Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ขอปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของกสม.ทั้งคณะ


:บทความจากผู้ใช้นาม RED USA

กสม. คือคำย่อของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

แต่จากรายงานผลการตรวจสอบกรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
คณะกรรมการกสม. ชุดนี้ทุกคนตั้งแต่ตัวประธานยันกรรมการทุกคนได้สูญเสียสิทธิความเป็นมนุษย์ไปแล้วโดยสิ้นเชิง ปุถุชนคนทั่วไปไม่สามารถรับรู้หรือสัมผัสความเป็นคนของ กสม. ชุดนี้ได้แม้เพียงเงา

RED USA จึงขอประกาศปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของกสม.ให้ทราบโดยทั่วกันคือ
1. ขอปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของนางอมรา พงศาพิชญ์
2. ขอปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของนายแท้จริง ศิริพานิช
อมรา พงศาพิชญ์

แท้จริง ศิริพานิช
นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ

3. ขอปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของนายนิรันดร์ พิทักษ์วัชระ
4. ขอปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของนายปริญญา ศิริสารการ
5. ขอปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของนายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์
6. ขอปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของนายวันชัย ศรีนวลนัด
7. ขอปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของนางวิสา เบ็ญจะมโน

ปริญญา ศิริสารการ
ไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์
เอกสารที่มีความหนา 92 หน้ารายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย อัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมาเป็นเอกสารที่แสดงตัวตนแท้จริงของ กสม.ที่สังคมโลกและสังคมของผู้รักความเป็นธรรมเห็นความสำคัญของสิทธิมนุษยชนรับไม่ได้
วิสา เบญจะมโน
 
วันชัย ศรีนวลนัด
ต่างวิพากษ์วิจารณ์ก่นด่ากันไปทั้งโลกว่าไม่ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง ลำเอียงเข้าข้างอภิสิทธิ์ชน ให้ร้ายประชาชนที่ถูกเข่นฆ่าบาดเจ็บต้องคดี และถูกคุมขังจากการชุมนุมทางการเมือง อย่างไร้ยางอายไร้จิตวิญญาณของความเป็นคน

แต่กลับสร้างความชอบธรรมอย่างไร้มโนธรรม และไร้จิตสำนึกของความผิดชอบชั่วดีให้กับฆาตกร และรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชนกลางเมืองหลวงของประเทศระหว่างวันที่ 10 เมษายน 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553

กสม. ไม่ยี่หระต่อเสียงสาปแช่งที่นำความอัปยศเสื่อมเสียมาสู่ตนเอง ครอบครัว และวงศ์ตระกูลเพียงเพื่อให้ไอ้หน้าหล่อฟันเกย์ได้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหา และคดีความเท่านั้นเป็นพอ โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน และไม่ติดตามคำพิพากษาของศาลต่อคดีความต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์สังหารหมู่กลางกรุงครั้งนี้แต่ประการใด

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชุดที่มีนางอมรา พงศาพิชญ์ เป็นประธาน เป็นกสม. ชุดที่ 2 มีอายุการทำงานตั้งแต่ปีพศ.2552 ไปสิ้นสุดในปีพศ. 2558 ได้รับการสรรหาในสมัยของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2552

ในรายงานของกสม. หน้าที่ 13 อ้างว่าในวันที่ 29 เมษายน 2553 นปช. ข่มขู่คุกคามบุกรุกสถานพยาบาลปิดล้อมทางเข้า-ออก พร้อมประนามนปช. อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่า

"คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยธรรมอันเป็นกติกาสากลที่สังคมอารยะพึงยึดถือ เพราะแม้แต่ในภาวะสงครามทุกฝ่ายยังต้องเคารพเครื่องหมายกาชาดซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากล อันหมายถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ และมนุษยธรรมอย่างเป็นกลางโดยไม่เลือกปฏิบัติ"
แต่กสม.กลับกลืนน้ำลายตนเองแก้ต่างให้ศอฉ. และรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ที่สังหาร "น้องเกด" พยาบาลอาสาที่ติดเครื่องหมายกาชาดขณะช่วยปฐมพยาบาลเพื่อนร่วมชาติในเขตอภัยทาน โดยกสม. บิดความเหี้ยมโหดของศอฉ.ภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินให้กลายเป็นความชอบธรรม

จากรายงานตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย กสม. บรรยายราวกับว่า นปช. คือคนร้ายที่ละเมิดสิทธิของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ด้วยรายงานที่มีลีลาประหนึ่ง กสม. เป็นผู้ร่วมสมคบคิด ที่ต้องการหลุดรอดจากคดีการสังหารหมู่ประชาชนมือเปล่ากลางเมืองหลวงของประเทศไทยเสียเอง

กสม. กล่าวไว้ในบทสรุปที่ยืดยาวตั้งแต่หน้า 77 - 88 ว่า นปช.ใช้สิทธิการชุมนุมเกินขอบเขตของกฎหมายผิดกับที่ระบุไว้ในหน้าที่ 38 ว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ "ใช้อำนาจตามกฎหมายภายใต้ขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ให้ทำได้"

การใช้อำนาจตามกฎหมายในขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนดแต่ทำให้คนตายนับร้อยบาดเจ็บหลายพันคนยังเป็นที่ยอมรับของคณะที่เรียกตนเองว่า "กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ" ได้อีกหรือ

การฆ่าเพื่อนร่วมชาติเป็นร้อยศพกลางเมืองหลวงของประเทศ กสม. ระบุว่าเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายไดัละหรือ

การปราบปรามผู้ชุมนุมทางการเมืองอย่างสันติทำให้มีผู้พิการบาดเจ็บนับพันคน กสม. ระบุว่าเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายได้ละหรือ

หากเป็นเช่นนั้น RED USA ขอประกาศย้ำตรงนี้อีกครั้ง ขอปฏิเสธความเป็นคนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทั้ง 7 

เพราะพวกคุณก็คืออมนุษย์ที่พลีร่างกายจิตวิญญาญรับใช้ผีห่าซาตานกระหายเลือด

......หรือว่าไม่จริง

August 15, 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น