในฐานะ ผู้ปฏิบัติต้องติดตามสถานการณ์ ผมและเจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือในกระบวนการยุติธรรมทุกเรื่องทุกรูปแบบ แต่สส.หรือรัฐบาลต้องดูแล ให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย ผบ.ทบ.กล่าว และว่า การ ดำเนินการดังกล่าวไม่มีผลต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย มีอะไรมากกว่านี้อีกมากที่ทหารต้องอดทนเพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามทุกรูปแบบ
-------------------------------------
ข่าวจากไทยรัฐออนไลน์
ปชป.ปูด'สุนัย' อ้าง ปธ.กมธ.ฟ้องศาลโลกคดี91ศพ
“บุรณัชย์” ปูด “สุนัย” อ้างชื่อ ปธ.กมธ.ตปท.ฟ้องศาลโลก แก้ลำชง “ฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ" เข้าหารือใน กมธ. แฉใช้ทีม กม.ของพรรคเพื่อไทยแต่ไม่มี จนท.กมธ.ไปด้วย ยัน กมธ.คนอื่นๆ ไม่รับรู้การแอบอ้างใช้ตำแหน่ง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะกรรมาธิการการต่างประเทศ (กมธ.) กล่าวถึงกรณี นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.การต่างประเทศ เตรียมเดินทางไปศาลโลกเพื่อฟ้องคดี 91 ศพ โดยระบุว่า เป็นการดำเนินการในฐานะประธาน กมธ.การต่างประเทศและจะใช้งบประมาณส่วนตัวในการเดินทางไปนั้น ตนขอยืนยันว่า ความสูญเสียในช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงเดือน เม.ย. และ พ.ค.ปี 2553 ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย อาทิ ผู้เคลื่อนไหวในการชุมนุมทั้งในและนอกประเทศ และเจ้าหน้าที่ เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ก็ยืนยันถึงการให้ความร่วมมือด้วยการเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในคดี 13 ศพ แต่การที่นายสุนัยจะเดินทางไปศาลโลก ก่อนที่จะมีการสอบสวนในประเด็นดังกล่าว จึงเห็นได้ชัดว่า มีวาระแอบแฝงทางการเมือง ในขณะที่ข้อมูล ข้อเท็จจริงยังไม่ได้มีการสืบสวน จากกระบวนการยุติธรรมในขั้นต้นแต่อย่างใด
“การเดินทางไปให้ข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการทางกฎหมายและยังแอบอ้างว่า ดำเนินการในฐานะที่เป็นประธาน กมธ.การต่างประเทศของสภาฯ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นข้อมูลที่เชื่อถือไม่ได้ และยังจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ประเทศและกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และเรื่องนี้ยังไม่เคยนำเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุม กมธ.แม้แต่ครั้งเดียว ทั้งคดี 13 ศพ หรือ 91 ศพ ตามที่นายสุนัยกล่าวอ้าง เพราะฉะนั้นจึงมิชอบที่นายสุนัยจะเดินทางไป โดยแอบอ้างว่าดำเนินการในฐานะประธาน กมธ.การต่างประเทศ ซึ่งเมื่อนายสุนัยกลับมา ตนจะเสนอญัตติด่วนต่อ กมธ. เพื่อพิจารณาเรื่องที่อยู่ในเวทีประชาคมนานาชาติ ซึ่งค้างมาจากรัฐบาลในอดีต แต่เมื่อนายสุนัยยืนยันที่จะดำเนินการในสัปดาห์นี้ ก็อยากให้ชี้แจงกรณีฆ่าตัดตอน เพราะเรื่องดังกล่าว ผู้รายงานพิเศษต่อสหประชาชาติว่าด้วยการเสนอกฎหมายการสังหารอย่างรวบรัด และการสังหารโดยพลการของกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยระบุการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการประกาศสงครามยาเสพติดว่า อาจมีผู้เสียชีวิตโดยการกระทำโดยพลการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผ่านการสั่งการจากผู้กำหนดนโยบายในขณะนั้น ซึ่งอยู่ในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทั้งยังมีการสรุปเป็นภาษาอังกฤษว่า เรื่องดังกล่าวนั้นอาจเข้าข่ายละเมิดข้อตกลงว่าด้วยสิทธิมนุษยชนตามที่ ประเทศไทยได้ลงนามร่วมกันในปฏิญญาสากลปี 2491 มาตรา 1” นพ.บุรณัชย์ กล่าว
นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น การที่นายสุนัยจะไปก็อยากให้นำรายงานฉบับดังกล่าวเข้าไปชี้แจงด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ยังค้างจากการดำเนินการของรัฐบาลในอดีต ที่พวกของนายสุนัยเองก็มีส่วนในการบริหารประเทศ และอาจมีส่วนต่อความรับผิดชอบถึงการสูญเสียกว่า 2,500 ศพที่เกิดขึ้น ส่วนการจะทำหนังสือแย้งต่อกรณีนี้หรือไม่นั้น ต้องรอ เพราะการเดินทางไปนั้นก็ไม่ได้นำเจ้าหน้าที่กมธ.ไปด้วย แต่นำทีมงานฝ่ายต่างประเทศของพรรคเพื่อไทยไป ซึ่ง กมธ.การต่างประเทศจะสอบถามไปยังศาลโลกโดยตรงว่า การชี้แจงในเรื่องดังกล่าวมีเรื่องใดที่เป็นข้อเท็จจริง และเรื่องนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ทันทีที่ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แต่เมื่อถูกทักท้วงว่าไม่เหมาะสม การประชุม กมธ.การต่างประเทศครั้งต่อมา กลับไปประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ และได้นำเรื่องดังกล่าวไปพูดคุยกับ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ โดยไม่มีการประชุม กมธ.ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เข้าข่ายการแอบอ้างตำแหน่งประธานกรรมาธิการเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า โดยหลักแล้วผู้ที่มีตำแหน่งประธาน กมธ. จะดำเนินการใดนั้น ถ้าจะใช้ชื่อ กมธ.คนอื่นๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะรับทราบ แต่เรื่องนี้ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่จนถึงวันนี้ ก็ทราบว่าไม่เคยนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กมธ.แม้แต่ครั้งเดียว ก็ต้องถามนายสุนัยว่าแอบอ้างหรือไม่.
----------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น