Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ไม่เอาเลือกตั้ง! แล้วจะเอาระบอบอะไร ?


จาก โลกวันนี้ วันสุข ปีที่ 9 (14) ฉบับที่ 415 วันที่ 8-14 มิถุนายน พ.. 2556



ประกาศขณะนี้ทางเพจ V For Thailand ต้องการสมาชิกเพิ่มอีกจำนวนมากเพื่อที่จะสามารถดำเนินกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกท่านเชิญชวนเพื่อนๆเข้ามากด Like และ Shareข้อความนี้ออกไปให้ได้เยอะที่สุด

ข้อความในเพจ V For Thailand ที่สร้างกระแสหน้ากากขาวโดยใช้สัญลักษณ์ กายฟอคส์” (GuyFawkes) ในโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตอนนี้หลังจากเราเปิดตัวออกไปแล้ว เพจเราเป็นเป้าโจมตีทันที แต่เพื่อความพร้อมที่เราจะยืนหยัดสู้ต่ออำนาจมืด และเพื่อไม่ให้เพจถูกปิด เราจะต้องอาศัยแรงของนักรบหน้ากากขาวทุกท่าน ช่วยกระจายข้อความและคำประกาศนี้ออกไปให้ได้เยอะที่สุด
 

เป้าหมายของแอดมิน V For Thailand คือต้องการให้มีการจัดกิจกรรมรวมพลในแต่ละจัง

หวัดให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด หลังจากจัดกิจกรรม ยุทธการประกาศศักดารวมพลใหญ่คนหน้ากากครั้งแรกที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยแอดมิน V For Thailand ผู้จัดกิจกรรมกล่าวก่อนเริ่มกิจกรรมว่า
 

วันนี้ผมและคุณจะออกไปเป็นประกายไฟ

แรกที่ลามลุกให้เกิดแสงสว่างแห่งความถูกต้องความดีงาม และความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ขอให้ออกมา ออกมา และก็ออกมา ออกมากู่ก้องให้โลกได้รับรู้ว่าประเทศไทยของเราได้ถูกครอบงำโดยอำนาจจากการเลือกตั้ง และอำนาจนี้กำลังอาศัยคำว่าประชาธิปไตย

บังหน้า ทำการทรยศประชาชนคนไทยทั้งประเทศ กอบโกยแสวงหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋า

ของนักเลือกตั้งและพวกพ้องเพียงกลุ่มเดียว ถึงเวลาแล้วที่ภารกิจของวี (we) จะต้องกวาดล้างปลิงเหล่านี้ออกจากประเทศไทย


จุดกระแสให้ติด

กลุ่มหน้ากากขาวจะถูกมองว่าเป็นตลกร้ายหรือแค่การจัดกิจกรรม รวมพลคนหน้ากากไม่ว่าที่กรุงเทพฯ รวมถึงในจังหวัดต่างๆที่ระบุว่ามีผู้สนใจทยอยเข้าไปกดไลค์ร่วมกิจกรรมครบทุกจังหวัดนั้น อย่างน้อยก็มีผลทางจิตวิทยาให้กลุ่มหน้ากากขาวมีความคึกคักแม้แต่ละจังหวัดจะมีไม่กี่คนก็ตาม
 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า กลุ่มหน้ากากขาวได้นัดรวมพลกันอีกครั้งในวันที่ 9 มิถุนายนที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านระบอบทักษิณ ระบอบเผด็จการรัฐสภาและคอร์รัปชัน แต่อีกด้านหนึ่งก็เชื่อว่าเป็นการตรวจสอบว่าหลังจากการเคลื่อนไหวจะมีมวลชนมาเข้าร่วมมากน้อยแค่ไหน เช่นเดียวกับการประกาศจัดกิจกรรมในต่างจังหวัดที่ต้องการสร้างภาพมากกว่าจำนวนคนที่เข้าร่วม


ขณะที่ ผู้จัดการออนไลน์ได้พยายามสร้างกระแสให้กลุ่มหน้ากากขาวได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพาดหัวข่าวหรือเขียนบทความ เพื่อไม่ให้กระแสหน้ากากขาวหายไป รวมถึงชักชวนให้ซื้อสติ๊กเกอร์กาย ฟอคส์ที่ ASTV Shop บ้านเจ้าพระยาที่เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม แม้แต่ซื้อ “ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ยังมีสติ๊กเกอร์แถมในเล่ม โดยลงข้อความให้ร่วมกันขยายเครือข่ายปฏิบัติการหน้ากาก V” จากโลกไซเบอร์สู่ท้องถนนและทุกซอกมุมในสังคมด้วยการติดสติ๊กเกอร์หน้ากาก V เพื่อเป็นสัญลักษณ์การต่อต้านรัฐบาลเผด็จการภายใต้ระบอบทักษิณซึ่งเดินหน้าทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องโดยไม่ฟังเสียงประชาชน
 

เกมคนหน้าเดิม

ขณะที่ ...เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกลุ่มหน้ากากขาวว่า เป็นกลุ่มเสื้อเหลืองที่แปลงร่าง เพราะนำรูปที่ตำรวจสันติบาลถ่ายไว้ตั้งแต่มีการชุมนุมประท้วงมาเปรียบเทียบดูแล้ว ส่วนแกนนำสำคัญที่อยู่เบื้องหลังยังไม่รู้ ยังไม่โผล่หน้าออกมา เพราะยังไม่มั่นใจในพลัง จึงส่งพวกปลาซิวปลาสร้อยมาก่อน ทั้งถากถางถึงพวกไทยสปริงว่าเป็นคนหน้าเดิมที่ไม่มีงานทำ ป่วนบ้านป่วนเมือง เมื่อตัวละครไม่เปลี่ยน ใครจะเอาด้วย

 

ฝากถามว่าที่ออกมาเคลื่อนไหวจะเอาใครเป็นนายกฯ หรือจะเอาอภิสิทธิ์มาอย่างเก่าก็ไม่มีใครเอาด้วยแล้ว ไอ้ชุดนี้เป็นมะพร้าวไม่มีกะทิ คั้นมาแกงไม่ได้ ผมห่วง ไม่ได้ขู่นะไอ้พวกที่มีศัตรูเยอะแล้วออกมาเปิดประเด็นสร้างศัตรูเพิ่ม วันหนึ่งถ้ามีปัญหาอะไรอย่ามาโทษรัฐบาล


...เฉลิมยังกล่าวว่า ไม่ได้ดูถูกพวกไทยสปริงหรือหน้ากากขาว แต่รัฐบาลนี้มาตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย จะมาทำเป็นอีแอบ หากรัฐบาลเอาจริงไปดำเนินคดีก็หาว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนที่อ้างว่ารัฐบาลมีจุดตายหลายเรื่องนั้น ทำไมไม่ไปบอกนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เพื่อจะได้นำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งย้ำว่าถ้ารัฐบาลไม่ทุจริต รัฐบาลอยู่ยาวแน่ กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเหมือนลมพัดยอดหญ้า ไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล

 
แต่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ..บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)กลับมองว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อเรียกร้องความสนใจ จุดประสงค์เพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับหลายๆกลุ่มที่มีการชุมนุมและจัดสัมมนาขณะนี้ แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก และไม่เห็นด้วยที่มีกลุ่มเสื้อแดงบางส่วนสวมหน้ากากแดงชุมนุมคู่ขนานกับกลุ่มหน้ากากขาว เพราะที่ผ่านมาคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยไม่มีปิดบังอำพราง จึงไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากาก ซึ่งอาจยิ่งกระตุ้นความสนใจให้กับกลุ่มหน้ากากขาว

 

รวมพลคนเกลียดทักษิณ

ที่น่าสนใจคือคำถามที่ว่า ทำไมกลุ่มเกลียดทักษิณและต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์จึงออกมาเคลื่อนไหวอย่างเป็นลูกโซ่ขณะนี้ ซึ่งสอดคล้องกับพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม ส..ลากตั้งที่พุ่งเป้าโจมตีร่าง พ...นิรโทษกรรมและร่าง พ...ปรองดองแห่งชาติว่าต้องการช่วยคนคนเดียวคือ พ...ทักษิณ ชินวัตร และพยายามโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลว่าล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และมีการทุจริตคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง ทั้งที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนเลยก็ตาม
 

เมื่อผนวกกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว ไทยสปริง กลุ่มนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดินและเครือข่ายภาคประชาชนไทย ที่ปักหลักชุมนุมที่ท้องสนามหลวงต่อต้านรัฐบาลขณะนี้รวมทั้งการประสานกับ พล...ชัย สุวรรณภาพ และพล...วัชระ ฤทธาคนี จากองค์การพิทักษ์สยาม พล..สมเจตน์ บุญถนอม..สรรหา อดีตหัวหน้าคณะสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)พล...บรรณวิทย์  เก่งเรียน หนึ่งในสมาชิกและผู้ก่อตั้งสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ฯลฯ

 
แม้จะเป็นคนหน้าเดิม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อเหลืองหรือสลิ่ม แต่ไม่ใช่พวกปลาซิวปลาสร้อยอย่างที่ ร...เฉลิม สบประมาท แม้ขณะนี้ดูเหมือนมวลชนจะหนีหายไป แต่เบื้องหลังของทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวมีกำลังทรัพย์และอำนาจทั้งในระบบและนอกระบบจาก มือที่มองเห็นและ มือที่มองไม่เห็นพร้อมจะโค่นล้มรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยตลอดเวลาเพียงแค่ทำให้ประชาชนเริ่มไม่เชื่อและไม่พอใจรัฐบาล ไม่ว่าจะกดดันให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร หรือใช้กระบวนการตุลาการภิวัฒน์ที่ยังเป็นคนหน้าเดิมๆ

 
เช่นกันโดยเฉพาะการเดินเกมคู่ขนานระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่ม 40 .. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าการกระทำของ นายสมศักดิ์  เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และ ส..-.. 312 คน ที่ร่วมสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และมาตรา 237ถือเป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และให้ยุบพรรคการเมือง 6 พรรคคือพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังชล พรรคมหาชน พรรคประชาธิปไตยใหม่และพรรคชาติพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ ส.. และ ส.. ดังกล่าวสังกัดอยู่
 

จึงเห็นชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวทุกองคาพยพจากทุกกลุ่มทุกสีที่เกลียดทักษิณและต้องการล้มล้างระบอบทักษิณนั้น จำเป็นต้องประสานกันไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ หรือไม่เป็นเอกภาพอย่างในอดีตก่อนมีการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพราะเห็นว่ายิ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่นานก็ยิ่งมีผลงาน มีความมั่นคงและแข็งแกร่ง ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่ พ...ทักษิณจะกลับประเทศก็มีมากขึ้นด้วย

 

การเมืองไทยเหมือนวิ่งเข้าซอยตัน

เพราะกลุ่มล้มล้างระบอบทักษิณ

ไม่เอาทั้งการเลือกตั้งและ

ไม่เอาประชาธิปไตย

แล้วจะเอาระบอบอะไร? เพื่ออะไร?

เพื่อผลประโยชน์ของใคร?

ใครยุบก่อน-ใครไปก่อน

 

แม้แต่องค์กรอิสระที่เป็นหนึ่งในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องออกมาเคลื่อนไหวด้วย เพราะพรรคเพื่อไทยได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องแก้ไขทั้งที่มาและอำนาจขององค์กรอิสระใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่เพียงถูกตั้งคำถามเรื่องสองมาตรฐานมาโดยตลอด ฝ่ายการเมืองยังมีการตรวจสอบคุณสมบัติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อย่างกรณีของนายชัช  ชลวร ว่ายังคงเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่หรือไม่ หลังจากมีการประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายนันทวัฒน์ บรมานันท์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตั้งข้อสังเกตในบทบรรณาธิการเว็บไซต์กฎหมายมหาชนหัวข้อ การสลับตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ(วันจันทร์ที่ 3 ถึงวันอาทิตย์ที่16 มิถุนายน 2556) ตอนหนึ่งว่า

 
หลังจากวันที่คุณชัช ชลวร พ้นจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการแล้ว ไม่มีที่ใด ทั้งในรัฐธรรมนูญหรือในประกาศพระบรมราชโองการที่บอกว่าคุณชัชชลวร ยังคงเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่ คงมีเพียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยกันเองที่เห็นว่าคุณชัช ชลวร ยังคงเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่ และยินยอมทำงานร่วมกับคุณชัช ชลวร อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยไม่ตั้งข้อสงสัยถึงสถานะของคุณชัช ชลวร แต่อย่างใด

นายนันทวัฒน์ยังสรุปว่า ไม่ทราบว่ามีมาตราใดในรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจและหน้าที่ในการเขียนบทบัญญัติเพิ่มเติมไว้ในรัฐธรรมนูญได้ ดูๆแล้วเรื่องของนายชัช ชลวร มีลักษณะคล้ายกับเรื่องมาตรา 68 แห่งรัฐธรรมนูญ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เข้าไปเขียนบทบัญญัติเพิ่มอำนาจให้ตนเองขึ้นมาใหม่นั่นเอง

 ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็น ส.. ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (5) ประกอบมาตรา 102 (6) หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลด ร..อภิสิทธิ์ออกจากราชการเป็นนายทหารกองหนุน

 
ซอยตันการเมือง

การเมืองวันนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้กันในสภาแต่ยังใช้การเมืองนอกสภามาเคลื่อนไหวกดดันรวมถึงการดึงองค์กรอิสระที่มีอำนาจมากมายมาเป็นเครื่องมือ เพราะแม้แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยก็ยังทำไม่ได้ แตะไม่ได้ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจนวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ ไม่ว่าจะแก้ทั้งฉบับหรือรายมาตรา

 
แม้แต่รัฐบาลจะเสนอร่าง พ...ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ ก็ถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เช่นเดียวกับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ก็หนีไม่พ้นถูกยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบเช่นกัน
 

สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในสภาและนอกสภาจึงมีเป้าหมายเดียวกันคือ ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและล้มล้างระบอบทักษิณ ไม่ว่ากลุ่มหน้ากากขาวเสื้อเหลือง สลิ่มหลากสี และไทยปริง ก็ประกาศชัดเจนว่า ต้องล้มล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก


การเมืองไทยวันนี้จึงวิกฤตทั้งรัฐธรรมนูญและกระบวนการยุติธรรม เพราะกลุ่มเกลียดทักษิณและต้องการล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งระบุชัดเจนว่าการเลือกตั้งไม่ใช่จุดหมายของประชาธิปไตย

อย่างที่แกนนำพันธมิตรฯเสนอรูปแบบ การเมืองใหม่โดยลดบทบาทและความสำคัญของนักการเมืองที่ถือเป็น นักเลือกตั้ง ให้เหลือเพียง 30% ของจำนวนผู้แทนฯทั้งหมดในสภา ที่เหลือให้มาจากการสรรหา โดยเพิ่มสัดส่วนหรือจำนวนผู้แทนฯจากภาคประชาสังคมทุกภาคส่วน เหมือนข้อเสนอ แช่แข็งประเทศไทยของ พล..บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม


การเมืองไทยจึงเหมือนวิ่งเข้าซอยตันเพราะกลุ่มที่ประกาศล้มล้างระบอบทักษิณและล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่อ้างสถาบันและผูกขาดความรักชาตินั้น ไม่เอาทั้งการเลือกตั้งและไม่เอประชาธิปไตยอย่างอารยประเทศ

 
จึงต้องถามว่า แล้วจะเอาระบอบอะไร ? เพื่ออะไร? เพื่อผลประโยชน์ของใคร?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น