Sunai Fan Club

Sunai Fan Club
สุนัยแฟนคลับ

วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557

เทพเทือก ปิด กทม.? ทำไมไอ้โม่งต้องรีบปิดเกมส์ ภาค1




เทพเทือก ปิด กทม.? ทำไมไอ้โม่งต้องรีบปิดเกมส์
ศึกษาจากบทเรียน สุจินดา ปี’35 และ เสื้อแดงถูกฆ่า ปี’53

                                                                                                                   บทวิเคราะห์จาก สส.แดงแต่ไม่ดัง
               
คนทั่วโลกไม่เฉพาะคนไทยที่สงสัยว่าสถานการณ์การปิดกรุงเทพฯ ของม็อบเทพเทือกจะจบลงอย่างไร?
                          ตอบแบบฟังธงเลยว่า จะจบลงด้วยการรัฐประหารในรูปแบบพิเศษ “เทพประทาน” 

การเข้าใจสถานการณ์ “ม็อบก่อวิกฤตรัฐ” ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญของไอ้โม่งที่ใช้ในการล้มล้างรัฐบาล ที่ไอ้โม่งและองค์บริวารเหม็นขี้หน้าเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  แต่เป็นความสามารถเฉพาะตัวของไอ้โม่งห้ามลอกเลียนแบบ  หากคนเสื้อแดงได้อ่านบทวิเคราะห์นี้แล้วจะรู้เองว่าทำไมรัฐบาล พล.อ.สุจินดา สังหารประชาชนในปี 2535 จึงจบลงด้วยการเข้าเฝ้า?  แล้วทำไมรัฐบาล ร.ท.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สังหารประชาชนจึงจบลงด้วยคนถูกสังหารตกเป็นจำเลยไม่มีการเข้าเฝ้า  ?

เมื่อ กันยายน 2500 ไอ้โม่งและองค์บริวารเหม็นขี้หน้า รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็รอหาจังหวะล้ม ก็พอดีได้เรื่องต่อต้านกฎหมายนิรโทษสุดซอย  อุ๊ยขอโทษพิมพ์ผิด ก็พอดีได้เรื่องการต่อต้านทุจริตการเลือกตั้ง  ก็เกิดม็อบเดินขบวนขับไล่รัฐบาลจอมพล ป. (ม็อบเดินขบวนก็ไม่ต่างอะไรกับม็อบเทพเทือกเพียงแต่ขนาดเล็กกว่าตามสัดส่วนประชากรและการตื่นตัวต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในขณะนั้น)  แล้วก็ส่งสัญญาณให้ พล.อ.สฤษดิ์  ธนะรัชต์ ล้ม จอมพล ป. โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกและเกิดการเสียเลือดเนื้อประชาชน  ฟังเหตุผลดูก็คล้ายๆกับม็อบพันธมิตรที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วไอ้โม่งก็ส่งสัญญาณให้ พล.อ.สนธิ ทำการรัฐประหารล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ  เมื่อ 19 กันยา 2549  ต่างกันที่ พล.อ.สนธิ ยังมีชีวิตอยู่ไขข้อข้องใจว่าไอ้โม่งคือใคร?  คำตอบที่เป็นวลีทองคือ “ตายไปก็บอกไม่ได้”

เมื่อ พฤษภาคม 2535 ไอ้โม่งและองค์บริวารเหม็นขี้หน้า รัฐบาล พล.อ.สุจินดา  ก็หนุนหลัง พล.ต.จำลอง  ศรีเมือง ลูกสมุนคู่ใจอย่างถาวร ก่อม็อบล้มรัฐบาล พล.อ.สุจินดา  ด้วยเหตุผลต่อแหลไปวันๆ ว่านายกฯ สุจินดา ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง (ก็คล้ายกับม็อบเทพเทือก ที่ต่อแหลไปวันๆ ว่า ต้องปฏิรูปการเมืองไทย) แต่ขนาดของม็อบใหญ่กว่าของม็อบปี 2500 ที่ล้มรัฐบาล จอมพล ป. และรัฐบาลสุจินดามีบทเรียนมากกว่ารัฐบาล จอมพล ป. จึงจัดการปราบปรามผู้ประท้วงและรวบหัวหน้าม็อบ พล.ต.จำลอง ชนิดเอาอยู่จับใส่กุญแจมือเข้าคุกดำเนินการตามกฎหมาย  กระบวนการสืบสวนสอบสวนก็จะต้องเริ่มขึ้นว่าไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลัง พล.ต.จำลอง คือใคร   ไอ้โม่งตัวจริงจึงต้องแสดงบทบาทช่วยเหลือ พล.ต.จำลอง ลูกสมุนเพื่อไม่ให้ข้อกฎหมายลุกลามมาถึงตัวจึงเกิดการพลิกเกมโดยองค์บริวารนำตัว พล.อ.สุจิดา และ พล.ต.จำลอง เข้าเฝ้า แล้วผลรับออกแบบอึ้งไปตามๆกันคือ ล้มรัฐบาลสุจินดา ทั้งๆที่เป็นรัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายได้เปรียบทางการเมืองและกฎหมาย  บทเรียนจากรัฐบาลสุจินดาล้มทั้งยืน ได้กลายเป็นโมเดลศึกษาเพื่อจะใช้เป็นมาตรฐานจากการกระทำของไอ้โม่ง  แต่ทุกคนลืมไปว่าไอ้โม่งมีหลายมาตรฐาน

นปช. พยายามจะหาคำตอบจากบทเรียนโมเดลล้มรัฐบาลสุจินดา  โดยคาดหวังว่าการสังหารประชาชนของรัฐบาล ร.ท.อภิสิทธิ์ ในเดือนเดียวกันคือ พฤษภาคม ในปีเลขเดียวกันแต่กลับด้านคือ 35 เป็น 53  โดยหวังว่าไอ้โม่งจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับการล้มรัฐบาลสุจินดา แต่การกลับกลายเป็นว่าไอ้โม่งกลับหนุนหลังรัฐบาล ร.ท.อภิสิทธิ์ แล้วถีบศพประชาชนทิ้งไปอย่างไม่แยแสและยังเปิดไฟเขียวอนุมัติงบประมาณให้รัฐบาล ร.ท.อภิสิทธิ์ 8แสนล้านเพื่อให้มีเงินทอนไปซื้อเสียงล่วงหน้าอีกด้วย  คนเสื้อแดงจึงเกิดภาวะตาสว่างว่าไอ้โม่งมีหลายมาตรฐานแล้วแต่อารมณ์และแล้วแต่ผลประโยชน์

มาถึงปัจจุบัน รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์  ไอ้โม่งและองค์บริวารเหม็นขี้หน้าไม่ชอบรัฐบาลรัฐบาลน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยแสดงออกตลอดสองปีเศษจากเหตุการณ์ที่สามัญมนุษย์หาเหตุผลไม่ได้ตั้งแต่วันแรกจนถึงม็อบเทพเทือกประกาศตัวเป็นอันธพาลยึดสถานที่ราชการจนประกาศปิดกรุงเทพฯ รัฐบาลและองค์กรมวลชนต่างๆ พยายามจะทัดทานโดยอาศัยสถาบันตุลาการและองค์กรต่างๆ ของรัฐ โดยไม่เรียกร้องเอากับรัฐบาลเพราะมีบทเรียนตาสว่างว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจจริงแต่แทนที่ศาล องค์กรอิสระและทหารจะห้ามปรามม็อบอันธพาลกลับกลายเป็นว่าต่างช่วยกันรุมรัฐบาลด้วยเหตุผลว่าม็อบอันธพาลที่ยึดหน่วยราชการ (ปิดล้อมกระทรวงมหาดไทยจนถึงวันนี้ยังปิดล้อมต่อเนื่องทำงานไม่ได้) และปิดกรุงเทพฯ เป็นการแสดงออกถึงประชาธิปไตย

รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตาสว่างจากบทเรียนในอดีตทางประวัติศาสตร์ที่ไอ้โม่งชอบล้มรัฐบาลโดยชอบอ้างว่าจะเกิดการเสียเลือดเนื้อของประชาชนจึงเดินแนวทางไม่ใช้ความรุนแรงและยอมผ่อนปรนทุกเรื่องจนไอ้โม่งปวดกบาลหาข้ออ้างอย่างที่เคยๆ ล้มรัฐบาลเล่นงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้สักทีและล่าสุด นายกฯยิ่งลักษณ์กลับโยนคำถามที่แสบสันให้ไอ้โม่งที่ไม่ชอบประชาธิปไตยต้องตอบคือ “ยุบสภาแล้วไปเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภา ดีกว่าไหม?” 

ด้วยคำตอบที่ยากสำหรับไอ้โม่งที่ไม่ชอบประชาธิปไตย  จึงเกิดการถลำลึกของไอ้เทพเทือกประกาศความเลวประจานตัวเองด้วยการปิดกรุงเทพฯ  โดยหวังว่าเป็นไม้ตายสุดท้ายที่จะให้ยิ่งลักษณ์ยอม  แต่ก็พบกับความเงียบ จนถึงขณะนี้แผนการรัฐประหารในลักษณะพิเศษจึงต้องเกิดขึ้นแต่เป้าหมายหลักมิใช่การล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่เป้าหมายหลักเป็นการช่วยม็อบเทพเทือก (เพราะการปิดกรุงเทพคือสัญญาณความพ่ายแพ้ทางการเมืองของเทพเทือกลูกสมุน) ส่วนการล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นผลพลอยได้ซึ่งคล้ายกับสถานการณ์ความพ่ายแพ้ของ พล.ต.จำลอง ปี 2535 เพราะหากไม่ช่วยม็อบเทพเทือกจะต้องประสบกับการพ่ายแพ้อย่างแน่นนอนเพราะไม่อาจจะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้  และสิ่งที่ไอ้โม่งและองค์บริวารหวาดกลัวที่สุดคือไอ้เทพเทือกจะถูกรวบตัวในคราวนี้และการสอบสวนจะไปถึงตัวไอ้โม่งและองค์บริวารที่อยู่เบื้องหลัง  และจะเป็นความพ่ายแพ้ที่รุนแรงที่สุดนั่นคือประชาชนจะรุมเกลียดชังและประณามไม่ใช่เฉพาะไอ้เทพเทือกแต่จะลามไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังเพราะขณะนี้เขารู้กันหมดแล้วว่าเธอและพวกเธอเป็นใคร

การรัฐประหารในลักษณะพิเศษจะเริ่มต้นจากการชี้มูลของ ปปช. และการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และจะติดตามมาด้วยสารพัดคำวินิจฉัยเล่นงานรัฐบาลขององค์กรเครือข่ายองค์บริวารที่ตอแหลโจ่งแจ้งจนสังคมไทยและสังคมโลกรับไม่ได้เพื่อสร้างความชอบธรรมแบบแหลๆแถๆจนบ้านเมืองปั่นป่วนแล้วก็จะทำการเผด็จศึกปิดเกมในเร็วๆนี้ โดยห้ามวิภาควิจารณ์

ท่านจะเห็นการรัฐประหารในรูปแบบหลากหลายองค์กรถล่มรัฐบาลและถล่มม็อบเทพเทือกไปพร้อมๆกันที่แอ๊บว่าเป็นกลางด้วยข้อกล่าวหาว่าสองฝ่ายทะเลาะกันทำให้ประชาชนเดือดร้อน (ตามสูตรโบราณ) ภายใต้ร่มธง “เพื่อความสามัคคีของคนในชาติ” ซึ่งสุดท้ายหนีไม่พ้นที่เราจะได้เห็นภาพการเข้าเฝ้าของตัวแทนรัฐบาลและตัวแทนม็อบอย่างแน่นอน

โปรดจับตาจะได้เห็นในเร็วๆนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น