31 ตุลาคม เป็นวันสำคัญของการแลกประชาธิปไตยด้วยชีวิตของสามัญชนคนรากหญ้า การเสียสละชีวิตของลุงนวมทอง ไพรวัลย์
ไม่ได้ด้อยไปกว่าการเสียชีวิตของสืบ นาคะเสถียร เพื่อปกป้องชีวิตสัตว์ป่าที่ปัญญาชนสยามหลายคนให้ความสำคัญและหลายคนในปัญญาชนเหล่านั้นกลับสนับสนุนการรัฐประหาร 19 กันยา 49และไม่ให้ความสำคัญกับการเสียสละชีวิตของลุงนวมทอง
ถ้าเราถอดจิตใจความรักความหลงงมงายในบุคคลบางคนหรือความเกลียดในตัว พ.ต.ท.ทักษิน ออกเสียเราจะพบเนื้อแท้ว่าการรัฐประหาร 19กันยา 49 คือแก่นแท้ของระบอบเผด็จการไทยที่บ่อนทำลายการพัฒนาสังคมไทยมายาวนานแล้ว และศัตรูของประชาธิปไตยวันนี้กับในอดีตเป็นตัวเดียวกัน ดังนั้นการชิงชังระบอบเผด็จการไทยอย่างถึงเลือดถึงเนื้อถึงขนาดยอมสละชีวิตของลุงนวมทองจึงเป็นวีรบุรุษของระบอบประชาธิปไตยแห่งสามัญชนที่ผู้รักประชาธิปไตยต้องยกย่อง และควรจะใช้วันสำคัญนี้ยกระดับการมองปัญหาเชิงระบบเพื่อให้เห็นความจริงว่าระบอบการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ใกล้วันที่จะแตกสลายแล้ว และผลแห่งวิกฤตของระบอบกำลังจะแตกสลายจากโครงสร้างภายในตัวมันเองนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ แม้แต่ความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในขณะนี้ ก็เป็นความเดือดร้อนอันเกินปกติอันเป็นผลมาจากวิกฤติของระบอบที่ใกล้จะแตกดับนี้
คำว่า"น้ำการเมือง"ที่พูดถึงกันในสื่อทั่วไปก็เป็นข้อสรุปถึงปัญหาเฉพาะหน้าอันเป็นผลมาจากวิกฤตการทางการเมืองจากการรัฐประหาร 19 กันยา 49 ที่ก่อให้เกิดการแตกแยกร้าวฉานทางการเมืองยาวนานกว่า 5 ปี และยังไม่จบสิ้น ซึ่งแสดงออกที่อำนาจนอกระบบแสดงความจงเกลียดจงชังระบอบประชาธิปไตยถึงขั้นไม่ยอมรับเสียงส่วนใหญ่แล้ว(พิสูจน์จากการยึดสนามบิน ยึดทำเนียบ และสังหารประชาชนอย่างทารุณโหดร้ายโดยไม่มีความผิด)ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์คือ เมื่อเกิดภัยธรรมชาติก็พยายามที่จะใช้ภัยธรรมชาติเป็นเครื่องมือที่จะทำลายอำนาจรัฐบาลที่มาโดยชอบมากกว่าที่จะร่วมมือกัน เปรียบได้กับประเทศมีบาดแผลที่บาดลึกจากความขัดแย้งเมื่อถูกน้ำซัดใส่ก็ทั้งแสบทั้งเจ็บเกินปกติที่ควรจะเป็น
เสถียรภาพของระบอบการเมือง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการแก้ปัญหาอย่างถาวร การจัดระบบน้ำทั้งประเทศเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เรียกกันติดปากว่าเมกกะโปรเจกต์ เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ทุนมหาศาลและต้องใช้เวลายาวนาน 5-10 ปีกว่าโครงการจะสำเร็จ ซึ่งประเทศไทยโดยเฉพาะในปัจจุบันที่ระบอบกำลังจะแตกดับไม่มีทางจะทำได้เลย หากเรามองย้อนหลังกลับไปจะเห็นว่าระบอบการเมืองไทยมีอายุเฉลี่ยไม่ถึง 4 ปีทหารจะขับรถถังออกมายึดอำนาจครั้งหนึ่ง และภาวะปัจจุบันดูจะถี่กระชั้นขึ้นอีก
ผมได้ยินคำสัมภาษณ์ของนายทหารใหญ่พูดว่าทหารจะช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ หลังจากที่น้ำท่วมมานานเกือบ 3 เดือนแล้วนั้น
ผมอยากจะบอกนายทหารใหญ่นั้นว่า "ขอบคุณครับที่ยังนึกได้" แต่ถ้าจะให้ดีผมอยากจะบอกว่า "การช่วยเหลือของทหารที่ดีที่สุด และง่ายที่สุด และเป็นการช่วยอย่างถาวรที่สุดคือ โปรดอยู่เฉยๆและปล่อยให้ระบอบการเมืองเดินไป "แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆก็ขอให้ระบอบประชาธิปไตยเดินไปสัก 10 ปีได้ไหม และถ้าขอได้จะขอให้ใครสักคนที่คนในกองทัพไทยรักและเคารพช่วยพูดทีเถอะว่า
"ทหารหาญทั้งหลายเลิกรัฐประหารเสียทีเถอะประเทศชาติเสียหายมามากแล้ว"
ขอให้ผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายถ้าเห็นด้วยกับผมช่วยนำข้อความนี้ไปเผยแพร่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่ออุทิศส่วนกุศลที่เป็นความปราถนาสูงสุดให้แก่ลุงนวมทอง.......ขอบคุณมากครับ
สส.สุนัย จุลพงศธร
สีซอให้ควายฟัง ซะกระมัง
ตอบลบ