'จารุพรรณ' ส่งจดหมายแจงสหประชาชาติ ชี้รายงาน คอป.ให้ความจริงครึ่งเดียว
จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.เพื่อไทย ส่งจดหมายถึงข้าหลวงใหญ่สิท ธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุการจัดทำรายงาน คอป. เขียนโดยฝ่ายตรงข้ามกับคนเส ื้อแดงซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ขอ งประเทศ เป็นเหตุให้ OHCHR ได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียว 16 ส.ค. 56 - น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไ ทย ได้เผยแพร่ Press release แปลไทย:จดหมายส่งถึงข้าหลวง ใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประช าชาติ (UN OHCHR) ผ่านหน้าเฟซบุ๊กของตนเอง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ Press release แปลไทย:จดหมายส่งถึงข้าหลวง ใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประช าชาติ(UN OHCHR) ที่มา: เฟซบุคจารุพรรณ กุลดิลก ดิฉัน สส. จารุพรรณ กุลดิลก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบั ญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทำจดหมายถึงข้าหลวงใหญ่ด้าน สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาต ิชี้แจงในสองเรื่อง ได้แก่ (1)รายงานฉบับสมบูรณ์คณะกรร มการอิสระตรวจสอบและค้นหาคว ามจริงเพื่อการปรองดองแห่งช าติ(คอป.) และ (2) สถานภาพของคณะกรรมการสิทธิม นุษยชนแห่งชาติซึ่งดำรงอยู่ โดยขัดกับหลักการปารีส (Paris Principles) ในประเด็นแรก จากการศึกษาการทำงานของคณะก รรมการอิสระตรวจสอบและค้นหา ความจริงเพื่อการปรองดองแห่ งชาติ (คอป.) พบว่าการจัดทำรายงานมีพื้นฐ านมาจากข้อมูลที่เขียนโดยฝ่ ายตรงข้ามกับคนเสื้อแดงซึ่ง เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นเหตุให้ข้าหลวงใหญ่ด้าน สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาต ิได้รับข้อมูลเพียงด้านเดีย ว และตัวคณะกรรมการของคอป. ก็มาจากการเสนอชื่อของพรรคป ระชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรครัฐ บาลในขณะนั้น ตัวกรรมการในอนุกรรมการตรวจ สอบข้อเท็จจริงได้แสดงความล ำเอียงตั้งแต่ต้น อนุกรรมการสองท่านเคยทำงานเ ป็นการ์ดให้กับกลุ่มพันธมิต รประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พ ธม.) ซึ่งเป็นกลุ่มชาตินิยมสุดโต ่ง ที่เรียกร้องให้มีการทำรัฐป ระหารเมื่อปี 2549 ได้แก่ นายเมธา มาสขาว และนายชัยวัฒน์ ตรีวิทยา โดยอนุกรรมการชุดนี้มีนายสม ชาย หอมลออ เป็นประธาน เป็นเรื่องที่ทำให้คนทั้งปร ะเทศตกใจ เมื่อทราบว่านายสมชายแต่งตั ้งสมาชิกกลุ่มพธม.เข้ามาทำง านและเป็นผู้จัดทำรายงาน และบุคคลทั้งสองยังมีความสั มพันธ์ใกล้ชิดกับ พลตรีจำลอง ศรีเมือง แกนนำหลักของพธม. ถือได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ ของคอป. ขัดต่อหลักกระบวนการอันควรต ามกฎหมายและหลักนิติธรรม เป็นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งไ ม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนส ่วนใหญ่ ผู้เขียนรายงานของ คอป.จงใจละทิ้งประเด็นสำคัญ ที่เป็นเนื้อหาสาระและยังเข ียนรายงานอย่างขาดความเป็นก ลาง ดิฉันขอย้ำว่าคนไทยต้องการค วามปรองดอง แต่ที่ผ่านมากระบวนการดังกล ่าวได้ถูกขัดขวางโดยหน่วยงา นต่างๆ ที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหา ร เกี่ยวกับสถานภาพของคณะกรรม การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติซึ่ งขัดกับหลักการปารีส ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจัก รไทยพ.ศ. 2550 ได้กำหนดให้เลือกผู้ซึ่งมีค วามรู้หรือประสบการณ์ด้านกา รคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของปร ะชาชนเป็นที่ประจักษ์ และไทยเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศแรก ที่ให้การรับรองปฏิญญาสากลว ่าด้วยสิทธิมนุษยชน(Univers al Declaration of Human Rights - UDHR) เมื่อวันที่10 ธันวาคม 2491 รวมทั้งยังให้สัตยาบันต่อสน ธิสัญญาระหว่างประเทศที่ว่า ด้วยสิทธิมนุษยชน (International Bills of Human Rights) ได้แก่ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยส ิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเ มือง (International Covenant on Civil and Political Rights - ICCPR) และกติการะหว่างประเทศว่าด้ วยสิทธิทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights - ICESCR) แต่ที่ผ่านมาสถาบันตุลาการใ นประเทศไทยไม่ให้ความใส่ใจ ที่จะพิจารณาเนื้อหาของกฎหม ายระหว่างประเทศไม่มีการนำม าตรฐานระหว่างประเทศเหล่านี ้มาใช้ในการตัดสินอรรถคดีต่ างๆ ในขณะที่ระบบกฎหมายและระเบี ยบวิธีพิจารณาความของระบบกฎ หมายไทยยังไม่ได้สะท้อนมาตร ฐานการไต่สวนคดีอย่างเป็นธร รมซึ่งได้รับการรับรองจากกต ิกา ICCPR หลักการปารีสมีการรับรองตาม มติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่ง สหประชาชาติตามมติที่ 48/ 134 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2536 โดยในหลักการดังกล่าวกำหนดไว้ว่ า เนื่องจากสถาบันสิทธิมนุษยช นเป็นสถาบันระดับชาติ จึงต้องเป็นหน่วยงานที่มีคว ามเป็นอิสระและมีความเป็นพห ุนิยม แต่ในทางตรงกันข้าม บรรดาสมาชิกของคณะกรรมการสิ ทธิมนุษยชนแห่งชาติ ล้วนแต่ได้รับการคัดเลือกจา กบุคคลเพียงไม่กี่คน เป็นเหตุให้ขาดความเป็นพหุน ิยม บรรดากรรมการกสม. ล้วนแต่มีอุดมการณ์ที่ล้าสม ัย หลักเกณฑ์การคัดเลือกกรรมกา รกสม. ไม่สอดคล้องกับมติที่ประชุม สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติต ามมติที่ 48/ 134 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2536 และไม่สอดคล้องกับหลักการปารีส ด้วยเหตุดังกล่าวจึงไม่อาจถ ือได้ว่ากสม.เป็นสถาบันระดั บชาติที่ชอบด้วยกฎหมาย ข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลโดยย ่อ โดยดิฉันจะจัดส่งเอกสารและห ลักฐานที่เกี่ยวข้องให้กับท างข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษ ยชนแห่งสหประชาชาติทางจดหมา ยด่วนอีกครั้งหนึ่ง ดิฉันหวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดขอ งประชาคมนานาชาติที่มีต่อรา ยงานของ คอป. และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่ง ชาติ และหวังว่าจะช่วยให้สามารถเ อาชนะอุปสรรคและเปลี่ยนแปลง ทัศนคติของคนไทย ที่มีต่อบรรทัดฐานด้านสิทธิ มนุษยชนระหว่างประเทศ ปัญหาหลายประการในปัจจุบันเ กิดขึ้นจากการขาดธรรมาภิบาล ขาดความโปร่งใสและตรวจสอบได ้ หลายหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ โดยพลการ ไม่คำนึงถึงกระบวนการอันควร ตามกฎหมายเป็นเหตุให้ประเทศ ไทยมีสภาพใกล้เคียงกับ“สงคร ามกลางเมือง” จึงมีความจำเป็นที่ข้าหลวงใ หญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหป ระชาชาติจะต้องแสดงออกถึงคว ามไม่ลำเอียงและมีการปฏิบัต ิตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนอย่า งเข้มงวด และงดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลข ่าวสารและข้อกล่าวหาที่ไม่เ ป็นความจริงซึ่งมีแต่จะทำให ้สถานการณ์การเมืองเลวร้ายล ง ดิฉันยังเชื่อมั่นในอุดมการ ณ์ของท่านไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยความนับถือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จารุพรรณ กุลดิลก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพ ื่อไทย Posted: 16 Aug 2013 05:40 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประขาไท)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น