พระราชประวัติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยกรุงธนบุรี เสด็จพระราช สมภพ ณ วันที่ 17 เมษายน พุทธศักราช 2277 ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศพระองค์ทรงเป็นสามัญชน กำเนิดในตระกูลแต้ มีพระนามเดิมว่า สิน พระราชบิดาเป็นจีนชื่อ ไหฮอง เดินทางจากประเทศจีนมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย แล้วได้สมรสกับหญิงไทยชื่อ นางนกเอี้ยง มีหลักฐาน บันทึกว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเคยเป็นพ่อค้าเกวียนผู้ทรงปัญญาเฉลียวฉลาด และมีความสามารถด้าน กฎหมายเป็นพิเศษ ได้ช่วยกรมการเมืองชำระถ้อยความของราษฎรทางภาคเหนืออยู่เนืองๆ เนื่องจากได้ทำ ความดีมีความชอบต่อแผ่นดิน จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็น เจ้าเมืองตากในเวลาต่อมา ในปีพุทธศักราช 2308 - 2309 พระยาตากได้นำไพร่พลลงมาสมทบเพื่อป้องกันกรุงศรีอยุธยาระหว่าง ที่พม่าล้อมกรุงอยู่ ได้ทำการต่อสู้จนเป็นที่เลื่องลือว่า เป็นแม่ทัพที่เข้มแข็งมากที่สุดคนหนึ่ง และได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นพระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชร ในวันที่ 4 มกราคม พุทธศักราช 2310 (ก่อนที่จะเสียกรุงศรีอยุธยา ให้แก่พม่าประมาณ3 เดือน) พระยาตากได้รวบรวมกำลังตีฝ่าวงล้อม ของพม่าไปตั้งมั่น เพื่อที่จะกลับ มากู้เอกราชต่อไป จากหลักฐานตามพระราชพงศาวดาร พระยาตากได้รวบรวมไพร่พลประมาณ 500 คน มุ่งไปทาง ฝั่งทะเลทางทิศตะวันออก ระหว่างเส้นทางที่ผ่านไปนั้นได้ปะทะกับกองกำลังของพม่าหลายครั้ง แต่ก็สามารถ ตีฝ่าไปได้ทุกครั้ง และสามารถรวบรวมไพร่พลตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ในวันที่ 8 เมษายน พุทธศักราช 2310 พม่ายึดกรุงศรีอยุธยาได้ เจ้าเมืองใหญ่ๆพากันตั้งตัวเป็นเจ้าและควบคุมหัวเมืองใกล้เคียง ไว้ในอำนาจ หลังจากพระยาตากยึดเมืองจันทบุรีได้ ก็ได้ประกาศตั้งตัวเป็นอิสระ และจัดตั้งกองทัพขึ้นที่นี่ โดยมีผู้คนสมัครใจเข้ามาร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งนายสุดจินดาซึ่งต่อมาได้รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในรัชกาลที่หนึ่ง หลังฤดูมรสุมในเดือนตุลาคม พุทธศักราช 2310 พระยาตากได้ยกกองทัพเรือออกจากจันทบุรีล่องมา ตามฝั่งทะเลในอ่าวไทย จนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา และได้ต่อสู้จนยึดกรุงธนบุรีคืนจากพม่าได้ ต่อจากนั้น ได้ยกกองทัพเรือต่อไปถึงกรุงศรีอยุธยา เข้าโจมตีค่ายโพธิ์สามต้น เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2310 และสามารถกอบกู้เอกราชให้ชาติไทยได้เป็นผลสำเร็จ โดยใช้เวลาเพียง 7 เดือนนับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยา ให้กับพม่า หลังจากนั้น ได้ทรงเลือกกรุงธนบุรีเป็นราชธานี เนื่องจากทรงเห็นว่ามีชัยภูมิดี ประกอบกับ กรุงศรีอยุธยาเสียหายหนัก จนยากแก่การบูรณะ ให้เหมือนเดิม ต่อมาในปีพุทธศักราช 2311 ได้ทรงปราบดา ภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระบรมราชาที่ 4" แต่ประชาชนนิยมเรียกว่า "พระเจ้าตากสิน" ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีการทำศึกสงครามอยู่เกือบตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อรวบรวมแผ่นดิน ให้เป็นปึกแผ่น และขับไล่พม่าออกจากราชอาณาจักร ถึงแม้ว่าบ้านเมืองจะอยู่ในภาวะสงครามเป็นส่วนใหญ่ แต่สมเด็จพระเจ้าตากสินก็ยังทรงมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประเทศในด้านต่างๆ เช่น ด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจและสังคม ได้มีการติดต่อค้าขายกับประเทศต่างๆ เช่น จีน อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ ได้โปรดให้มีการ สร้างถนนและขุดคลอง เพื่ออำนวยความสะดวกในการคมนาคม นอกจากนั้นยังทรงส่งเสริมทางด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรมและวรรณกรรม รวมทั้งการศึกษาในด้านต่างๆ ของประชาชนอีกด้วย หลังจากครองราชย์ได้ประมาณ 15 ปี ได้มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นเหตุให้รัชสมัยของพระองค์ต้อง สิ้นสุดลง สมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พุทธศักราช 2325 ขณะที่มีพระชนมายุได้ 48 ปี ต่อจากนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นปฐมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์จักรี และได้ทรงย้ายราชธานีมาฝั่งกรุงเทพมหานคร เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดินไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะได้ ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี (ซึ่งตรงกับวันที่ทรงปราบ ดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์) เป็น "วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน" นอกจากนั้นคณะรัฐมนตรียังมีมติให้ถวาย พระราชสมัญญานามว่า"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" เหตุการณ์ต่าง ๆ ในสมัย ของพระองค์ |
ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งแต่ พุทธศักราช 2310 ไปจนถึง พุทธศักราช 2325 ได้มีการทำศึกสงครามเกือบตลอดเพื่อรวบรวม ป้องกัน และขยายพระราชอาณาเขต สำหรับเหตุการณ์ที่สำคัญๆ อาจจะสรุปได้ดังนี้ | |
พุทธศักราช 2310 | การเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 การประกาศอิสรภาพหลังจากที่รบชนะพม่าที่ค่ายโพธิ์สามต้น การสถาปนากรุงธนบุรีศรีมหาสมุทรเป็นเมืองหลวง พม่ายกกองทัพมาตีไทยที่บางกุ้ง |
พุทธศักราช 2311 | การเถลิงถวัลยราชสมบัติของสมเด็จพระเจ้าตากสิน การยกกองทัพขึ้นไปตีกลุ่มเมืองพิษณุโลก กลุ่มพระฝางยกกองทัพลงมาตีกลุ่มเมืองพิษณุโลก การยกกองทัพขึ้นไปตีกลุ่มเมืองพิมาย |
พุทธศักราช 2312 | กรุงศรีสัตนาคนหุตแต่งเจ้าหน่อเมืองนำเครื่องราชบรรณาการมาขอเป็นเมืองขึ้น การยกกองทัพขึ้นไปตีเขมร การยกกองทัพไปตีเมืองนครศรีธรรมราช |
พุทธศักราช 2313 | การยกกองทัพขึ้นไปตีกลุ่มเมืองสวางคบุรี พม่ายกกองทัพลงมาตีเมืองสวรรคโลก การยกกองทัพขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ 1 |
พุทธศักราช 2314 | การสร้างกำแพงเมืองกรุงธนบุรี การยกกองทัพไปตีเขมร |
พุทธศักราช 2315 | พม่ายกกองทัพมาตีเมืองพิชัย ครั้งที่ 1 |
พุทธศักราช 2316 | การสักเลก (ไพร่หลวง ไพร่สม และเลกหัวเมือง) พม่ายกกองทัพมาตีเมืองพิชัย ครั้งที่ 2 |
พุทธศักราช 2317 | การยกกองทัพขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ 2 พม่ายกกองทัพมาตีบางแก้ว (แขวงเมืองราชบุรี) |
พุทธศักราช 2318 | พม่ายกกองทัพมาตีเมืองพิษณุโลก |
พุทธศักราช 2319 | กบฎเมืองนางรอง และการยกกองทัพไปปราบหัวเมืองลุ่มแม่น้ำโขง พระเจ้าตากทรงเริ่มการเจริญวิปัสสนากัมมัฎฐาน |
พุทธศักราช 2320 | การสถาปนาเจ้าพระยาจักรีขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก |
พุทธศักราช 2321 | กรุงศรีสัตนาคนหุตแต่งทัพมารบกับพระวอที่หนองบัวลำภูและที่ดอนมดแดง |
พุทธศักราช 2322 | การยกกองทัพขึ้นไปตีเมืองเวียงจันทน์ การอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร พระแก้วมรกตและพระบางมาสู่กรุงธนบุรี |
พุทธศักราช 2323 | การจลาจลวุ่นวายในเขมร กบฎวุ่นวายในกรุงธนบุรี |
พุทธศักราช 2324 | การยกกองทัพขึ้นไปตีเขมร ความวุ่นวายภายในกรุงธนบุรี กบฎพระยาสรรค์ สงครามกลางเมืองระหว่างพระยาสรรค์และพระยาสุริยอภัย |
พุทธศักราช 2325 | การพิจารณาปัญหาเรื่องสมเด็จพระเจ้าตากสิน การสิ้นสุดของสมัยกรุงธนบุรี |
ในวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ประชาชนชาวไทย ควรน้อมรำลึกถึงบุญคุณของพระเจ้าตากสินมหาราชที่สร้างชาติควรจะรู้รักสามัคคีต่อกันไม่ทะเลาะแตกแยก รู้รักสงบเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ประเทศไทยให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน...สืบต่อไป
ประชาชนชาวไทยวันที่ 28 ธันวาคม ไปสักการะพระบรมรูปของพระองค์ท่านเพื่อน้อมรำลึกบุญคุณถึงพระองค์ที่จังหวัดจันทบุรี ในกรุงเทพมหานคร วงเวียนใหญ่ฝั่งธนฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น